แห่แจ้งจับนายกฯขายชาติ

รัฐบาลผวาม็อบไล่นายกฯ สั่งปิดถนนรอบทำเนียบฯ "คปท." จัดหนัก “แพทองธาร"  คลิปสมยอม "ฮุน เซน" เสมือนใบเสร็จยกแผ่นดินไทยให้กัมพูชา ซัดทรยศขายชาติ จี้ลาออก-พรรคร่วมฯ ถอนตัว ปลุก ปชช.แสดงพลังขับไล่ต่อเนื่อง  21-24 มิ.ย. พร้อมขู่ปิดล้อมทำเนียบฯ กลุ่ม "บิ๊กเนม" นัดแถลง 20 มิ.ย.นี้ “สมชาย-นิติธร" นำทีมบุก  บช.ก. แจ้งความเอาผิดอาญา ชี้พฤติกรรม "อุ๊งอิ๊ง”  กระทบความมั่นคง โทษหนักถึงประหารชีวิต "ศรีสุวรรณ" ร้อง ป.ป.ช.ฟันจริยธรรมร้ายแรง "เรืองไกร"  ยื่น กกต.สอบปมไม่ซื่อสัตย์สุจริต ด้าน "กมธ.ทหาร-สว.” สุดทน ชี้ผิด รธน.-อาญา เข้าข่ายทรยศขายชาติ ล่าชื่อยื่นศาล รธน.ถอดถอน ส่ง ป.ป.ช.เชือดผิดจริยธรรมร้ายแรง 

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากทำเนียบรัฐบาลว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และข้าราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับแจ้งว่า ขอประชาสัมพันธ์กรณีการปิดเส้นทางการจราจรบริเวณทำเนียบรัฐบาล ในวันเดียวกันนี้ โดยรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต จะเริ่มทำการปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 08.00 น. ซึ่งก่อนหน้านี้ในโซเชียลมีเดียมีการนัดชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล

ส่วนที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ประชาชนได้ทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมกับเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย  (คปท.) เพื่อขับไล่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนากับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ขณะที่การรักษาความปลอดภัยหน้าทำเนียบรัฐบาลเต็มไปด้วยความเข้มงวด มีรถตู้ตำรวจจอดเรียงริมรั้ว พร้อมรถติดตั้งเครื่องขยายเสียง รวมถึงมีตำรวจจาก สน.ดุสิต, สน.นางเลิ้ง, ตำรวจจากกองบังคับการอารักขาการควบคุมฝูงชน (อคฝ.) และกองร้อยน้ำหวาน นำโล่มากั้นบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ  เรียงแถวหน้ากระดานเป็นกำแพงมนุษย์ 3 ชั้น ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้น ต่อมาเวลา 09.00 น. ได้กลับมาเปิดการจราจรให้ประชาชนได้สัญจรตามปกติ 

ขณะเดียวกัน ที่เวทีปราศรัย มีผู้ชุมนุมสลับกันขึ้นพูดบนเวที โดยเนื้อหาหลักคือการเรียกร้องให้  น.ส.แพทองธารลาออกจากตำแหน่ง ต่อมาเวลา 11.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ได้อ่านแถลงการณ์ว่า ในสภาวะที่ประเทศไทยสุ่มเสี่ยงอยู่ในภาวะสงครามกับประเทศกัมพูชา การเปิดคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน เป็นใบเสร็จชัดเจนว่านายกฯ ไทยไม่ได้มีความจริงใจในการรักษาอธิปไตยของชาติ  แต่เป็นเพียงการรักษาตำแหน่งนายกฯ ของตัวเอง อีกทั้งยังกล่าวหาแม่ทัพนายกองทหารไทยที่ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนประเทศว่าไม่ใช่พวกเรา ย่อมแสดงให้เห็นถึง น.ส.แพทองธารคำนึงถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวมากกว่าความสำคัญทางความมั่นคงของประเทศชาติ การเจรจาระหว่างประเทศที่เกิดขัดแย้งกันในพื้นที่ชายแดน ถึงขนาดที่ต้องนำกองกำลังทหารมาประชิดชายแดนทั้ง 2 ฝ่าย แต่นายกฯ ไทยกลับเป็นผู้เสนอและยอมทุกอย่างที่กัมพูชาร้องขอนั้น

การเจรจาดังกล่าวเสมือนจะยอมยกแผ่นดินไทยให้กับกัมพูชา อันเป็นการพูดที่ทำลายเกียรติ  ศักดิ์ศรี ความเป็นประเทศไทย อันเป็นการกระทำที่ขายชาติ ขายแผ่นดิน นำข้อมูลข่าวสารภายในประเทศ หรือกล่าวโทษคนในประเทศให้กับประเทศฝ่ายตรงข้ามกับประเทศตัวเอง จึงเป็นการกระทำที่ทรยศต่อประเทศชาติ ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยอมยกแผ่นดินให้ประเทศอื่นเพื่อให้ตำแหน่งของตนเองดำรงอยู่โดยไม่คำนึงถึงประเทศชาติ ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนชาวไทยจะต้องลุกขึ้นมาสามัคคีกันปกป้องประเทศชาติ และเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล

'บิ๊กเนม' นัดหารือกดดัน

"ขอเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธารกล่าวขอโทษประเทศไทย และรับผิดชอบต่อการทรยศประเทศไทยด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกฯ โดยเร่งด่วน น.ส.แพทองธารต้องออกไป หยุดขายชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้ประชาชนออกมาแสดงพลังรักชาติ ปกป้องแผ่นดิน นับจากวันนี้เป็นต้นไปที่ทำเนียบรัฐบาล และขอให้มาแสดงพลังใหญ่ในวันที่ 21 มิ.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล จนถึงวันที่ 24 มิ.ย.2568 โดยจะให้ผู้ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลทุกประตูเข้า-ออก เพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง" นายพิชิตกล่าว

มีการแจ้งข่าวว่า วันที่ 20 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ (ห้องราชา) ถนนราชดำเนิน กลุ่มราษฎรรักชาติ นัดแถลงข่าว “รวมพลังแผ่นดิน”  อาทิ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, แก้วสรร อติโพธิ, ขวัญสรวง อติโพธิ, ปรีดา เตียสุวรรณ์, สมชาย แสวงการ,  ชาญชัย อิสระเสนารักษ์, ประสาร มฤคพิทักษ์, จเด็จ อินสว่าง, ประพันธุ์ คูณมี, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม, พล.ท.กนก เนตระคเวสนะ, พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์, พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา, กษิต ภิรมย์, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, ถาวร เสนเนียม,  ถวิล เปลี่ยนศรี, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, รสนา โตสิตระกูล, ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์, คมสัน โพธิ์คง, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, เจษฎ์ โทณะวณิก, ไชยันต์ ไชยพร, นันทิวัฒน์ สามารถ, วีระ สมความคิด, แซมดิน เลิศบุศย์, สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, อัญชะลี ไพรีรัก, หฤทัย ม่วงบุญศรี (อุ๊หฤทัย), ชัชชัย สุขขาวดี (หรั่ง ร็อคเคสตร้า), สาวิทย์ แก้วหวาน, มานพ เกื้อรัตน์, คมสันต์ ทองศิริ, ณีรนุช จิตต์สม, เสน่ห์ หงษ์ทอง, เครือข่ายองค์กรแรงงานรัฐวิสาหกิจ, จตุพร พรหมพันธุ์, นิติธร ล้ำเหลือ, พิชิต ไชยมงคล, นัสเซอร์ ยีหมะ, ใจเพชร กล้าจน (พร้อมผู้ชุมนุมกลุ่ม คปท. และกองทัพธรรม) 

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ คาดว่าจะมีการเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคประกาศถอนตัว เพื่อไม่เป็นการต่ออำนาจให้กับรัฐบาลที่กำลังเผชิญวิกฤตศรัทธาจากสังคม

ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายสมชาย แสวงการ อดีต สว., นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา, นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการกฎหมาย และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ เข้าแจ้งความดําเนินคดี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร มาตรา 120 ถึง 128 จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ความยาว 17.06 นาที ซึ่งมีพฤติกรรมล่อแหลมส่งผลให้ประเทศชาติเสียหาย

นายสมชายกล่าวว่า มาดำเนินคดีทางอาญากับ น.ส.แพทองธาร จากกรณีคลิปเสียงสมเด็จฮุน เซน ซึ่งคลิปเสียงนี้ตัวนายกฯ เป็นคนยืนยันเองว่าเป็นของจริง และอ้างว่าเป็นเทคนิคการสนทนา ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายนอกราชอาณาจักร จึงได้เข้าเเจ้งความกับ บช.ก. เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนทางสำนวนคดี ซึ่งจะมีการส่งให้อัยการสั่งฟ้องต่อไป รวมถึงเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกจากตำเเหน่ง เพราะในบางถ้อยคำเป็นการด้อยค่าแม่ทัพภาคที่ 2 และเปิดเผยความลับหลายส่วนในกรณีของการเปิดและปิดด่านชายแดน อีกทั้งหากฮุน  เซน ต้องการทำอะไรก็จะทำให้ ส่วนการจะไปยื่นที่ ป.ป.ช. ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งเป็นในเรื่องของอนาคต ขณะตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

