พี่นัสอัดน้องกันทำอะไรคิดน้อยไป

กัน จอมพลัง และประธานมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ ตั้งโต๊ะเคลียร์ปมเงินบริจาค  200 ล้าน ยืนยันไม่เคยโอนเงินให้ "มูลนิธิธรรมนัสฯ" มีแต่โอนให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ กับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก พร้อมขอโทษ คิดน้อย ปฏิเสธบัญชีม้า ฟอกเงิน 

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วย  น.ส.กาญจนา สถาวร หรือ "อีฟ" ประธานมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ ร่วมกันแถลงข่าวปมดรามาเงินบริจาคมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ โดย น.ส.กาญจนา ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า ขออภัยที่มูลนิธิออกมาตอบคำถามต่อสาธารณชนช้า 2   สัปดาห์ที่ผ่านมา มูลนิธิติดตามข่าวมาตลอด  แต่ต้องยอมรับช่วงแรกการตั้งคำถามของสังคมมุ่งไปที่ตัวของกัน จอมพลัง มูลนิธิจึงตัดสินใจไม่ตอบคำถาม กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตั้งคำถามถึงมูลนิธิโดยตรง

เงินตั้งมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ เริ่มที่ 5 แสนบาท มาจากกลุ่มเพื่อนกัน จอมพลัง ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน เงินเข้ากว่า 200 ล้านบาท ถูกใช้ไปแล้วประมาณ 117 ล้านบาท

ส่วนประเด็นข้อบังคับมูลนิธิข้อที่ 39 ยอมรับว่า การก่อตั้งมูลนิธิถือเป็นน้องใหม่ในการทำเรื่องดังกล่าว กลุ่มที่เริ่มตั้งมูลนิธิไม่ทราบว่าจะต้องระบุข้อมูลที่จะยกเงินต่างๆ ไปให้ส่วนใดส่วนหนึ่ง

หลักเกณฑ์กำหนดไว้ว่า มูลนิธิเลิกกันไป ชำระบัญชีเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ในมูลนิธิจะไม่สามารถรับเงินต่อได้ เพราะไม่ใช่ทรัพย์สินคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องให้มีมูลนิธิ องค์กรสาธารณกุศล รับต่อ ภายใต้วัตถุประสงค์ หากไม่มีการทำตามวัตถุประสงค์ให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป ยืนยันว่าทำมูลนิธิทำตามกฎหมาย และมูลนิธิทำตามปกติ ฉะนั้นเงินเข้ามูลนิธิ ไม่มีการโยกย้ายไปที่มูลนิธิธรรมนัสฯ และตั้งแต่เปิดมูลนิธิมามีการโอนให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ กับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และอยู่ที่มูลนิธิกันจอมพลังฯ กว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นเงินบริจาคของแจ็คสัน หวัง

ที่ผ่านมามูลนิธิเปิดบัญชีธนาคารเพียง 2 บัญชี 1 บัญชีใช้ปัจจุบัน อีก 1 บัญชียังไม่มีการใช้งาน ข้อสำคัญของมูลนิธิคือจะไม่มีการเบิกถอนเงินสด ตัวแทนบริษัทบัญชีก็ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่มีการเบิกถอนเงินสด

ส่วนที่เกี่ยวโยงกับมูลนิธิธรรมนัสฯ เพราะเคยร่วมตั้งโรงครัวด้วยกันในช่วงน้ำท่วม แต่มูลนิธิที่จะรับต่อไม่ได้รับแค่ทรัพย์สิน แต่ต้องรับหน้าที่และวัตถุประสงค์ต่อจากมูลนิธิกันจอมพลังฯ  ด้วย และที่เป็นมูลนิธิธรรมนัสฯ เพราะขณะนั้นมูลนิธิกันจอมพลังฯ ไม่ได้สนิทกับมูลนิธิอื่น

ส่วนกรณีที่ว่าทำไม กัน จอมพลัง ไม่เป็นประธานมูลนิธิฯ ย้ำว่าส่วนตัวเห็นว่าหากตนไม่มีชีวิตอยู่ ยังมีมูลนิธินี้ดำเนินการอยู่ อีกเหตุผลคือการที่ตนไม่มีอำนาจควบคุมต่างๆ จะเป็นความโปร่งใส แต่ทั้งนี้หลายคนตั้งคำถามว่ามูลนิธิจะไม่โปร่งใส จากนี้จะเข้ามาบริหารด้วยตนเองเพื่อให้เกิดความสบายใจ

ส่วนที่ ไอซ์ รักชนก ตั้งคำถามว่าทำไมถึงต้องระบุผ่านสื่อว่าไม่สนิทกับ ร.อ.ธรรมนัส ส่วนตัวเคยตอบไปแล้วว่าสนิท ใครที่อยากช่วยเหลือผม ผมก็พร้อมที่จะสนิทด้วย

นอกจากนี้ กัน จอมพลัง ยังได้เปิดหลักฐานการสนทนากับ สส.พรรคประชาชน ในการทำเรื่องสแกมเมอร์ ยืนยันต้องการช่วยและจริงจังกับการทำงาน ย้ำว่าถ้าไม่โอเคกับพรรคประชาชน ตนจะช่วยทำไม และย้ำไม่เคยคิดลงเล่นการเมืองแม้มีหลายคนชวน

วันเดียวกันนี้ กัน จอมพลัง เดินทางไปกระทรวงมหาดไทย เพื่อยื่นคำร้องต่อกรมการปกครอง ให้ดำเนินการตรวจสอบมูลนิธิของตนเองอย่างละเอียด

สำหรับข้อครหาเรื่องบัญชีม้าหรือการฟอกเงินนั้น นายกัณฐัศว์ยืนยันความบริสุทธิ์และยินดีให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน รวมถึงพร้อมเดินทางไปชี้แจงที่ ปปง. หากมีการร้องขอ โดยมั่นใจว่าผู้บริจาคส่วนใหญ่เป็น Influencer และดารานักแสดงซึ่งมีตัวตนชัดเจน และท้าให้ผู้กล่าวหานำสเตตเมนต์มาแสดงว่ามีการกดเงินสดออกมาจากบัญชีมูลนิธิจริง เพราะบัญชีไม่มีการกดเงิน

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเปลี่ยนไปแล้ว แล้วเวลาเขาทำก็ไม่มาถามเรา ไม่รู้เรื่องเลย เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับตนเลย ที่สำคัญคือเรื่องนี้ทุกมูลนิธิก็ต้องระบุ เพราะอย่างมูลนิธิธรรมนัสฯ ก็ระบุเป็นวัดธาตุทอง ถ้ามีอะไรให้เป็นสมบัติของวัดไป

 “มันจะถึงพรรคกล้าธรรมได้ไง ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของกัน มันน่าจะเป็นเรื่องมือใหม่หัดขับ ทำอะไรไม่ค่อยคิด” รองนายกฯ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง