‘หนู’ฉะ‘อ้วน’เมินคุยเก้าอี้ คดี‘ฮั้วสว.’ส่อยาวเกิน1ปี

"เพื่อไทย" รับมือศึกในต่อ "ภูมิธรรม" ย้ำปรับครม. "อิ๊งค์" ชี้ขาด ปัดนัดคุยพรรคร่วม ขณะที่ "มท.หนู" ควันออกหูหลัง "บิ๊กอ้วน" ปิดช่องดีลต่อรองตำแหน่ง อัด จะเป็นไปได้อย่างไร ขณะที่ "แสวง" คุยฟุ้งทำงานหามรุ่งหามค่ำสอบคดีฮั้ว สว. เผย กกต.เหลือเวลา 30 วัน แบไต๋ชัด 1 ปีไม่จบส่อลากยาว ซื้อเวลาต่อให้ตัวเองเบ็ดเสร็จ อ้างทำได้ไม่มีกฎหมายบังคับ

เมื่อวันจันทร์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ผ่านมาเราไม่ได้สนใจเลย  เพราะจะกลายเป็นเรามัวแต่สนใจว่าจะนั่งตำแหน่งอะไร 3-4 วันที่ผ่านมามีแต่เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องหลักตั้งแต่เช้าจนดึก เพราะฉะนั้นตนคงตอบไม่ได้ ทุกอย่างยังเป็นคำตอบเดิม

ผู้สื่อขาวถามว่า มีข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะนัดคุยกันในสัปดาห์นี้ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ทราบ ก็แล้วแต่ข่าวที่ออกมา ก็ไปติดตามกัน ตนบอกไปแล้วว่าทุกอย่างอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ท่าทีของนายกฯ ถ้ายังไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน

เมื่อถามถึงกรณีท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ที่ขอยึดกระทรวงเดิมตั้งแต่มาร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องถามนายกฯ แต่จริงๆ การคุยกันเพื่อร่วมรัฐบาลกันคือ มาตกลงกันว่าจะแก้ปัญหาอะไร หากนโยบายที่จะทำและพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลเห็นด้วย พรรคนั้นก็เข้ามา การคุยเพื่อตั้งรัฐบาลไม่ใช่คุยว่าจะให้ตำแหน่งอะไรกับใคร

 “ต้องเข้าใจก่อนว่าเราคุยเรื่องนโยบายที่จะทำงาน ถ้าเห็นด้วยก็มาร่วม ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องมาร่วม ซึ่งจุดนี้ผมเป็นคนดำเนินการคุยเองว่าเรื่องต่างๆ โอเคหรือไม่ เพราะฉะนั้นมาตรการที่คุยแต่ต้นในการชวนมาทำงาน อยู่ที่ว่าจะมาช่วยทำงานอย่างไร ถ้าเห็นเหมือนกันก็ทำงานร่วมกันได้ แต่ขณะนี้ใครจะเสนออะไรอยู่ที่นายกฯ พิจารณา” นายภูมิธรรมระบุ

ที่วิทยาลัยการปกครอง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตอบคำถามถึงกรณีกระแสข่าวคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ได้ออกหมายเชิญนางสุขสมรวย วันทนียกุล สส. อำนาจเจริญ และนายพิชัย ชมภูพล สส.สุราษฎร์ธานี พรรคภูมิใจไทย ให้ไปชี้แจงข้อกล่าวหา ได้มีการพูดคุยกับสส.ดังกล่าวแล้วหรือยังว่า ก็พูดคุยปกติในฐานะหัวหน้าพรรคและลูกพรรค ในส่วนของ ภท.ก็ไม่มีอะไร พร้อมไปชี้แจงทุกอย่าง เพราะทุกคนถูกกล่าวหาได้ และก็ต้องเตรียมข้อมูลหลักฐาน เอกสารไปชี้แจงข้อกล่าวหา

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้มีการแจ้งหารือเรื่องปรับครม.แล้วหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีเพราะตอนนี้คุยเรื่องการเมืองไม่ได้หรอก ตอนนี้ต้องดูแลประชาชนและ อธิปไตยของประเทศเราเป็นสิ่งสำคัญที่สุด  หลังเกิดปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา

 “ตอนนี้มาทำงานกันแล้ว ไม่ต้องเล่นการเมืองกันแล้ว  พวกผมก็เป็นข้าราชการฝ่ายการเมือง และมาทำงานกับฝ่ายข้าราชการประจำ ฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำ ถ้าทำงานกันได้ ไว้ใจซึ่งกันและกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน คนได้ประโยชน์ก็คือประชาชน ถือเป็นสุดยอดปรารถนาของพวกเราอยู่แล้ว ถ้าอยากเล่นการเมืองก็อย่าเล่นการเมืองกันเอง” นายอนุทินระบุ

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรมระบุว่า การมาร่วมรัฐบาลคือคุยเรื่องนโยบายที่จะทำงาน ไม่ได้มีการคุยว่าจะให้ตำแหน่งอะไรกับใครว่า ถ้าไม่คุยเรื่องกระทรวง แล้วจะมาอยู่กระทรวงนี้ได้ยังไง พร้อมกล่าวอีกว่า "มันจะเป็นไปได้ไหมเล่า ผู้สื่อข่าวลองไปวิเคราะห์เองบ้างสิ"

วันเดียวกัน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วยกรรมการการเลือกตั้ง และผู้บริหารสำนักงาน กกต.ร่วมพิธีบวงสรวงองค์ท้าวมหาพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์ราชการ และประกอบพิธีสงฆ์ เนื่องในโอกาสวันสถาปนาสำนักงาน กกต.ครบรอบ 27 ปี โดยปีนี้ใช้แนวคิด “รวมพลังพลเมืองไทย สร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน”

ทั้งนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อร้องเรียนการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานของคณะกรรมการสืบสวนคณะพิเศษชุดที่ 26 ซึ่งได้ทำงานร่วมกันมาราวๆ 90 วันแล้ว ทำทุกวันทั้งกลางวัน กลางคืน นั่นหมายความว่าเราจะเร่งการทำงาน แต่ก็ต้องให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้โอกาสในการมาชี้แจง ด้วยความที่การเลือก สว.มีความสลับซับซ้อน มีหลายชั้น ทั้งชั้นอำเภอ จังหวัดและประเทศ รวมถึงมีรูปแบบการเลือกที่สลับซับซ้อนเหมือนกัน แต่ยืนยันว่าคณะกรรมการสอบสวนยังทำงานทุกวันอย่างเอาใจใส่

เมื่อถามว่าตั้งกรอบจะแล้วเสร็จเมื่อใด เนื่องจากขณะนี้ใกล้ครบ 1 ปีแล้ว นายแสวงกล่าวว่า ในกฎหมายหรือพระราชบัญญัติไม่ได้กำหนดเรื่องเวลาเอาไว้ แต่สำนักงานกำหนดเวลาให้ตนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็เหลือประมาณ 1 เดือน หรือ 30 วัน ถือว่ายังมีเวลาที่จะดำเนินการ

 “ผมเข้าใจว่าคณะกรรมการชุดสืบสวนสอบสวนก็เข้าใจในข้อนี้ดี แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากเวลาเกินไปก็ไม่เสียหายอะไร เพราะในกฎหมายไม่ได้เขียนเงื่อนเวลาเอาไว้  ดังนั้นทางคณะกรรมการสืบสวนฯ สามารถขยายเวลา โดยให้เหตุผลและความจำเป็นว่าเหตุใดจึงยังไม่เสร็จภายในเวลาที่สำนักงานกำหนดไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สิ้นกระแสความครบถ้วนสมบูรณ์ และให้โอกาสทุกคนได้มาชี้แจง” นายแสวงระบุ

โดยนายแสวงปฏิเสธกรณีมีกระแสข่าวว่า มีมือที่มองไม่เห็น หรือมีนายพล ส.คอยสั่งการการทำงานของ กกต.และองค์กรอิสระ รวมถึงกดดันให้นายอิทธิพร บุญประคอง  ประธาน กกต.ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระว่า ไม่มีใครมาบีบ กกต. แต่ที่อื่นตนไม่รู้

เมื่อถามถึงกรณีที่ 92 สว.ร้องขอความเป็นธรรมต่อกกต.เกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการไต่สวน ชุดที่ 26 นายแสวงกล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ตั้งโดยคำสั่ง กกต. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่มาจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เห็น กกต.มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไร

นายแสวงยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 จะมีการสรุปสำนวน และจะต้องเสนอให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาในวันที่ 16 มิ.ย.ว่า  ขณะนี้อยู่ในชั้นคณะกรรมการไต่สวน ซึ่งการดำเนินการต้องเป็นไปตามระเบียบสืบสวนที่มีขั้นตอน เพื่อเป็นหลักประกันว่าทุกคนจะได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าเรื่องอะไร ฉะนั้นจะข้ามขั้นตอนไม่ได้ ถ้าระดับคณะกรรมการสอบสวนเสร็จแล้ว ก็จะต้องเข้าสู่การพิจารณาในชั้นสำนักงาน และอนุวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนและข้อโต้แย้ง ก่อนจะไปสู่ที่ประชุม กกต.

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงาน ก.พ. นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 มายื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายใน 7 วัน หรือทันที (ในกรณีมีปัญหาด้านความมั่นคง) ผ่านตัวแทน ผอ.สำนักเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี.