“นายกฯ อิ๊งค์” ออกแถลงการณ์สู้ภาษีทรัมป์ฉบับ 2 ไร้รูปธรรม แค่ยกสัมพันธ์อันยาวนานกับมะกัน รอหลังหยุดยาว 8 เม.ย.ถึงค่อยประชุม “จิรายุ” บอกไม่ต้องรีบ ไม่งั้นซ้ำรอยชาติอื่นให้ของฟรีอเมริกา “พรรคฝ่ายค้าน” รุมสับยิ่งกว่าเรือเกลือ ประสานเสียงหนุนใช้แนวทาง “อันวาร์” อาเซียนผนึกกำลังต่อรอง
เมื่อวันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2568 ในเวลา 00.01 น.ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา หรือตรงกับเวลา 11.01 น.ของวันเสาร์ในไทย ศุลกากรสหรัฐได้เริ่มมาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทั่วโลกในอัตรา 10% แล้ว ส่วนภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บเพิ่มจากแต่ละประเทศในอัตราที่แตกต่างกัน ซึ่งมีตั้งแต่ 11-50% นั้น จะมีผลตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันพุธที่ 9 เม.ย.2568 ตามวันเวลาในสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 11.01 น.ในวันพุธของไทย ซึ่งต้องถูกเก็บภาษีถึง 36%
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ท่าทีของไทยต่อเรื่องดังกล่าวเป็นฉบับที่ 2 ว่า เราเชื่อว่าทั่วโลกกำลังจะเห็นการตอบโต้กันอย่างหนักหน่วงผ่านเครื่องมือทางภาษี และหลายประเทศก็ตัดสินใจไปเจรจาพูดคุยกับรัฐบาลสหรัฐ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครได้ข้อสรุปของการเจรจาแต่อย่างใด ในส่วนของไทยมาตรการนี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการส่งออกสินค้าของเรา โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป และสินค้าเกษตร ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานในเรื่องนี้ขึ้นมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2568 และมีการหารือกับภาคเอกชนรวมทั้งตัวแทนของสหรัฐถึงข้อเสนออย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการมาโดยตลอด และในสัปดาห์หน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางไปหารือกับหลายภาคส่วนในสหรัฐ ทั้งภาครัฐ เอกชน และผู้ที่มีส่วนได้เสีย โดยสิ่งที่เราจะสื่อสารกับรัฐบาลสหรัฐคือ ประเทศไทยไม่ใช่แค่ผู้ส่งออกเท่านั้น แต่เราคือพันธมิตรและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สหรัฐเชื่อถือได้ในระยะยาว
น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า รัฐบาลได้สรุปข้อเสนอเชิงนโยบายต่างๆ เช่น การเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในด้านพลังงาน อากาศยาน และสินค้าเกษตร โดยไทยมีแผนที่จะสร้างความร่วมมือกับภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มอื่นๆ ที่มีส่วนได้เสียสำคัญในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐ ซึ่งมีรายละเอียดในนโยบายอีกมาก โดยขอให้มั่นใจว่าข้อเสนอเหล่านี้ ล้วนแต่คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศไทยเหนือสิ่งอื่นใด นอกจากนี้ไทยจะเจรจาเรื่องการส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐ และลดเงื่อนไขการนำเข้าที่เป็นอุปสรรค รวมไปถึงการปราบปราม การสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้าที่ใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังสหรัฐ
“ดิฉันมั่นใจว่า ข้อเสนอข้างต้นนี้จะทำให้การเจรจากับสหรัฐบรรลุผลเพื่อให้ประเทศไทยและสหรัฐยังคงเป็นพันธมิตรและคู่ค้าที่เป็นมิตรต่อกัน ดิฉันขอให้คำมั่นว่า ทุกท่านไม่ได้โดดเดี่ยว ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง รัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาเร่งด่วนในระยะสั้นและระยะยาว และในวันอังคารที่ 8 เม.ย.นี้ หลังจากประชุมสรุปกับคณะกรรมการและทุกหน่วยงานอีกครั้งหนึ่ง จะสรุปแนวทางเพื่อผลประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสำคัญ และขอเรียนย้ำอีกครั้ง ว่ารัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อสร้างฐานเศรษฐกิจไทยให้มั่นคง แข็งแรง และเท่าทันโลก และเพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมีศักดิ์ศรีเพื่อประเทศไทยของเรา”
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯ กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 เม.ย. นายกฯ ได้ประชุมร่วมกับคณะวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์ภาษีสหรัฐ เพื่อติดตามและนำมาเป็นข้อมูลเชิงเปรียบเทียบในแต่ละประเทศว่าจะดำเนินการอย่างไร ที่จะทำให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุดทางการค้าระหว่างประเทศครั้งนี้ ซึ่งวอร์รูมเห็นตรงกันว่า ช้าไปก็ไม่ดี เร็วไปก็เสี่ยง จึงจำเป็นต้องรอบคอบ เห็นได้ว่าประเทศอื่นที่เริ่มการเจรจาไปก่อนการประกาศขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ไม่ได้ช่วยสถานการณ์ประเทศนั้นๆ ให้ดีขึ้นแต่อย่างใด กลับถูกตั้งกำแพงภาษีมากกว่าที่คาด ดังนั้น การเร่งรีบจึงไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ตรงกันข้ามกลับกลายเป็นการประกาศให้ของฟรีกับอเมริกาไปก่อนหน้าการประกาศขึ้นภาษี
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า นายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ดูแล ซึ่งได้นัดหมาย ตั้งคณะเจรจา คิดว่าในเร็ววันนี้จะมีโอกาสเจรจาและพูดคุยกัน และสถานการณ์ก็จะคลี่คลายลง แต่ประชาชนคนไทยก็ต้องเตรียมตัวเช่นเดียวกัน ในการต่อสู้เรื่องค่าใช้จ่ายและภาษี เพราะนี่เป็นการเริ่มต้นเท่านั้น
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ พณ.ได้เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว เพียงแต่ว่าเราขอดูว่าภาษีที่ขึ้นมีอะไรบ้าง และเหตุผลที่เขาขึ้นภาษีเรา 36% เรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นระหว่างกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนของ พณ.มี รมว.พาณิชย์และปลัดพาณิชย์อยู่ในคณะกรรมการ
ฝ่ายค้านอัดรัฐบาลต้วมเตี้ยม
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ของ น.ส.แพทองธารว่า เป็นการดำเนินการที่ช้าและยังไม่ชัดเจนเพียงพอ ในขณะที่นายกฯ มาเลเซียที่แสดงบทบาทประธานอาเซียน 2568 เพื่อใช้กรอบการเจรจาภูมิภาคอาเซียน ในการเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับกลุ่มอาเซียน แต่ก็ยังไม่เห็นบทบาทไทยทั้งที่เป็นประเทศสำคัญในอาเซียน
เมื่อถามถึงรายชื่อทีมเจรจาที่จะเป็นผู้เดินทางไปเจรจากับสหรัฐ ทั้งนายพิชัย และนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ นายณัฐพงษ์มองว่า แม้ตัวบุคคลที่จะไปเจรจาจะมีความสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการสร้างอำนาจต่อรองให้ประเทศไทยก่อนเจรจา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่นายกฯ ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงความชัดเจนให้กับสังคม มีเพียงความเป็นมิตรภาพระหว่างไทยและสหรัฐ ซึ่งสหรัฐรับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ก็ยังเลือกดำเนินนโยบายนี้ ฉะนั้นก่อนเจรจาจึงควรรู้อำนาจต่อรองตนเองก่อน
