หนังยาว‘เขากระโดง’รอศาลชี้900ราย

"รุทธพล" เผยคดีสืบสวนเขากระโดง ขอรอดูคำพิพากษาศาล หลัง “รฟท.”  ดำเนินคดีผู้ครอบครองที่ดินเขากระโดงกว่า 900  ราย ยืนยันไม่ลอยตัวเหนือปัญหา ด้าน “ศุภชัย”   ตั้งคำถาม “ดีเอสไอ” ถ้าที่ชาวบ้านครอบครองมาตั้งแต่ปี 2491 เป็นการฟอกเงิน ก็เป็นอำนาจดีเอสไอใครแทรกแซงไม่ได้

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 ที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบแนวทางการปฏิบัติงานสำหรับข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ก่อนออกมาเปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า วันนี้ตนได้ประชุมข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมกับมอบนโยบาย 6 เรื่องคือ เรื่องโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยโครงการนี้นอกจากทำในฐานะ รมว.ยุติธรรม ก็ยังทำในฐานะที่เป็นคนไทย  ส่วนนโยบายอื่นๆ เช่น การปราบปรามพนันออนไลน์ สแกมเมอร์ ยาเสพติด และนโยบายเพื่อประชาชนอื่นๆ เป็นต้น

สำหรับข้อครหาเรื่องคดีสืบสวนเขากระโดงและฮั้ว สว.นั้น ตนไม่ได้มีการพูดคุยในที่ประชุมกับดีเอสไอ เพราะตนเคยพูดไปแล้วในวันแรกที่เข้ารับหน้าที่ รมว.ยธ. เเละเรื่องเขากระโดงก็เป็นข้อพิพาทระหว่าง รฟท.กับคู่กรณี ซึ่ง รฟท.จะมีการฟ้องทุกแปลงอยู่แล้ว จึงควรรอฟังคำพิพากษา แต่ตนเข้ามาที่กระทรวงไม่กี่วัน ก็ไม่เคยยุ่งในคดีนี้ ส่วนที่ผ่านมาที่มีการประกาศจะไปยึดและเพิกถอนโฉนดที่ดินต่างๆ พบว่าผ่านมา 2 เดือน ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ และส่วนเรื่องฮั้ว สว. ก็เป็นการดำเนินการของ กกต.อยู่แล้ว ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ข่าวและเรื่องของสำนวนที่ออกมาสู่สาธารณะค่อนข้างมาก ถือเป็นเรื่องผิด และตนก็ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะทุกสิ่งอย่างตนต้องถามการรายงานความคืบหน้าจากปลัด  ยธ. การจะไปดูหรือไปแทรกแซงมันสุ่มเสี่ยงต่อการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของตน เพราะเรามีเวลาเพียง 4 เดือน การขับเคลื่อนงานภายในกระทรวงยุติธรรมเรามีหลายหน่วยงานในกระทรวง ไม่ได้ทำเพียงแค่ 2 เรื่องนี้ มีงานที่ต้องทำเพื่อประชาชนอีกเยอะ ฉะนั้นเรื่องเขากระโดงก็ขอรอผลคำพิพากษาที่ รฟท.ได้ไปยื่นดำเนินการก่อน 

ส่วนฮั้ว สว. ก็ต้องไปถาม กกต. เพราะก็ทราบว่าปัจจุบันนี้คดีฮั้ว สว.ได้ผ่านขั้นตอนของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ไปถึงชั้นของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง จากนั้นจึงไปสู่ชุดคณะกรรมการ กกต.ชุดใหญ่ ก่อนที่ กกต.จะยื่นต่อศาลฎีกาฯ ตามขั้นตอนต่อไป มันก็มีขั้นตอนอีกเยอะ ขอให้ไปสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เขาคงตอบได้มากกว่าตน เพราะเขาเห็นรายละเอียดเนื้อหามากกว่าตนอยู่แล้ว

พล.ต.ต.รุทธพลกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีข้อครหาหรือข้อแคลงใจของสังคมก็ยังพุ่งเป้ามาที่ตนนั้น ก็คงต้องดู เพราะถ้าเป็นข้อครหาสงสัย ตนก็คงไม่รู้จะตอบอย่างไร ก็คงต้องดูในการกระทำหลังจากนี้ไป ส่วนหน่วยงาน รฟท. ที่เคยมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับดีเอสไอ ก็ให้ดีเอสไอดำเนินการไปตามขั้นตอน พร้อมย้ำว่าในคดีสืบสวนเรื่องเขากระโดง ดีเอสไอยังไม่ได้มีการรายงานส่วนใดมาที่ตนเอง เพราะเพิ่งเข้ามามอบนโยบาย คงต้องดูทุกกรมให้เท่ากัน และถ้าทำได้ ก็ถามย้อนกลับว่าในสมัยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมใน 2 เดือนที่ผ่านมา ท่านได้ทำหรือยัง

เมื่อถามว่า เรื่องเขากระโดงยังเป็นเพียงเรื่องสืบสวนของดีเอสไอ และ รมว.ยธ.ก็อ้างว่าต้องรอคำพิพากษาศาลภายหลังจากที่ รฟท.ไปฟ้องดำเนินคดี หมายความว่าดีเอสไอจะยังไม่รับเป็นคดีพิเศษจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษากับคู่กรณีของ รฟท. จำนวนกว่า 900 รายใช่หรือไม่ รมว.ยุติธรรมตอบว่า คงต้องรอให้ทางดีเอสไอสืบพยานก่อน เพราะดีเอสไอก็มีขั้นตอนการดำเนินการของเขาอยู่ มีคณะกรรมการคดีพิเศษ (บอร์ด กคพ.) เขาก็คงต้องดำเนินการไปว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้ชงเป็นคดีพิเศษ ส่วนว่ากรอบระยะเวลาจะเลยไปถึง 4 เดือนหรือไม่ กว่าที่จะรับเป็นคดีพิเศษนั้น ก็ต้องดูการรับผิดชอบของดีเอสไอ ว่าจะประมวลเรื่องและสรุปเรื่องขึ้นมาได้ตอนไหน อย่างไร

ต่อข้อถามว่า รมว.ยธ.เหมือนจะลอยตัวแล้วปล่อยให้ดีเอสไอทำหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพลกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับตน การดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ดีเอสไอก็ทำมาแล้ว มันเป็นอื่นไปไม่ได้อยู่แล้ว ตนไม่ได้ลอยตัวในปัญหาอยู่แล้ว

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงคดีสืบสวนที่ดินเขากระโดง ว่าต้องรอทางศาลมีคำพิพากษาจากกรณีที่ รฟท.ไปดำเนินคดีกับคู่กรณีกว่า 900 รายหรือไม่ เนื่องด้วยดีเอสไอยังไม่รับเป็นคดีพิเศษ ว่าในการสืบสวนมันก็คือการแสวงหาพยานหลักฐานเบื้องต้น ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในชั้นการดำเนินการเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งก็มีการสอบปากคำพยานไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่รับเป็นคดีพิเศษ ขอให้ได้นำเนื้อหามาดูก่อนว่ามีเหตุ หรือมีพยานหลักฐานให้สมควรรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ อย่างไร

นายศุภชัย ใจสมุทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ว่า สถานะตอนนี้เป็นเรื่องของ 3 ฝ่าย คือ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ที่ศาลปกครอง ในเรื่องของการฟ้องครั้งแรกก็เป็นการยื่นฟ้อง และศาลก็ได้มีคำวินิจฉัยว่าให้กรมที่ดินไปดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดินตามมาตรา 61 ในเรื่องของการไปพิจารณาว่าการออกโฉนดที่ดินมีการคลาดเคลื่อนหรือผิดกฎหมายหรือไม่ และผลจากการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ตามมาตรา 61 ที่มีการตั้งขึ้นมาโดยใช้ระยะเวลาถึง 8 เดือน ก็ได้ข้อสรุปว่า การออกโฉนดที่ดินที่มีผู้เป็นเจ้าของ 995 รายนั้น ไม่ได้คลาดเคลื่อนและผิดกฎหมาย คณะกรรมการฯ จึงมีมติว่าไม่เพิกถอนโฉนดที่ดิน เมื่อตรงนั้นไม่เพิกถอน อธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้นก็เห็นชอบตามคณะกรรมการฯ

เขากล่าวต่อว่า วันนี้สถานะมันเป็นอย่างนั้น และวันนี้ รฟท.ก็ยังเห็นว่าตนเองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ดังนั้นวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นสถานะ  ณ ตอนนี้ก็คือการรถไฟฯ ก็ดำเนินการในการฟ้องคดีกับเจ้าของที่ดิน 995 ราย ตอนนี้เริ่มฟ้องไป 2 ราย ก็เป็นกระบวนการ ซึ่งเราเห็นว่ามันเป็นหนทางที่ถูกต้อง ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรม สิ่งที่อาจจะเกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรมที่ผ่านมาก็คือดีเอสไอ ท่านได้ไปดูว่าการเข้าไปยึดครองของประชาชนบริเวณนั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญาถึงขนาดที่ต้องนำไปเป็นคดีพิเศษ หรือมีการพูดถึงเรื่องการฟอกเงินหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องเป็นเรื่องที่ทางดีเอสไอต้องพิจารณาอย่างที่ท่านรัฐมนตรีได้มีการชี้แจงไปแล้ว

"หากถามว่าตรงนั้นเป็นหน้าที่ของท่านหรือไม่ เพราะชาวบ้านที่เขาครอบครองมาตั้งแต่ปี 2491 แล้ววันดีคืนดีมาบอกว่ามีการฟอกเงิน แล้วหากท่านเห็นว่ามีการฟอกเงินจริง ก็ถือเป็นอำนาจของดีเอสไออยู่แล้ว ไม่มีใครแทรกแซงได้" นายศุภชัยกล่าว

ที่รัฐสภา นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ นำ สส.พรรคประชาชาติแถลงข่าวเรื่องการติดตามปัญหาที่ดินเขากระโดงว่า กรณีนี้ถือเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของคำพิพากษา และเป็นการละเมิดหลักนิติธรรม ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ว่า รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ หน่วยงานของรัฐ จะต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชน จึงขอเรียกร้องให้อธิบดีกรมที่ดินทบทวน และไม่ต้องรอให้การรถไฟฯ ฟ้องหรือให้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด เพราะไม่รู้จะใช้เวลา 4-5 ปี หรือ 10 ปีก็ได้

 “ต้องติดตามต่อไปว่า ท้ายที่สุดอาจจะมีคนที่ไปร้องไปแจ้งความดำเนินคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบก็ได้” นายกมลศักดิ์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.