ตัดไฟ!ถอยกาสิโน อิ๊งค์ขอ2เดือนกล่อมสังคม/จับตาโหวตพรบ.นิรโทษ4ฉบับ

“แพทองธาร” ใส่เกียร์ถอย อ้างมีวิกฤตเร่งด่วนกว่าทั้งเรื่องแผ่นดินไหว-ภาษีทรัมป์  ยันไม่มีการถอนเรื่อง เพราะเป็นนโยบายรัฐบาล  สั่งทุกพรรคใช้เวลาปิดสมัยประชุมไปกล่อมชาวบ้านให้เข้าใจก่อนดันต่อ “พ่อนายกฯ” ปัดขู่เขี่ยทิ้ง ชี้อย่าไปเทียบกับบ่อนเพื่อนบ้าน เพราะคนละแบบกัน “ธรรมนัส” แฉอยู่ในเหตุการณ์ คนพูดคือคนในพรรคร่วมฯ “สว.” บอกใครโหวตเห็นชอบชงสอบจริยธรรมแน่ “สภาวัฒนธรรมฯ” ออกโรงค้าน ยกคำโบราณไฟไหม้สิบครั้งไม่เท่าติดการพนันครั้งเดียวสอนรัฐ

เมื่อวันอังคารที่ 8 เมษายน 2568 ยังคงมีความต่อเนื่องในกระแสต่อต้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธที่ 9 เม.ย.นี้  

โดยล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลยืนร่วมในการแถลงข่าว ว่าหลังประชุม ครม.ได้ประชุมร่วมกันกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ได้พูดคุยถึงปัญหาวิกฤตต่างๆ ที่ประเทศเรากำลังประสบอยู่ในตอนนี้ ซึ่งเรื่องวิกฤตเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องรีบแก้ปัญหาก่อน พรรคร่วมรัฐบาลได้พูดคุยกันหมดแล้วว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่เห็นตรงกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะก่อนที่เกิดวิกฤตหรือเกิดวิกฤตแล้วก็ไม่ได้มีเรื่องของการไม่เห็นตรงกันหรืออย่างไร เพราะได้นั่งคุยกันในทุกขั้นตอน

เมื่อถามว่า เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาวันที่ 9 เม.ย. จะมีเลื่อนหรือพิจารณาวันที่ 9 เม.ย.เลย นายกฯ กล่าวว่า ค่ะ เดี๋ยวดูว่าในสภายังไงต่อ เดี๋ยวคงต้องดู แต่ความจริงที่คุยพรรคร่วมรัฐบาลก็คิดว่าต้องเอาเรื่องเร่งด่วนก่อน

ถามต่อว่า จะดึงตัวร่างกลับมาพิจารณาใหม่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า อ๋อ เราไม่ได้ดึงหรือถอนกลับมา แต่ระหว่างนี้เรารับฟังความคิดเห็นได้เรื่อยๆ ว่าจะเป็นอะไรอย่างไรบ้าง ความจริงเรื่องที่เกิดขึ้นรัฐบาลเล็งเห็นว่าควรเรียงลำดับเรื่อง ทำตามลำดับ แต่บางอย่างเราก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นก่อน อย่างเรื่องแผ่นดินไหว

เมื่อถามว่า จะเอาเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปเข้าสมัยการประชุมหน้าหรือไม่ เพราะสมัยการประชุมนี้เหลือเพียง 2 วัน นายกฯ กล่าวว่า ค่ะ เรื่องในสภาจะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตอบอีกที

ถามอีกว่า รูปแบบวิธีรับฟังความคิดเห็นจะเป็นรูปแบบวิธีการไหน นายกฯ กล่าวว่า นอกจากการรับฟังความคิดเห็นและพูดคุยแล้วคงต้องชี้แจงให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย เรื่องการทำความเข้าใจอย่างที่บอกว่า เราจะอธิบายอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ภาพของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถูกมองเป็นภาพของกาสิโน ซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลย ความตั้งใจของเราคือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปได้หมดทั้งลูกเด็กเล็กแดง ซึ่งมีทุกอย่างอยู่ในนั้น

 “พอไฮไลต์มาเป็นกาสิโนมันไม่ใช่ กลายเป็นว่ากาสิโนทั้งประเทศถูกกฎหมายหมด มันไม่ใช่เลย มันเป็นเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนอยู่ในนั้น ให้ถูกกฎหมายอยู่ในนั้น ไม่ได้แปลว่าทุกที่ทุกทางต่อจากนี้ถูกกฎหมายหมด ฉะนั้นต้องใช้เวลาทำความเข้าใจเรื่องรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะการพนันนอกระบบ นอกกฎหมาย สร้างผลเสียมากมาย ตอนนี้ที่มีอยู่เราไม่ได้เน้นเรื่องกาสิโนเป็นหลักด้วยซ้ำ แต่กลายเป็นว่าความตั้งใจนี้ถูกเรียกว่ากาสิโนแทน เดี๋ยวรัฐบาลจะรับผิดชอบอธิบายและสื่อสารให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะเราไม่ได้คิดว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คือการทำกาสิโน ถ้าเป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก พรรคร่วมรัฐบาลต้องไม่เห็นด้วยในการแถลงเป็นนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ตรงนี้เป็นการทำเรื่องเม็ดเงินเข้าประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่จะช่วยในเรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง” นายกฯ กล่าว

อิ๊งค์ลั่นไม่ได้ถอน

เมื่อถามว่า ที่ต้องเอาร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปในลำดับต่อไป เพราะหลายกลุ่มหลายก้อนออกมาเรียกร้องและคัดค้าน รวมถึงเรียกร้องทำประชามติ ใช่เหตุผลนี้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ รับฟังทุกฝ่าย แต่มันไม่ใช่ ไม่ได้เป็นเหตุผลนี้อยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก อย่างสหรัฐขึ้นภาษีมันเป็นเรื่องสำคัญหลัก ซึ่งมันจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ก่อน

ถามอีกว่า ใครเป็นหัวหน้าทีมหลักชี้แจงทำความเข้าใจประชาชนเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราต้องสื่อสารและจะช่วยสื่อสารเรื่องนี้ด้วย ส่วนข้อเสนอทำประชามตินั้น เดี๋ยวรับฟัง แต่ขอไปคุยในคณะทำงานว่าจะทำอะไรได้บ้าง

เมื่อถามว่า เบาใจหรือไม่ในตอนนี้ เพราะได้ถอนเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ถอนนะคะ ไม่ได้ถอน มันเป็นญัตติด่วน ซึ่งสามารถมีญัตติที่ด่วนกว่านี้ได้ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นเรื่องที่เรามองปากท้อง ไม่ได้มองเรื่องกาสิโน แต่พอประเด็นนี้ถูกบิดไปมาในเรื่องการเมืองก็มีมากเช่นกัน บิดไปบิดมา กลายเป็นว่ารัฐบาลมุ่งเน้นเปิดการพนัน เปิดสถานที่พนันเสียแล้ว ซึ่งไม่ใช่ความตั้งใจนี้เลย

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่า หากพรรคร่วมฯ ไม่เห็นด้วยจะถูกขับออก ไม่จริงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “เนี่ยค่ะ พรรคร่วมฯ อยู่ครบแล้วสัมภาษณ์กันได้ทุกคนเลย และความจริงแล้วเราไม่ได้พูดเรื่องนี้เลยว่าเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย จะขับหรือไม่ขับ ไม่ใช่ ในฐานะผู้นำรัฐบาลอยากให้พรรคร่วมรัฐบาลเกิดความสบายใจและพร้อมเห็นด้วยด้วยความเต็มใจ

“อันนี้คือสิ่งสำคัญและเป็นการนำแบบดิฉัน การนำอย่างอื่นสมัยไหน หรือใครเคยเป็นยังไงดิฉันไม่ทราบ แต่สมัยของดิฉันเองดิฉันอยากให้พรรคร่วมฯ เต็มใจในการโหวตในการเห็นด้วย ซึ่งความจริงแล้วหลักที่ถูกต้องตามปกติพรรคร่วมฯ ทุกพรรคเห็นด้วยตรงกัน มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่อยากให้ทำด้วยความรู้สึกว่าเห็นด้วยตรงกัน และพร้อมนำไปด้วยกันอย่างเต็มที่ 100% เพื่อทุกคนจะทำงานร่วมกัน 100% คือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น”

รายงานแจ้งว่า ภายหลังประชุม ครม. น.ส.แพทองธารได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือร่วมกันที่ห้องรับรองชั้น 1 ตึกบัญชาการ ช่วงหนึ่ง น.ส.แพทองธารได้พูดถึงเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า เบื่อกับข่าวต่างๆ ที่ออกมา ตื่นมาแล้วต้องเจอโน่นนี่ไม่ไหว ทำงานไม่ได้ต้องเลิกกันแล้ว ทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวขึ้นว่า “พวกเราไม่มี รู้ตั้งแต่แรกเป็นนโยบายรัฐบาลพร้อมขับเคลื่อน” ทำให้ น.ส.แพทองธารตอบกลับว่า ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องอะไรตนเองพร้อมรับ แต่ไม่อยากให้โยนกันไปกันมา ซึ่งเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ยืนยันเราไม่ถอย แต่ตอนนี้บังเอิญมีเรื่องด่วนเข้ามา เช่น เรื่องแผ่นดินไหว รวมถึงการขึ้นภาษีของสหรัฐ ที่ยังต้องแก้ปัญหา เอาเรื่องสำคัญก่อนดีกว่า และยอมรับว่าเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อธิบายน้อยไป โดยจะใช้เวลา 2 เดือน ระหว่างปิดสมัยประชุมสภาไปอธิบายทำความเข้าใจกับประชาชน

นายอนุทินกล่าวถึงการเลื่อนร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็เห็นด้วย เพราะต้องยอมรับว่าทั้งเรื่องแผ่นดินไหวและภาษีสหรัฐเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ และปากท้องประชาชน ถ้าเราไม่ให้เลื่อนก็จะถูกตีความได้ว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความเห็นเกี่ยวกับเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ออกมามากขึ้น ทั้งจาก สว. อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 50 คน กลุ่มแพทย์ จุฬาราชมนตรี ซึ่งเริ่มเยอะแล้ว นายกฯ จึงบอกว่าหรือเรายังไปอธิบายให้คนเหล่านี้ไม่ดีพอ จึงเห็นตรงกันว่าเอาเรื่องปากท้องของประชาชนมาก่อนดีกว่า

“ร่างนี้ยังคงค้างอยู่ ซึ่งจะเป็นคิวต่อไปที่จะพิจารณา แต่เนื่องจากสภาจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ก็ต้องเลื่อนไป” นายอนุทินกล่าวตอบเรื่องร่างดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาในสมัยประชุมหน้าหรือไม่

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า นายกฯ เห็นความสำคัญของสถานการณ์เฉพาะหน้า เช่น เรื่องการขึ้นภาษีของสหรัฐ และเรื่องของแผ่นดินไหว ซึ่งยังมีภารกิจที่ต้องทำอยู่พอสมควร จึงเลื่อนร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไป และคงไม่ทันสมัยประชุมนี้ แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทั้งพรรคร่วมทุกพรรคยืนยันตรงกันว่าจะให้การสนับสนุนอยู่แล้ว

อิ๊งค์โอดถูกบิดเบือน

เมื่อถามว่า เรื่องนี้ต้องทำประชามติเพื่อจะให้จบหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เป็นขั้นตอนที่เราดำเนินการลำบาก ขั้นตอนของกฎหมายมีทั้งการทำประชาพิจารณ์มาแล้ว 4 รอบ ไม่ใช่ไม่เคยทำอะไรเลย ก็ได้รับการยอมรับเฉลี่ย 80% ที่เห็นชอบ ฉะนั้น ขอให้เป็นขั้นตอนตามกฎหมายดีกว่า ส่วนใครจะไปดำเนินการให้มีขั้นตอนอื่น ช่องทางกฎหมายมีอยู่แล้วก็ดำเนินการไปตามนั้น

วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธารเป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1/2568 โดย น.ส.แพทองธารกล่าวตอนหนึ่งว่า  เรื่องของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยืนยันว่าไม่ได้ถอย แต่น่าเสียดายที่ถูกนำไปบิดเบือน สิงคโปร์ ฮ่องกง เขาก็ทำ แต่ไม่มีใครทำกาสิโนขนาดใหญ่ ทำเล็กๆ เหมือนกัน แต่สร้างรายได้ แต่เราถูกบิดเบือนเสมือนว่าเป็นบ่อนถูกกฎหมาย ช่วงปิดสมัยประชุมขอฝาก สส. รวมถึงรัฐมนตรีที่กำกับดูแลเรื่องนี้ให้ช่วยกันชี้แจง

จากนั้นเวลา 15.20 น. นายทักษิณเดินทางมาถึงพรรคเพื่อไทย เพื่อเปิดโอกาสให้แกนนำและสมาชิกพรรคเข้าร่วมรดน้ำดำหัวเพื่อขอพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ โดยนายทักษิณกล่าวตอนหนึ่งว่า วิกฤตเศรษฐกิจปีนี้มีปัญหาเชิงโครงสร้าง ต้องฟื้นฟูขนานใหญ่ แต่เราถือว่าปีนี้เป็นปีที่เราจะเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ สิ่งที่ไม่ดีก็ต้องช่วยกันกำจัด ทำให้หมดไปจากประเทศไทย หมดไปจากรัฐบาล แล้วหมดไปจากพรรคเพื่อไทย ทุกคนต้องมาร่วมกัน เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นเสาหลัก ขอให้ทุกคนมีกำลังใจที่ดีเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและนำไปสู่การทำนโยบายของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าปี 2570 ไม่ใช่ปีหน้า ขออย่าหวั่นไหว เพราะอาจมีคนปั่นกระแสเยอะ ก็ขอให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา และหลังสงกรานต์ไปแล้วอีกไม่กี่เดือนบ้านเมืองจะค่อยๆ คลี่คลายทั้งปัญหาเศรษฐกิจและความมั่นคงตามที่นายกฯ พยายามจะทำ ซึ่งจะได้รับความร่วมมืออย่างดีมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเห็นผลอย่างชัดเจนในปี 2569

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวว่า ได้คุยกันโดยตลอดด้วยเหตุผลว่าในสถานการณ์เวลานี้ควรจะผลักดันเรื่องใด และเรื่องใดควรชะลอไว้ก่อน ไม่ใช่เป็นเรื่องความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาล ในส่วนของพรรค กธ.เรามีจุดยืนชัดเจนว่า เราฟังเสียงผู้นำรัฐบาลเป็นหลัก ท่านว่าอย่างไร เราก็ว่ายังงั้น เพราะเราเป็นพรรคร่วม เราต้องให้เกียรติผู้นำรัฐบาล

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเลื่อนการพิจารณาร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไป ว่าถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อจะได้มีเวลามากกว่านี้ในการหารือทุกๆ ฝ่าย ในฐานะที่เป็นรัฐบาลของประชาชน ก็ต้องฟังเสียงประชาชนให้ดีที่สุด

ขณะเดียวกัน กรณีข่าวนายทักษิณแจ้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า หากพรรคใดไม่เห็นด้วยกับเอนเตอร์เทนเมต์คอมเพล็กซ์จะขับพ้นพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน หากออกจากปากนายกฯ ถึงโอเค เพราะเป็นบุคคลที่มีอำนาจ ส่วนนายทักษิณมีความเห็น ก็เป็นความเห็นของนายทักษิณ สำหรับการพูดคุยของรัฐบาลก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ในเบื้องต้นเรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายของประเทศและของรัฐบาล  ทุกอย่างยังต้องเดินหน้าไปพร้อมกับรับฟังความคิดเห็น

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กล่าวเช่นกันว่า ไม่มีหรอก เพราะท่านไม่มายุ่งเรื่องนี้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนกระแสข่าวจะนำพื้นที่ท่าเรือคลองเตยมาทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จริงหรือไม่นั้น ที่ผ่านมารายได้ของท่าเรือคือการที่เรือมาจอดเทียบท่า จึงอยากพัฒนาพื้นที่ให้มีรายได้มากกว่าเดิม สมมติถ้ามีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อยู่ตรงนั้นก็จะมีรายได้เพิ่ม ก็เป็นเรื่องที่การท่าเรือต้องพิจารณาให้รอบคอบ

คนรุ่นใหม่หนุนบ่อน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ร่างที่จะเข้าสภายังเป็นเพียงวาระแรก ซึ่งคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ส่วนที่ยังมีคนไม่เห็นด้วย หากดูรายละเอียดในวาระสองทุกพรรคยังพูดคุยปรับปรุงแนวทางต่างๆ ได้ ซึ่งกาสิโนถือเป็นเรื่องเล็กมากในร่างกฎหมายฉบับนี้ เป้าหมายหลักเราต้องการเอาการท่องเที่ยวเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดนักท่องเที่ยว

นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ได้โทร.ถามอดีตนายกฯ ทักษิณแล้ว ท่านยังไม่ได้คุยกับใครเลย คนที่พูดว่าเขาทุบโต๊ะเป็นการโกหกทั้งนั้น เปรียบเทียบกับกรณีอดีตเมื่อครั้งพยายามผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมือง และนำไปสู่บทเรียนราคาแพงทั้งต่อรัฐบาลและประเทศ  การทุบโต๊ะเมื่อครั้งนั้นนำไปสู่ความเกลียดชัง กปปส. การรัฐประหาร และการเสื่อมถอยของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่มีใครโง่ซ้ำซากให้สร้าง  กปปส. เวอร์ชันใหม่ได้ง่ายๆ

 “ควรเปิดใจรับข้อมูลใหม่ที่สะท้อนความจริงของสังคมปัจจุบัน มากกว่าจะใช้โลกสวยมาตัดสิน ทุกวันนี้บ่อนเถื่อนมีอยู่ทั่วไป แต่กลับหลับหูหลับตา ยอมให้มันอยู่ใต้ดิน แทนที่จะเปิดให้ถูกกฎหมาย ควบคุมได้ มองเห็นได้ และฝึกอบรมกันได้” นายจักรภพกล่าว

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ต้องพูดเป็นกลางว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีความคิดมาจากท่านทักษิณ ขอยืนยันเพราะอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุด้วย แต่มาจากพรรคร่วมฯ บางพรรคที่ระบุว่า ถ้าเห็นด้วยก็ต้องเห็นด้วยกันทั้งหมด ถ้าไม่เห็นด้วยกันก็ควรที่จะขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเช่นกันว่า  ไม่เกี่ยว คิดกันไปเอง ไม่เคยมีใครขู่  และไม่ให้ใครมาขู่อยู่แล้ว วันนี้อยากให้ข้อเท็จจริง วันนี้ให้แต่ละพรรคใช้ดุลยพินิจเอา

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ปฏิเสธตอบคำถามถึงกระแสข่าวว่า มีคำขู่ของนายทักษิณต่อพรรคร่วมรัฐบาล โดยได้แต่ยิ้มแล้วเดินขึ้นตึกบัญชาการ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ไม่ทราบ และยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน รอดูในส่วนของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ว่าจะมีแนวทางอย่างไร เราก็จะดำเนินการตามมติวิปรัฐบาล

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวว่า เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกำลังหาตัวคนที่ปล่อยข่าว เชื่อว่านายทักษิณไม่มีความคิดอย่างนี้ เราต้องมีความเข้าใจ เรายืนอยู่บนระบอบประชาธิปไตย สังคมก็เข้าใจว่านายกฯ ได้แถลงนโยบายต่อสภาว่าจะมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งวันนั้นไม่มีใครค้าน และวันนี้กฎหมายกำลังเข้าสู่สภา เป็นการรับหลักการ ส่วนจะมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ก็สามารถแก้ไขได้

ด้านนายทักษิณให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ว่า  เป็นการพูดกันไปเรื่อย มีคุยกับน้องๆ ที่เจอกันว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นเพียงการถามความคิดเห็น ไม่มีเรื่องข่มขู่ว่าใครไม่สนับสนุนแล้วต้องพ้นจากพรรคร่วมรัฐบาล แบบนั้นไม่มี ที่ผ่านมามีการหารือทั่วไปกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นเพียงการถามความคิดเห็นของแต่ละคน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ขัดข้อง และวันนี้นายกฯ ก็ได้บอกว่าจะพิจารณาเรื่องเร่งด่วนทางเศรษฐกิจก่อน คือเรื่องการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา เราต้องนำเรื่องนี้มาคุยกัน เพราะประชาชนอยากรู้เรื่องนี้ ความสำคัญต้องลดหลั่นไป ทั้งนี้ ไม่ได้ยกเลิก เพียงแต่ขอเลื่อนการพิจารณาไปก่อน

เมื่อถามว่า การที่มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวยากหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า การมีพรรคร่วมฯ มากก็นานาจิตตัง เราไม่สามารถชี้ให้ไปทางเดียวกันได้ ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ แต่ก็ไม่เหนือวิสัย ซึ่งนายกฯ เองก็คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลบ่อยๆ ก็น่าจะคุยกันรู้เรื่อง

อย่าเทียบบ่อนเพื่อนบ้าน

เมื่อถามถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการวางตัวผู้ที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจรไว้ล่วงหน้าแล้วนั้น นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มี ต้องประมูลอย่างโปร่งใส ไม่มีใครจัดสรรได้ นอกจากมีการประมูล ย้ำว่าไม่มีคำว่ากาสิโน มีแต่คำว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กาสิโนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ ในนั้น เพราะหลายอย่างที่เราอยากมีก็มีไม่ได้ ต้องให้เอกชนมาลงทุน เช่นฮอลล์หรืออารีน่าจัดคอนเสิร์ต คอนเสิร์ตหรือสวนสนุกขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุน เราต้องการการลงทุนและการจ้างงาน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น และต้องการภาษีอย่างถูกต้อง โครงการนี้เป็นการพัฒนาประเทศตามปกติ ไม่มีอะไรซ่อนเร้น

“อย่าว่าเราขี้อิจฉาริษยากัน มองคนนั้นคนนี้ได้ คนที่เห็นด้วยเยอะแต่เงียบ ที่ไม่เห็นด้วยแล้วออกมา บางครั้งถูกชี้นำในทางที่ผิด เช่น ไปเปรียบเทียบกับบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตรงนั้นเป็นกาสิโนจริงๆ เพราะไม่มีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เลย เราไม่ได้ทำแบบนั้น ถ้าเราทำแบบนั้นประเทศก็พัง และอย่าไปหวั่นไหวหากคิดว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง วันนี้รัฐบาลต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ต้องอะไร บางพรรคเคยเห็นด้วยเมื่อก่อน เชียร์เต็มที่มีนโยบายพรรค แต่วันนี้ไม่เห็นด้วยแล้ว คือจุดยืนไม่มี มีอย่างเดียวว่าเป็นฝ่ายค้านต้องค้าน เป็นฝ่ายรัฐบาลต้องเชียร์ แบบนี้ไม่ได้” นายทักษิณกล่าว

เมื่อถามถึงตัวแปรหลักทั้งพรรคภูมิใจไทยและรวมไทยสร้างชาติ ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าวนั้น นายทักษิณกล่าวว่า บางคนก็เห็นด้วย เห็นด้วยครึ่ง ไม่เห็นด้วยครึ่ง แต่ไม่เป็นอะไร ถ้าถึงเวลาที่ต้องเสนอกฎหมายก็ต้องเสนอ โหวตรัฐบาลก็ผ่าน เพียงแต่รัฐบาลไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล

ถามถึงกรณีที่มีการวิเคราะห์กันว่าพรรคเพื่อไทยมีการยื่นหมูยื่นแมวกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีหมู ไม่มีแมว

เมื่อถามว่า การที่พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวล่าช้าจะทันกับอายุของรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า เราก็วางไว้ ถ้าไม่ทันรัฐบาลหน้ามาทำต่อได้ ขั้นตอนกระบวนการเราก็คาดหวังว่าอาจจะไปช้าที่ชั้น สว. ส่วนหากรัฐบาลหน้าไม่ใช่พรรคเพื่อไทย กฎหมายนี้จะถูกตีตกหรือไม่นั้น รัฐบาลหน้าก็พรรคเพื่อไทย ซึ่งในส่วนของ สว. หากไม่เห็นด้วยก็มีเวลา 180 วัน 

ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลัง  น.ส.แพทองธารแถลงเลื่อนการพิจารณาร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า เห็นด้วย ซึ่งช่วงการปิดสมัยประชุมนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่รัฐบาลสามารถศึกษาความเป็นไปได้ให้ชัดเจน ในการพิจารณามาตรการผลกระทบทางสังคม ทั้งการป้องกันการติดการพนัน และป้องกันการฟอกเงิน รวมถึงการเปิดรับฟังเสียงประชาชนมากขึ้นตามที่ฝ่ายค้านได้เรียกร้อง

ก่อนหน้านี้ นายณัฐพงษ์ได้แถลงถึงท่าทีของพรรค ปชน.คัดค้านการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างเร่งรีบใน 5 เหตุผล คือ 1.เป้าหมายไม่ชัดเจน 2.ศึกษาอย่างไม่รอบคอบไม่รัดกุม 3.ยังไม่มีมาตรการป้องกันผลกระทบทางสังคม 4.แผนการดำเนินการกับเอกชนไม่โปร่งใส และ 5.รัฐบาลเร่งรีบแบบไม่ตรงไปตรงมา               

ยื่นสอบจริยธรรม

ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นำโดยนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา แถลงคัดค้านการนำร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสู่การพิจารณาของ สส.ว่า การนำกฎหมายเข้าสู่วาระการประชุมสภาในวันที่ 9 เม.ย. เป็นการเร่งรัด ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ขัดต่อหลักนิติธรรมและหลักธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรง เพราะกฎหมายไม่ได้มีการจัดทำประชามติถามประชาชนเลย

นายพิสิษฐ์กล่าวอีกว่า หากสภาโหวตรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว สว.จะเข้าชื่อยื่นร้องเรียนต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือศาลรัฐธรรมนูญในส่วนความผิดจริยธรรมต่อไป เพราะ สว.ที่คัดค้านตอนนี้มีกว่า 90% มีเพียง 5-6 คนเท่านั้นที่ยังเห็นด้วย

ขณะเดียวกัน สภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นำโดยนายประยงค์ แก่นลา รองประธานสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายสภาวัฒนธรรมทั่วประเทศ ร่วมเข้ายื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

“ไฟไหม้สิบครั้ง ไม่เท่าติดการพนันครั้งเดียว การเปิดกาสิโนจึงเป็นการกระทำที่สวนทางกับหลักคำสอนของทุกศาสนา สภาวัฒนธรรมฯ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและ สส. พิจารณาถอนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และหันมาให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศีลธรรม วัฒนธรรม และความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในระยะยาว มากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะสั้น”

นายจเรศักดิ์ ศักดิ์สินไพบูลย์ ประธานเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อสังคม  ออกแถลงการณ์คัดค้านกฎหมายกาสิโน-พนันออนไลน์ โดยระบุว่า แม้นายกฯ เลื่อนวาระพิจารณาแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่จบ เพราะยังมีวาระที่รอเข้าสู่การพิจารณาในสมัยประชุมหน้า จึงต้องเร่งล่ารายชื่อให้ครบ 50,000 ชื่อเพื่อทำประชามติ

ส่วนที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง  กลุ่มพิทักษ์ธรรมจังหวัดพัทลุง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มข้าราชการบำนาญ ประมาณ 30 คน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เพื่อคัดค้านร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า วันที่ 9 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น. วิปรัฐบาลจะนัดหารือต่อการกำหนดทิศทางการประชุมสภาระหว่างวันที่ 9-10 เม.ย. ภายหลังจากที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเห็นร่วมกันว่า เลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..... ออกไปก่อน ซึ่งในวาระจะเป็นลำดับของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการนิรโทษกรรม รวม 4 ฉบับ ซึ่งพรรคยืนยันจุดยืนจะไม่รับหลักการร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่รวมคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112.