นายณัฐพงษ์กล่าวถึงกรณีมีผู้เสนอให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นม้าเร็วในการเจรจากับสหรัฐว่า ควรเป็นนายกฯ หรือคณะทำงานที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีโดยตรง ไม่ควรให้นายทักษิณ ซึ่งเป็นบิดาของนายกฯ ไปเจรจาแทน เพราะหากนายทักษิณเป็นม้าเร็วเจรจาเองจริง ก็จะยิ่งเกิดผลกระทบต่อนายกฯ ที่จะขาดความน่าเชื่อถือมากขึ้น
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ปชน. โพสต์ถึงแถลงการณ์ของ น.ส.แพทองธาร ว่าสรุปผู้เป็นหัวหน้าคณะเจรจาคือ นายพิชัย ชุณหวชิร เห็นถึงความงุนงงสับสนแล้วรึยัง ไม่ใช่ อ.พันศักดิ์ ไม่ใช่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พณ. ไม่ใช่ทูตประจำดีซี ส่วนทีม 9 คนที่ประกาศก่อนหน้านี้ ก็เป็นทีมนโยบายให้ข้อมูลเฉยๆ ส่วนยุทธศาสตร์ยังคงไม่เปิดเผย ซึ่งพรรคเรียกร้องว่าอย่ามุบมิบเจรจา ต้องเปิดให้ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ทราบ
“10 โมงเช้าวันนี้ 6 เม.ย. ภาษีนำเข้ารอบแรกที่ 10% จะเริ่มเก็บกับทุกสินค้าที่ยังไม่ได้ออกจากท่า ส่วนที่ออกเรือแล้วให้เวลา 51 วัน ถ้ายังไม่เทียบท่าก็จะโดนเก็บทันที ส่วนการประชุมนัดแรกเริ่ม 8 เม.ย. ต้องรอหลังวันหยุดยาว” น.ส.ศิริกัญญาระบุ
น.ส.พรรณิการ์ วานิช คณะก้าวหน้า ทวีตข้อความว่า นายกฯ อันวาร์ของมาเลเซีย แสดงบทบาทประธานอาเซียนได้อย่างชาญฉลาด และเหมาะกับสถานการณ์ ภายใน 24 ชั่วโมงหลังทรัมป์ประกาศนโยบายภาษี นายกฯ อันวาร์ก็ริเริ่มยุทธศาสตร์รวมตัวกันในอาเซียนเพื่อต่อรองกับทรัมป์ ซึ่งเป็นวิธีที่เชื่อว่าจะทำให้เจรจาได้อย่างมีน้ำหนักกว่าการเจรจาแยกประเทศ ว่าแต่รัฐบาลไทย ม่แน่ใจว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ สถานการณ์ทั่วโลกกำลังตื่นตัวเรื่องการรับมือภาษีทรัมป์ แต่ดูเหมือนราชการไทยจะหยุดยาว"
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า นายกฯ และรัฐบาลดำเนินการช้าเกินไป เพราะประเทศอื่นมีการเจรจาแล้ว แต่ของเราเพิ่งเตรียมไป ซึ่งคิดว่าช้ามาก
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า ควรแสวงหาความร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของนายทรัมป์เช่นกัน โดยใช้เวทีอาเซียนในการหารือเร่งด่วนกับมิตรประเทศ เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการเสนอข้อต่อรองไปยังสหรัฐอเมริกา โดยใช้พลังของอาเซียนและขอเสนอให้รัฐบาลได้ใช้รัฐสภาเป็นเวทีระดมความคิดเห็นในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการประชุมสภา รัฐบาลต้องทบทวนการทำงาน ลำดับความสำคัญว่า อะไรคือปัญหาเร่งด่วน ซึ่งกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ถ้าเทียบกับเรื่องความเสียหายจากการขึ้นภาษีของทรัมป์
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากไทยไม่สามารถเจรจาลดภาษีได้เลย มีโอกาสเช่นเดียวกันที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยอาจติดลบ ถ้าภาคส่งออกติดลบเกิน 5% ซึ่งการผนึกกำลังกับประเทศอาเซียนเพื่อไปเจรจาต่อรองร่วมกันจะเพิ่มอำนาจต่อรองให้ประเทศไทย และมีพลังมากกว่าการไปเจรจาแบบทวิภาคี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก
โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก
‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่
ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน
‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง
"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12
พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา
พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว

