สธ.ยันวีโตแพทยสภาได้ ‘ธิดา’จี้แม้วติดคุกเพื่อลูก

"สมศักดิ์" เผยได้รับหนังสือขอความเป็นธรรมแพทย์ รพ.ตร.แล้ว ส่ง คกก.ตรวจสอบ "โฆษก สธ." โต้ "สว.วีระพันธ์" ยัน รมว.สาธารณสุขไม่แทรกแซงวิชาชีพแพทย์ ถามกลับกลัวอะไรนักหนา เป็นเพราะโกรธเกลียดอาฆาตแค้น "ทักษิณ" ใช่หรือไม่ "หมอเพื่อไทย" มาแหวกแนว ให้แพทยสภาปฏิบัติต่อคนไข้ให้ดีที่สุด อย่าตกเป็นเครื่องมือใคร แล้วต่อต้านนักการเมืองที่ตัวเองไม่ชอบ "ธิดา" แนะอดีตนายใหญ่ยอมติดคุกเพื่อลูกสาว

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา กล่าวถึงกรณีแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กรณีแพทยสภามีมติลงโทษประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 ว่า มีเข้ามาแล้ว ก็จะส่งให้คณะกรรมการที่ได้ดำเนินการตั้งไว้ไปตรวจสอบ

ด้าน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง เผยว่า ตามที่นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย  สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กเตือนนายสมศักดิ์ ให้เคารพกระบวนการของแพทยสภา และรักษาเส้นแบ่งระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความเป็นอิสระของวิชาชีพแพทย์ กรณีมติแพทยสภาลงโทษแพทย์ 3 คนปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมิได้หวั่นไหวหรือวิตกกังวลใดๆ เพียงแต่แปลกใจว่า นายวีระพันธ์กลัวอะไรนักหนา หรือมีมิจฉาทิฐิอะไรบางอย่างตกค้างอยู่ในจิตใจเหมือนคนกลุ่มหนึ่ง ที่เกือบ 20 ปีแล้วยังไม่เลิกโกรธเกลียดอาฆาตแค้นนายทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ 

  น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า หลังจากนายสมศักดิ์ได้รับทราบมติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ 1 คนโดนตักเตือน อีก 2 คนโดนพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.  2525 จำนวน 10 คน มีอำนาจหน้าที่เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หากคณะกรรมการจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายก็ให้กระทำได้

ทั้งนี้ คณะกรรมการทั้ง 10 คน นายสมศักดิ์ได้พิจารณาคัดเลือกมา ล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีเกียรติประวัติที่เชื่อถือได้ จึงมั่นใจว่าความเห็นที่คณะกรรมการชุดนี้จะเสนอมาได้ผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบคอบ  มีข้อเท็จจริงและสภาพแวดล้อมประกอบ ว่าการกระทำของ 3 แพทย์ผิดจริยธรรมหรือไม่ กระบวนการสอบข้อเท็จจริงและบทลงโทษมีความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด จากนั้นนายสมศักดิ์จะพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมที่สุด

บังคับใช้มากว่า 40 ปีแล้ว 

โฆษก สธ.ฝ่ายการเมืองกล่าวอีกว่า นายวีระพันธ์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา น่าจะรู้เรื่องกฎหมายดีว่า พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 25 ซึ่งบัญญัติว่า รมว.สาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษของแพทยสภา มีเวลา 15 วันในการพิจารณามติของแพทยสภา ซึ่งมี 2 แนวทาง คือ 1.เห็นชอบกับมติแพทยสภา 2.ยับยั้งหรือวีโตมติแพทยสภา โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเหตุผล หากพ้น 15 วัน รมว.สาธารณสุขไม่ดำเนินการใดๆ มติของแพทยสภาจะมีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้า รมว.สาธารณสุขใช้สิทธิวีโต แพทยสภาจะต้องพิจารณาใหม่ หากยืนยันมติเดิมจะต้องได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด จากกระบวนการดังกล่าวนายวีระพันธ์ควรจะรับรู้ว่า นายสมศักดิ์ไม่อาจดำเนินการอะไรตามใจชอบของตัวเองได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายซึ่งออกในสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ บังคับใช้มา 40 กว่าปีแล้ว 

  “ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามขั้นตอนและกระบวนการ มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องกำลังทำไปตามอำนาจที่กฎหมายบัญญัติไว้ และควรยอมรับฟังความเห็นต่างหรือเหตุผลอีกฝ่าย ไม่ควรพยายามจะเอาแต่ใจตัวเอง รอเวลาไม่กี่วัน ทุกฝ่ายควรเข้าใจและยอมรับในบทบาทหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น ไม่ควรชี้นำสังคมไปในทางที่ตนเองเชื่อ" น.ส.ตรีชฎากล่าว

ก่อนหน้านี้ นพ.วีระพันธ์ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า  "นักการเมืองที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ ไม่ควรแย้งมติแพทยสภา มติของแพทยสภาเป็นผลจากกระบวนการตรวจสอบอย่างรอบคอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์ เป็นการพิจารณาจากข้อเท็จจริง วิชาการ และจริยธรรมในวิชาชีพ มิใช่เรื่องของความรู้สึกหรือการเมือง นักการเมืองไม่มีความรู้เฉพาะด้านในการแพทย์ ไม่ได้ผ่านกระบวนการไต่สวน ไม่ได้รับฟังพยานหรือวิเคราะห์เอกสารการแพทย์โดยตรง การที่รัฐมนตรีจะใช้ดุลยพินิจยับยั้งมติของแพทยสภา จึงเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อตัวนักการเมืองเอง และแม้ท่านจะแย้งอย่างไรข้อเท็จจริงก็ยังคงเป็นข้อเท็จจริง"

สิทธิคนไข้เป็นอันดับ1

ด้าน นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนไข้เป็นคนสำคัญ หมอต้องแนะนำคนไข้ถึงวิธีรักษาให้คนไข้ทราบ คนไข้จะเป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกวิธีไหน สิทธิคนไข้เป็นอันดับ 1 ต่อมาหมอต้องปฏิบัติรักษาคนไข้ให้ดีที่สุด เป็นดุลยพินิจของหมอ ต้องอ้างอิงไปถึงหลักวิชาการและความต้องการคนไข้ประกอบกันไป ต้องไม่ทำอันตรายต่อคนไข้ และความยุติธรรมเป็นเรื่องสำคัญ ต้องไม่เลือกปฏิบัติ

"ไม่ใช่เอาความคิดทางการเมืองมาปฏิเสธการรักษา ผิดจริยธรรม ต้องรักษาความลับของคนไข้ให้ได้ ถ้าทำตรงไปตรงมาตามนี้แพทย์จะได้รับการยอมรับจากคนอื่นๆ จากคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ไม่ทราบว่ามีใครไปร้องเรียนแพทยสภาหรือไม่ กรรมการแพทยสภาต้องแยกให้ออกว่า ที่ถูกกล่าวหาผิดจริยธรรมจริงหรือไม่ ตามหลักการหรือไม่"

นพ.เชิดชัยกล่าวว่า กรณีที่คนไข้วิกฤตหรือไม่วิกฤต ถ้าคนไข้เจ็บป่วยขึ้นมากะทันหัน หมอผู้ดูแลต้องใช้ดุลพินิจว่ารักษาได้หรือไม่ ถ้ารักษาไม่ได้ก็ต้องส่งต่อเป็นเรื่องปกติ  การที่กรมราชทัณฑ์ หรือกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ออกมาให้ผู้สูงอายุหรือมีการพักโทษ เป็นวิวัฒนาการความเจริญของบ้านเมือง อย่าไปเอาความสะใจไม่ใช่ผิดแล้วจะต้องคิดคุกอย่างเดียว ผูกตรวนเหมือนประจานกัน ประเทศที่เจริญแล้วพยายามให้ผ่อนผันเพราะคนล้นคุก ถ้ามีพฤติกรรมไม่หลบหนี ไม่ทำผิดเพิ่มขึ้น มีกติกาให้ไปรักษาที่บ้านได้ ให้ไปรักษา รพ.ที่ควบคุม ฝากถึงแพทยสภาคดีเกี่ยวกับการเมืองต้องระวังว่าอย่าไปตกเป็นเครื่องมือใคร และนำมาต่อต้านนักการเมืองที่ตัวเองไม่ชอบ

แนะติดคุกเพื่อลูกสาว

นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาพูดถึงนายทักษิณ หากต้องรับโทษก็ขอให้ไปรับโทษในโรงพยาบาลราชทัณฑ์เหมือนคนอื่นๆ เพื่อปิดจุดอ่อนและอยู่รอดได้ ซึ่งตนก็มั่นใจว่านายทักษิณจะไม่หลบหนี เพราะนายทักษิณเคยยืนยันแล้วว่าจะไม่ยอมตายที่ต่างประเทศ

เธอกล่าวว่า อยากให้นายทักษิณเปลี่ยนความคิด  เพราะคนเสื้อแดงหรือเยาวชนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองก็ติดคุกมากมาย และต้องโทษตามคดีอาญา มาตรา 112 และถ้านายทักษิณยอมรับการเข้าไปในเรือนจำเหมือนประชาชน ทุกอย่างจะคลี่คลาย จะดีต่อทั้งนายทักษิณ,  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, พรรคเพื่อไทย และดีงามต่อประเทศชาติ มีอนาคตทันที แต่หากนายทักษิณไม่อยากติดคุกและมีการต่อรอง เชื่อว่าปัญหาจะขยาย เพราะ 1 ปีที่ผ่านมาปัญหาก็ขยายมาแล้ว

"หากคุณทักษิณทำใจได้ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็สามารถดูแลได้ เพราะลูกน้องคุณทักษิณ อดีตรัฐมนตรีก็ติดคุกและติดโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แพทย์ก็สามารถดูแลได้ หากอาการหนักก็ค่อยไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ใช่ไปรักษาโรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่ต้นจนเป็นปัญหา"

ถามว่า วันที่ 13 มิถุนายนนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองหรือไม่ นางธิดาระบุว่า อยู่ที่นายทักษิณ แต่สถานการณ์แนวโน้มไม่น่าจะดีต่อนายทักษิณเท่าไรนัก จึงแนะนำให้นายทักษิณติดคุก เพราะหลายๆ คนก็ติดมาแล้ว  และขออย่าใช้อภิสิทธิ์เหมือนลูกน้องนายทักษิณ และตนเชื่อว่านายทักษิณจะพยายามดีลอย่างถึงที่สุด แต่ 10 ปีที่ผ่านมานายทักษิณก็ถูกหลอกมาเยอะเช่นกัน

"คุณทักษิณมีปัญหา เมื่อดีลไม่จบต้องกลับมารับโทษ คุณทักษิณไม่ควรที่จะกลัวคุกมากจนเกินไป หากต้องติดคุกอีก ทางที่ดีเข้าไปอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ดีที่สุด"

ทั้งนี้ นางธิดาอ้างอิงข้อมูลที่ได้รับทราบมาว่า นายทักษิณจะไม่ยอมตายเหมือนนายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกรัฐมนตรีที่เสียชีวิตในต่างประเทศ โดยเชื่อว่าเรื่องของนายทักษิณจะแยกกับเรื่องของรัฐบาลที่มีเรื่องฮั้ว สว. เพราะฉะนั้นประเด็นพรรคสีน้ำเงินฮั้ว สว. กับประเด็นเสื้อแดงกรณีนายทักษิณที่มีความรุนแรงทั้งคู่ จึงอยากแนะนำนายทักษิณในฐานะที่รู้จักกันมาว่า ให้เข้าคุกเหมือนกับคนอื่นดีที่สุด จะเป็นทางที่นายทักษิณอยู่รอดได้

ด้าน ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อำนาจ กุสลานันท์ อดีตนายกแพทยสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "หากมี พ.ร.บ.ฉบับใหม่ควรจะมีสภานายกพิเศษหรือไม่? ถ้ามีควรจะมีอำนาจในการยับยั้งมติของคณะกรรมการแพทยสภาหรือไม่?".