แห่ตบเท้าเข้าสังกัด‘สีนํ้าเงิน’

“อนุทิน” อ้าแขนรับ “เสี่ยเฮ้ง-ดร.แด๊ก” เข้าภูมิใจไทย พร้อมขน สส.อีกกว่า 10 คน แสดงความประสงค์ร่วมงานในอนาคต “ธนกร” ชงหวานนายกฯ ในอนาคตชื่ออนุทิน นายกฯ นำคณะลงกระบี่ โปรยยาหอมไม่เป็นรองภูเก็ต “พิพัฒน์” ลั่นลงนามสร้างสะพานลันตายุคนี้แน่  “เทพไท” ยังเชื่อรัฐบาลยุบสภาก่อน 4 เดือน

เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ต.ค.2568 ที่พรรคภูมิใจไทย  (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ให้การต้อนรับนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม ที่ลาราชการนำคณะเดินทางเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท. โดยประกอบด้วย นายสุชาติ, นายธนกร และนายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายฤทธิรงค์ ภูมิสวัสดิ์ ที่ปรึกษาของ รมว.อุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมี สส.ที่แสดงความประสงค์จะร่วมงานกับพรรค ภท.ในอนาคตจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางมาให้กำลังใจ อาทิ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช, น.ส.กุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี, นายสันต์ แซ่ตั้ง สส.ชุมพร, พล.ต.ต.สุรพล บุญมา สส.นครนายก, นายอนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ สส.ชลบุรี, นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลลุรี, นายวัชระ ยาวอหะซัน สส.นราธิวาส, นายพิพิธ รัตนรักษ์ สส.สุราษฎร์ธานี, นายพันธ์ศักดิ์ บุญแทน สส.สุราษฎร์ธานี, นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา และนายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สส.บัญชีรายชื่อ 

นายอนุทินกล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราได้สมาชิกใหม่ที่มีคุณภาพ มีทีมที่นำโดยนายสุชาติและนายธนกร ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ถือเป็นน้องรักทั้งคู่ ได้ทำงานด้านการเมืองมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว และเมื่อถึงเวลาอันสมควร ซึ่งก็คือวันนี้ทั้ง 2 คนก็ได้ตัดสินใจจะมาร่วมกิจกรรมสมัครมาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อจะได้ทำงานด้านการเมือง เตรียมการเลือกตั้งที่จะมาถึงเร็วๆ นี้ และบริหารพรรคร่วมกัน

นายสุชาติกล่าวขอบคุณนายอนุทินที่มาให้การต้อนรับ ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีและเป็นนักการเมืองได้ติดตามรู้จักกับนายอนุทินมาอย่างยาวนาน กลุ่มของตนเองที่มีอุดมการณ์เดียวกันตั้งใจทำงานการเมืองให้กับประเทศชาติ เชื่อมั่นในตัวนายกฯ และเชื่อมั่นในหัวหน้าพรรค ภท. ซึ่งมีความรู้ ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต นำพาประเทศชาติสู่ความรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จได้แน่นอน

นายธนกรกล่าวขอบคุณนายอนุทินเช่นกันก่อนระบุว่า เชื่อมั่นนายอนุทินเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถครบเครื่อง มีความรู้เศรษฐกิจการเมือง และเป็นคนที่สามารถประสานได้ทุกทิศ เป็นคนที่มีความอ่อนหวานและเด็ดขาด และที่สำคัญที่สุดที่ตัดสินใจมาร่วมงาน คือท่านยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จึงเชื่อว่าจะสามารถนำพาประเทศไปสู่วันข้างหน้าได้ และคิดว่าวันนี้นายกฯ ในอนาคตคงจะเป็นชื่ออนุทิน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ระหว่างที่นายอนุทินสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทยให้นายธนกร นายอนุทินได้ลงอักขระหลังเสื้อแจ็กเกตพรรคภูมิใจไทยและทุบหลังด้วย

ในช่วงเย็น นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย แกนนำพรรค ภท.ให้การต้อนรับผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. นำโดย นายพินิจ จันทรสุรินทร์ สมาชิกแบบบัญชีรายชื่อ, นายชวนิต จันทรสุรินทร์ ลำปางเขต 1, นายศรีพรหม หอมยก ลำปางเขต 2, นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ ลำปางเขต 3 และนางภุมรา จันทรสุรินทร์ ลำปาง เขต 4 ที่มาสมัครสมาชิก ภท. นอกจากนี้ นายทรงศักดิ์ยังให้การต้อนรับผู้สนใจเป็นผู้สมัคร สส.จังหวัดลำพูน ทั้งนายยุทธพงศ์ ไชยศร ลำพูน เขต 1 และนายศิรศักดิ์ ทองยอด ลำพูน เขต 2 โดยสมัครสมาชิกพรรค ภท.ด้วย

ขณะที่เวลา 15.45 น. นายอนุทินพร้อมคณะได้ลงพื้นที่มอบนโยบายกับหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตร ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ณ อาคารเดอะแพลทตินัม ฮอลล์ ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่

โดยนายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า เราไม่เอาเรื่องการบริหารราชการมาเป็นเรื่องทางการเมือง รัฐบาลที่แล้วทำ แต่เราไม่ทำ เราเน้นถึงความเจริญก้าวหน้าของพื้นที่เป็นสำคัญ คนที่มีความเข้าใจพื้นที่สามารถทำงานได้ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทำให้จังหวัดเจริญได้ คือคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาดำรงตำแหน่งต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ ไม่ต้องเป็นรองภูเก็ต

“ให้ความมั่นใจกับพี่น้องชาวกระบี่ได้เลยว่าสิ่งที่ค้างคาอยู่ต้องทำให้สำเร็จ ผมพูดเหมือนอยู่ 4 ปี ทั้งที่อยู่แค่ 4 เดือน แต่ถ้ามีผลงานทุกคนที่พี่น้องเลือกไปทำผลงานได้ดี ทุกท่านก็เลือกให้ จากอยู่ 4 เดือนเป็นอยู่ต่ออีก 4 ปี จะเป็นอะไรไป ขณะที่คนอื่นอยู่มาปี 2 ปี 4 ปี 5 ปี แต่ไม่ทำ สโลแกนของเราพูดแล้วทำอยู่แล้ว สั่งวันนี้เสร็จตั้งแต่เมื่อวานก็เป็นเหมือนที่เราพูดจริงๆ”

นายอนุทินยังกล่าวทิ้งท้ายว่า จำได้เวลาที่ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ได้สะตอคล้องคอแทนพวงมาลัย ซึ่งคราวนั้นได้พบกับโกหงวน และปัจจุบันมี สส.ถึง 3 คน เที่ยวหน้าไม่ของอก แต่ขอให้ได้ทั้ง 3 คน ทั้งโกม้อ โกหนึ่ง โกสุด โกเกี๊ยะ โกหงวน และจะมีโกหนูมาด้วย ครบ 5 โก เพื่อทำให้กระบี่โกอินเตอร์

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ได้ขึ้นเวทีกล่าวตอนหนึ่งกับหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรและผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น โดยมี สส.กระบี่ทั้ง 3 คนมาร่วมด้วยว่า เดือน ธ.ค.นี้ ยืนยันว่าจะได้ลงนามสร้างสะพานข้ามเกาะลันตา​ โดยอธิบดีกรมทางหลวงชนบทได้ไปหารือกับธนาคารโลกแล้ว หลังจากล่าช้ามา 4-5 ปี  เชื่อว่าจะได้เซ็นสัญญาในช่วงที่เป็นรัฐ​มนตรีแน่นอน​ คืนสะพาน​ให้ชาวกระบี่ให้ได้​ เราจะได้ใช้สะพานนี้ในอนาคต เมื่อลงนามก็จะเริ่มตอกเสาเข็ม ชาวกระบี่โดยเฉพาะพี่น้องที่เกาะลันตาจะได้เดินทางสะดวกยิ่งขึ้นในระยะเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ในเวลา 16.30 น. นายอนุทินพร้อมคณะ เปิดงานรวมพลคนกินเจ จังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 19 ที่ศาลหลักเมือง จังหวัดกระบี่ โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาท่ามกลางฝน แต่น้ำฝนไม่ได้ทำให้เรามาพบกันไม่ได้ ตอนนี้ฝนตก ขอเชิญให้ทุกคนไปเริ่มเทศกาลกินเจ ชมการแสดงต่างๆ หาที่หลบฝนให้ดี จะได้ไม่เจ็บป่วย ขอให้มีความสุข ขอให้กินเจแล้วได้บุญเยอะๆ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ขอให้มีสุขภาพดี มีความร่ำรวย และมีความสุขตลอดไป

ด้านความเคลื่อนไหวของนักการเมืองต่างๆ นั้น นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) กล่าวว่า ประชาชนมีความคาดหวังต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจของแต่ละพรรคการเมืองที่จะนำมาเสนอต่อประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นอย่างมาก ซึ่ง ชพน.จะได้มีการหารือและเตรียมตัวในการสู้ศึกตั้งในช่วงปี 2569 ซึ่งยังพอมีเวลาในการเตรียมความพร้อม

สำหรับการจะเข้าร่วมกับพรรคการเมืองใดหรือไม่นั้น นายสุวัจน์กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคการเมืองใด ต้องหารือกับกรรมการบริหารพรรคก่อน ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ส่วนตัวมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีขั้นตอนที่เยอะ เพราะขั้นตอนในการแก้ไขถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งทำให้การแก้ไขไม่ใช่เรื่องง่าย กุญแจดอกแรกที่จะนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญคือการแก้ว่าด้วยวิธีการแก้

“การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าเหตุการณ์บ้านเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากประเทศมีรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันก็สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ทันสถานการณ์มากขึ้น คาดว่าน่าจะไปถึงสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ จึงจะรู้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จหรือไม่” นายสุวัจน์กล่าว

ขณะที่ นายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวหลังการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายพรรคเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ว่า ที่ประชุมให้ความสำคัญกับนโยบายคุณภาพ เพื่อสื่อสารกับประชาชน ที่พรรคจะได้เริ่มต้นการร่างนโยบายจากแนวคิด Blank Canvas เพื่อเปิดรับทุกความคิดใหม่ๆ โดยปราศจากกรอบความคิดเดิมมาจำกัด โดยที่ประชุมตั้งเป้าหมายว่า จะได้มุ่งเน้นไปที่ 3 นโยบาย ที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที คือ 1.ด้านเศรษฐกิจและการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน 2.ด้านความมั่นคงและการต่อต้านมิจฉาชีพ (Scammer) อันมีรากฐานมาจากปัญหาคอร์รัปชัน และ 3.การขับเคลื่อนบทบาทของประเทศไทยบนเวทีโลก พร้อมกับปรับรูปแบบการทำงานให้มีความยืดหยุ่น โดยอาศัยเครื่องมือและเทคโนโลยีเข้ามาวิเคราะห์เพื่อหาจุดที่สร้างปัญหาของสังคม รวมไปถึงการร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลทางความคิดสำหรับสื่อสารให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย ให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ทุกคนเลือกได้

ส่วน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “อนุทินอยู่ไม่ครบ 4 เดือน” ระบุว่า ดูการให้สัมภาษณ์ของนายอนุทินในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้ ว่าพร้อมจะยุบสภาก่อนกำหนด ก็มีความเป็นไปได้ แต่รัฐบาลของนายอนุทินก็พยายามจะบริหารประเทศให้ครบตามกำหนด 4 เดือน โดยใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน เพราะถ้าหากยุบสภาก่อนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมีผลสำเร็จ หรือผ่านมติของที่ประชุมรัฐสภา จะสร้างความเสียหายทางการเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ต่างก็ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ เพื่อจะนำไปสู่การทำประชามติ

“พรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวลเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมากนัก เพราะเชื่อว่าปัญหาสำคัญของพรรคเพื่อไทย คือต้องการล้มรัฐบาลชุดนี้ให้ได้เร็วที่สุดมากกว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น่าจะเป็นเงื่อนไขเดียว และถ้าดูท่าทีความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคน ก็เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แน่นอน”

นายเทพไทย้ำว่า รัฐบาลชุดนี้คงรู้ว่ามีเงื่อนไขเดียวเท่านั้นที่จะทำให้รัฐบาลรอดพ้นจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ต้องสร้างกระแสให้สังคมต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญสูงมาก เพื่อทำให้พรรคฝ่ายค้านไม่กล้าฝืนกระแสสังคม ที่อยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จ ถ้าเป็นเช่นนี้รัฐบาลก็จะอยู่ครบ 4 เดือน เพื่อแลกกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะนำไปทำประชามติในวันเลือกตั้ง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าแม้พรรคภูมิใจไทยหรือรัฐบาลชุดนี้นำเอาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกันก็ตาม แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถฝืนกระแสเรียกร้องการยุบสภาได้ หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ก่อน จึงเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีอายุไม่ครบ 4 เดือน จะมีการยุบสภาก่อนวันที่ 31 ม.ค.2569 แน่นอน.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา 'อนุทิน' อ้างการเมืองรุมเร้า ต้องคืออำนาจให้ประชาชน

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีใจความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศ

แฉทหารต่างชาติบังคับโดรน

วุ่นกักตัวคนไทยไม่ให้กลับประเทศ ทบ.ซัดการทูตปอยเปต ใช้พลเรือนเป็นข้อต่อรอง ด้าน กต.เร่งออกเอกสารด่วนให้คนไทยตอนในเดินทางออกทั้งทางบก-อากาศ

ศึกชายแดน เปลี่ยนเกม! ‘อนุทิน’ พลิกบีบ ‘ส้ม-แดง’

พรรคภูมิใจไทย พลิกเกมขี่กระแส ชาตินิยม ได้อย่างทันทีท่วงที เมื่อ “นายกฯ หนู”-อนุทิน ชาญวีรกูล พลิกสถานการณ์จากเสียงตำหนิเรื่องน้ำท่วมใต้และปัญหาสแกมเมอร์ล่าช้า มายืนบนพื้นที่ที่ตัวเองได้เปรียบ คือกระแสชาตินิยม และประเด็นความมั่นคง