ศาลเบรกพ่อนายกฯไปอินโด

"ทักษิณ" ชวดบินร่วมถกอาเซียนอินโดฯ ศาลยกคำร้องชี้ไม่มีเหตุผลเพียงพอ ม็อบบุกกระทรวงการคลังประกาศค้านกาสิโนทุกรูปแบบ ทวงคำตอบคดียึดทรัพย์แม้ว "กล้าธรรม"  ทำบุญเปิดที่ทำการพรรคใหม่ "ธรรมนัส" ลั่นฮวงจุ้ยดีพร้อมเลือกตั้งปี 70 มี สส.ในมือ 34 เสียง  แต่ทางการ 24 คน “กาญจนา” สส.พปชร.โผล่ร่วมงาน

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้า  นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  พร้อมด้วยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ  ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ต่อมาเวลา 12.02 น. นายทักษิณเดินทางออกจากศาลอาญา

จากนั้นเวลา 15.00 น.เศษ ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องขอเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณ โดยระบุว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร

มีรายงานว่า สำหรับคำร้องของนายทักษิณเป็นการขออนุญาตไปประชุมอาเซียนที่ประเทศอินโดนีเซียในวันที่ 7 มี.ค.2568 โดยมีหนังสือเชิญจากประธานาธิบดีอินโดนีเซีย

วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ได้ยื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เพื่อส่งต่อให้นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โดยขอให้ทบทวนบทบาทหน้าที่ของนายทักษิณ ที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของประธานอาเซียน อันเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย

หนังสือดังกล่าวระบุว่า นายทักษิณได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า มาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาของประธานอาเซียน พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนให้สัญญาว่า ภายใน 1 ปี ประชาชนในพื้นที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ มีสันติสุขเกิดขึ้น ทำให้สังคมไทยสงสัยเป็นการปฏิบัติหน้าที่เกินขอบเขตฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของประธานอาเซียนหรือไม่ ประธานอาเซียนรับทราบและเห็นชอบการปฏิบัติหน้าที่นี้หรือไม่ จึงเกิดคำถามว่า เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งผิดหลักการตามกฎบัตรอาเซียน และเป็นการไม่เคารพต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศไทย

ที่กระทรวงการคลัง เมื่อเวลา 10.00 น. ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ, นายใจเพชร กล้าจน ตัวแทนกองทัพธรรม และนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ตัวแทนศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) พร้อมมวลชนกว่า 200 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เพื่อคัดค้านนโยบายกาสิโน โดยมีนายศิขรินทร์ ลิ่มนิจสรกุล รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ

โดยแกนนำ คปท.ระบุตอนหนึ่งว่า แทนที่รัฐบาลจะรับฟังเสียงคัดค้านของประชาชน นายจุลพันธ์กลับให้มีการแก้หลักเกณฑ์เงื่อนไขการเข้าเล่นกาสิโนให้สามารถเข้าเล่นได้ง่ายขึ้น โดยกำหนดเพียงเงื่อนไขการเสียภาษีย้อนหลัง 3 ปี สวนทางก่อนหน้านี้ของนายจุลพันธ์ที่อ้างว่าการเปิดกาสิโนมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น การพูดกลับกลอกของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นการแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพในการบริหารนโยบายของรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้ประชาชนตกอยู่ภายใต้นโยบายอบายมุข และอาจเปิดช่องให้ขบวนการสีเทาเข้ามาหาผลประโยชน์ ดังนั้นพวกเราขอคัดค้านนโยบายกาสิโนทุกรูปแบบ

นอกจากนี้เครือข่ายขอให้กระทรวงการคลังชี้แจงความคืบหน้าของการยึดทรัพย์นายทักษิณ จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท ว่าดำเนินการไปถึงขั้นตอนใดแล้ว ซึ่งเคยยื่นหนังสือไว้เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2567 เพื่อขอให้ดำเนินการเรียกนายทักษิณมาชดใช้ความเสียหาย หรือดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินตามกระบวนการของกฎหมาย

ที่ทำการพรรคกล้าธรรม อาคารกล้าธรรม ถนนรัชดาภิเษก กทม. คณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ร่วมทำพิธีทำบุญเปิดอาคารพรรคกล้าธรรม โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 10 รูป นำโดยสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ และรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี และนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ซึ่งเพิ่งถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ สั่งจําคุกจากคดีทุจริตฮั้วระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง มาร่วมทำบุญกับพรรคกล้าธรรมในวันนี้ด้วย

จากนั้นเวลา 08.30 น. ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ขณะนี้ได้เปลี่ยนชื่ออาคารจากชื่อเดิมคือ อาคารปานศรี มาเป็นอาคารกล้าธรรม ที่นี่ตอนปี 62 ได้ สส.ทั้งหมด 120 คน ยอมรับว่าฮวงจุ้ยที่นี่ดี เจ้าที่ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเมื่อที่ทำการพรรคฮวงจุ้ยดี คาดว่าปี 70 จะได้ สส.เยอะหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตอนนี้ศูนย์ทั้ง 4 ภาคของพรรค จะเปิดภายในเดือน มี.ค.นี้ สิ่งสำคัญคือ ศูนย์ของพรรคแต่ละจังหวัดในอีก 68 ศูนย์ จะต้องเสร็จภายในเดือน เม.ย. นั่นหมายความว่าพรรคกล้าธรรมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในปี 70 แล้ว ส่วนว่าที่ผู้สมัคร สส. ถ้าเปิดมาแล้วเห็นแต่หน้าเดิมๆ เราไม่เอา ต้องเปิดมาแล้วร้องว้าว ใช่เลย แต่ที่เราคุยกันคือ ถ้าเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นการรวมพลของคนหลากหลายอาชีพ ทุกวัย รวมถึงทีมยุทธศาสตร์ของคนรุ่นใหม่ได้มอบให้หัวหน้าพรรคดูแล ส่วนนักรบอย่างตนไปลุยในพื้นที่เลือกตั้ง คอยดูแลประชาชน

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวถึงจำนวนเสียง สส.ของพรรคกล้าธรรมขณะนี้ว่า หากนับอย่างไม่เป็นทางการคือ 34 เสียง ส่วน สส.พรรคกล้าธรรมอย่างเป็นทางการคือ 24 เสียง และการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้ เสียงพรรคกล้าธรรมจะไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

เมื่อถามว่า บอกได้หรือไม่ว่า 34 เสียง มาจากพรรคพลังประชารัฐกี่เสียง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า 24 เสียงจากพรรคกล้าธรรม ส่วนอีก 10 เสียงไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง มีสิทธิ์ที่จะอภิปรายตามสไตล์ของท่าน ส่วนจะมีข้อมูลเด็ดหรือไม่นั้น ไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เคยใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร พอจะทราบว่ามีข้อมูลหรือลีลาการอภิปรายเป็นแบบใด ร.อ.ธรรมนัสตอบทันทีว่า “ในฐานะที่เคยใกล้ชิด ถ้าผมยังอยู่ ผมคงไม่ให้ท่านอภิปราย ถ้าคนรักท่าน ก็ต้องรักท่านจริงๆ” เมื่อถามย้ำว่า แปลว่าถ้ารักท่านไม่ควรให้ท่านอภิปรายใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์

ส่วนที่คณะรัฐมนตรีทำหนังสือสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ ถึงความชัดเจนคุณสมบัติรัฐมนตรีในเรื่องจริยธรรมที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการถามเพื่อเปิดทางให้ ร.อ.ธรรมนัสกลับมาเป็นรัฐมนตรีนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกัน และการที่คณะรัฐมนตรีถามไปยังศาลนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าตนเองมีคุณสมบัติรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ต้องอย่าลืมว่าตนเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว 2 สมัย และมีคำพิพากษาศาลชัดเจน ซึ่งเป็นประเด็นของตน อย่าไปหลงประเด็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี พร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปมองอะไรไกลขนาดนั้น รัฐมนตรีทั้ง 3 คนที่ตนส่งไปดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ยังทำหน้าที่ได้ดี ส่วนเคยมีการพูดคุยกับแกนนำรัฐบาลหรือพูดคุยกับนายทักษิณหรือไม่นั้น แม้ว่าเราจะเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค แต่การพูดคุยต้องคุยกับหัวหน้าพรรค คือ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และจะเป็นผู้ตัดสินใจ

สำหรับกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับนายเนวิน ชิดชอบ เข้าพบนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ขณะที่ยังมีปัญหาความขัดแย้งนั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ มีทุกพรรค ไม่ใช่เฉพาะพรรคภูมิใจไทย ที่เข้าไปหารือทั้งเรื่องส่วนตัวและพรรคร่วมรัฐบาล หลายพรรคก็เข้าไป เราอย่าไปคิดมาก ทั้งนี้ ต้องแยกแยะระหว่าง 2 สภา ในเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลมีการคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว รัฐบาลก็เดินหน้าต่อได้

ด้านนางนฤมลกล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.