เด้ง "รรท.ผบ.คุกคลองเปรม" ตั้งรองอธิบดีราชทัณฑ์ปฏิบัติหน้าที่แทน "รมว.ยธ." สั่งกรมคุกร่วมมือตำรวจสอบสวนเหตุเสียชีวิต "อดีต ผกก.โจ้" เต็มที่ "ผบก.น.2" แจงคราบเลือดพื้นห้องขังเกิดช่วงชันสูตรศพ สอบปากคำพยาน 2 ราย พร้อมส่งเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดให้ พฐ.ตรวจ จ่อจำลองเหตุในเรือนจำ ส่วนคลิปสนทนาญาติขอไปแล้ว
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม กรมราชทัณฑ์ได้เผยแพร่เอกสารข่าวเรื่อง "มอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่" ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมได้มีคำสั่งที่ 70/2568 ลงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2568 มอบหมายให้นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปปฏิบัติหน้าที่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม โดยมีหน้าที่และอำนาจเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบการปฏิบัติราชการของเรือนจำกลางคลองเปรมอีกหน้าที่หนึ่ง และให้นายเผด็จ หริ่งรอด ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม กลับไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง
"คำสั่งดังกล่าวไม่ใช่เป็นการลงโทษ แต่เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรือนจำกลางคลองเปรมมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อกรณีการเสียชีวิตของ ข.ช.ธิติสรรค์ อุทธนผล และข้อกล่าวหาที่ถูกผู้คุมทำร้ายร่างกาย เป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรมต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมต่อไป" กรมราชทัณฑ์ระบุ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ว่า ได้สั่งการให้กรมราชทัณฑ์ให้ความร่วมมือกับตำรวจและเร่งรัดให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมา กรมราชทัณฑ์จะดูเรื่องการสอบสวนภายใน แต่การสืบสวนสอบสวนคดีการตายเป็นของตำรวจ ส่วนที่มีข่าวว่าขณะญาติเข้าเยี่ยมอดีตผู้กำกับโจ้ ผู้คุมมีการถ่ายคลิปอดีตผู้กำกับโจ้โวยวายสติหลุดนั้น โดยปกติเรือนจำทุกแห่งจะมีการบันทึกการสนทนาขณะญาติเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง แต่หลักฐานทั้งหมดจะต้องถูกเก็บเป็นความลับ ส่วนที่มีข้อมูลว่าพบข้อความสนทนาบางอย่างที่อาจนำไปสู่แรงจูงใจในการก่อเหตุนั้น ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการสอบสวน
เมื่อถามถึงประเด็นที่พนักงานสอบสวนระบุว่าขณะเข้าไปพบศพนั้น พบว่าศพไม่ได้อยู่ในสภาพแขวนคอแล้ว ยากต่อการชันสูตรพลิกศพ รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการปฏิรูปทั้งหมด เพราะตามระเบียบเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเท่านั้นที่จะแตะศพได้คนแรก ยกเว้นกรณีเข้าไปช่วยเหลือก่อนเสียชีวิต โดยการเข้าไปต้องรอให้ครบ 4 หน่วย แต่กรณีนี้ที่มองว่ากว่าจะได้เข้าไปล่าช้า ต้องดูเหตุผลว่าทำไมพอเป็นเวลากลางคืนแล้วจึงช้า แต่ย้ำว่าไม่ปล่อยให้มีการทำลายพยานหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพมีความรู้อยู่แล้ว
พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า การสอบ ผบ.เรือนจำและผู้คุม ขณะนี้กำลังเร่งรัด โดยให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นหัวหน้าคณะในการตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายหรือไม่ ซึ่งจะมีหน่วยงานภายนอกร่วมตรวจสอบด้วย แต่ในส่วนที่ญาติ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ไปร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาเป็นคดีพิเศษนั้น จะต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพก่อน
ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ไปร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางคลองเปรม และได้เร่งรัดให้สอบสวนปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องภายในเรือนจำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้คุมแดน 5 และแดน 7, ผู้ดูแล, แพทย์, เจ้าหน้าที่เวชระเบียน, ผู้ต้องขังที่เห็นเหตุการณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังห้องใกล้เคียง นอกจากนี้ยังได้ยกเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดต้นฉบับทั้งหมดของเรือนจำ ไปให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ว่ามีการแก้ไขดัดแปลง ตัดต่อกล้องวงจรปิดหรือไม่
ส่วนกรณีคราบเลือดต้องสงสัยบนพื้นห้องขังอดีต ผกก.โจ้นั้น เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบกล้องวงจรปิด ภาพนิ่งก่อน และหลังการชันสูตรพลิกศพแล้ว พบว่าเป็นคราบเลือดที่เกิดจากการพลิกร่างขณะชันสูตรเบื้องต้น เนื่องจากก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจศพ ไม่พบคราบเลือด และมาพบหลังชันสูตรแล้ว ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่ใช่เลือดสด แต่เป็นของเหลวที่ไหลออกมาหลังการเสียชีวิตจากบาดแผลสัตว์กัดแทะ และไปเปื้อนพื้นห้องขัง
ส่วนประเด็นที่สังคมสนใจ อดีต ผกก.โจ้มีปากเสียงหลังพูดคุยกับครอบครัวที่เข้าไปเยี่ยม จนอาจเป็นแรงกดดันให้จบชีวิตตนเองหรือไม่นั้น จากการสอบปากคำพยานในขณะนี้ยังไม่พบความขัดแย้ง หรือปัญหาครอบครัว อย่างไรก็ตาม จะต้องรอรายงานผลสอบปากคำพยานทั้งหมด รวมถึงผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อน ส่วนคลิปบันทึกการสนทนาระหว่างเยี่ยมญาตินั้น ทางตำรวจได้ประสานเรื่องขอคลิปดังกล่าวจากเรือนจำไปแล้ว
ทั้งนี้ จะต้องมีการเข้าไปจำลองเหตุภายในเรือนจำด้วย โดยต้องให้ศพเล่าเรื่อง เพราะหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ไม่โกหก ซึ่งสำนวนการชันสูตรพลิกศพ ภายใน 30 วัน จะต้องมีความชัดเจนว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอะไร หรือใครทำให้ตาย และจะต้องดูเจตนาผลกระทบที่อาจส่งผลต่อการเสียชีวิตด้วย ซึ่งทางตำรวจก็มีการติดตามกระแสข่าวและข้อสงสัยต่างๆ ที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียอยู่ตลอด โดยยืนยันว่าตำรวจสืบสวนในทุกประเด็นมากกว่าที่สังคมสงสัยแน่นอน
พล.ต.ต.เจษฎากล่าวด้วยว่า ความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ นั้น แม้ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่หากถูกกดดันจากภายนอก ลดคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กระทบสิทธิเสรีภาพของบุคคล ก็เข้าข่ายความผิดแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องลงมือทำร้ายร่างกาย ส่วนการแจ้งข้อหานั้น เป็นเรื่องของอัยการหรือคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ญาติของอดีตผู้กำกับโจ้ร้องเรียนสอบจริยธรรมผู้คุมเรือนจำนั้น มีรายงานว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.รับไว้พิจารณาตามหน้าที่แล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