แห่แจ้งความเอาผิดนายกฯ

 “คลิปเสียงดังกล่าวมีผลสะท้อนต่อทางการเมืองอย่างแน่นอน จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก และให้คณะรัฐมนตรีลาออก เพื่อสรรหานายกฯ และคณะรัฐมนตรีใหม่ แต่ไม่อยากให้มีการยุบสภา เพราะจะทำให้เสียเวลา และที่สำคัญคือไม่เห็นด้วยหากทหารจะทำการรัฐประหาร” นายสมชายกล่าว

ทั้งนี้ ความผิดต่อความมั่นคงฯ มาตรา 120 ถึง 128 มีโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตถึงประหารชีวิต

ที่สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช. นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและมีความเห็นกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ กรณีคลิปสนทนากับนายฮุน เซน ซึ่งเป็นศัตรูของชาติ  อันถือได้ว่าเป็นปรปักษ์ต่อแผ่นดิน อันอาจทำให้อำนาจอธิปไตยของชาติเสื่อมเสียไปได้ อันเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 มาตรา 120 ประกอบมาตรา 128 อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักรโดยชัดแจ้ง

นอกจากนี้ ยังอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 219  ให้ใช้บังคับไว้ในหลายๆ ข้อ เช่น ข้อ 6, ข้อ 7, ข้อ 8, ข้อ 11, ข้อ 17, ข้อ 19 และข้อ 26 ประกอบข้อ 27 

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นหนังสือเพื่อขอให้ กกต.ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ว่ามีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) หรือไม่ กรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน

นายเรืองไกรกล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือวันนี้เพราะเห็นว่าเป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากตรวจสอบแล้วว่าคลิปเสียงและนายกฯ ได้ยอมรับเองว่าเป็นคลิปเสียงการพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซนจริง ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้ตนต้องมายื่นร้องต่อ กกต.ว่าพฤติกรรมดังกล่าว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) ระบุว่า เหตุความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว เนื่องจากความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์  โดยศาลรัฐธรรมนูญได้วางแนววินิจฉัยไว้ เหมือนกรณีคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ซึ่งสามารถยึดเป็นแนวบรรทัดฐานได้ นี่ยังไม่ได้พูดถึงการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงที่จะเป็นดุลพินิจของ กกต. หรือจะมีการส่งต่อ ป.ป.ช.อีกทางหนึ่ง

ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์  ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายชัยชนะ ทัศนิยม ที่ปรึกษาองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ พร้อมสมาชิกองค์กรและภาคประชาชนคน จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์และดำเนินคดีกับ น.ส.แพทองธาร ในความผิด ป.อาญา มาตรา 116, 119, 157 และมาตรา 164 โดยมี พ.ต.ท.ศุภมินทร์ ล้วนโสม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมพนักงานสอบสวนเวรประจำวันมารับเรื่อง จากปรากฏคลิปเสียงระหว่างสมเด็จฮุน เซน กับ น.ส.แพทองธาร มีข้อความพาดพิงถึงการปฏิบัติหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ในลักษณะทำนองว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ใช่ฝ่ายเรา สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว

สว.ล่าชื่อถอดถอน

ที่รัฐสภา พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมคณะ สว. แถลงว่า ไม่สบายใจต่อพฤติการณ์ของผู้นำรัฐบาล ที่แสดงออกถึงการด้อยความสามารถ ขาดภาวะผู้นำ น.ส.แพทองธารยอมรับว่าคลิปเสียงสนทนาเป็นของตนกับสมเด็จฮุน เซนจริง มีเนื้อหาพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าเป็นคนฝ่ายตรงข้าม ด้อยค่า ไม่ให้เกียรติทหาร กองทัพที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตย เป็นการยินยอม อ่อนข้อและอ่อนน้อม ให้อริราชศัตรูผู้รุกรานต่อแผ่นดินไทย แสดงท่าทีพร้อมตอบสนองความต้องการที่สมเด็จฮุน เซนเรียกร้อง ทำให้ประเทศเสียหายอย่างใหญ่หลวง ประชาชนหมดความเชื่อถือศรัทธา ที่ผ่านมาพฤติการณ์ผู้นำรัฐบาลส่อถึงความเป็นคนไม่รักชาติ (บ่งบอกความเป็นคนทรยศขายชาติ) บัดนี้ความอดทนคนในชาติสิ้นสุดแล้ว

กมธ.การทหารฯ เห็นว่า การกระทำของ น.ส.แพทองธารอาจเข้าข่ายความผิด ดังนี้ 1.ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 ระบุว่า บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ประเทศ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน, มาตรา 52 รัฐต้องพิทักษ์ รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศ, มาตรา 164 ในการบริหารราชการแผ่นดิน ครม.ต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา 2.ผิดประมวลกฎหมายอาญา หมวด 2 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร และหมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ในมาตราต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฐานกบฏ หรือคบคิดกับบุคคลซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์ของรัฐ ต่างประเทศหรือที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ หรือร่วมเป็นข้าศึกของประเทศ และมาตรา 257 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 3.ส่งผลต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมือง เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริต ละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ดังนั้น ขอเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธารลาออกจากตำแหน่ง และยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที

"กมธ.ไม่อาจปล่อยให้บุคคลที่เป็นฝั่งตรงข้ามประเทศไทยบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้แม้แต่วินาทีเดียว มีความจำเป็นต้องยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธารออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ไม่ซื่อสัตย์สุจริต และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง โดยจะไปยื่นถอดถอนต่อศาลรัฐธรรมนูญและ ป.ป.ช. ในวันที่ 19 มิ.ย. ช่วงบ่ายต่อไป" 

เมื่อถามว่า หากไม่ลาออกการเมืองจะไปสู่ทางตันหรือไม่ พล.อ.สวัสดิ์กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น มั่นใจว่าคนไทยที่รักชาติรักแผ่นดิน มาถึงขนาดนี้แล้ว คิดว่ารัฐบาลคงมีหนทางในการตัดสินใจที่เป็นทางออกและเป็นผลดีต่อประเทศไทย ส่วนเรื่องรัฐประหารเราอย่าเอามาเป็นกังวล คิดว่าฝ่ายรัฐบาลน่าจะมีทางออกที่ดี คงไม่ไปถึงขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นทหารยุคไหนสมัยไหน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ หรือไม่ใช่เรื่องความเสียหายของประเทศชาติจริงๆ ไม่มีใครอยากจะทำ เพราะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ส่วนการเปิดประชุมอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ ม.153 จากการประชุมวิปวุฒิสภาเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เรามีมติร่วมกันว่าถ้าสถานการณ์ยังไม่มีอะไร เราอาจจะรออีกสักเดือนหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว กลุ่ม สว.บางส่วนได้ลงมาเซ็นรายชื่อบริเวณด้านหลังจุดแถลงข่าว เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอนนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รายชื่อครบเกินกว่า 1 ใน 3 จำนวน 67 คน มากกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว ส่วนการยื่นต่อ ป.ป.ช.จะยื่นในลำดับถัดไป

นายเมธา มาสขาว รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แถลงว่า นายกฯ ต้องลาออกเพื่อประกาศรับผิดชอบทางการเมือง ต้องให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่ ในระบบรัฐสภาตามกลไกของรัฐธรรมนูญ กองทัพต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน และสนองต่อนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ห้ามแตกแถว  และขอคัดค้านกระแสการเรียกร้องรัฐประหาร ซึ่งไม่ใช่ทางออกของระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ เครือข่ายองค์กรประชาชนจัดประชุมทางการเมือง ระดมข้อเสนอ และจะแถลงข้อเรียกร้องต่อสาธารณชน วันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.นี้ เวลา 15.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 ด้านหน้าสำนักงานกลางนักเรียนคริสเตียน (สนค.) พญาไท กรุงเทพฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีมวลชนลงถนนประท้วงว่า ไม่ได้กังวล วันนี้มีแต่เรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ ซึ่งกลุ่ม คปท.ก็ปักหลักชุมนุมมาอยู่แล้ว ถือเป็นสิทธิ์ ซึ่งได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่า ให้ใช้ความละมุนละม่อม และให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย

เมื่อถามอีกว่า ในวันที่ 19 มิ.ย. นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะลงถนนด้วยเช่นกัน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ของนายสนธิ และไม่ทราบว่าจะปลุกมวลชนขึ้นหรือไม่ แต่รัฐบาลเชื่อว่าได้ชี้แจงความตั้งใจ ซึ่งหน่วยงานราชการทั้งหมดเข้าใจแล้ว รวมถึงกองทัพก็เข้าใจ และต้องทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย.