"บวรศักดิ์” ยกคำพูด “อนุทิน” เร็วไปซักฟอกใน 1 เดือน แต่หน้าที่ฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบ รับถ้ายุบสภาแก้ รธน.ก็ตกไปเลย “ภราดร” เชื่อฝ่ายค้านไม่ยื่นซักฟอก เหตุทุกฝ่ายอยากแก้ รธน.ให้สำเร็จ แนะหากต้องการให้เสร็จก่อนสิ้นปีต้องเปิดสมัยวิสามัญ "รักชนก" ยัน "ปชน." ไม่เสียค่าโง่ หากนายกฯ ชิงยุบสภาก่อนจนแก้ รธน.ไม่ได้ อย่างน้อย ปชช.ไม่ต้องทนกับรัฐบาลที่ไร้ความสามารถอีก 2 ปี
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 6 พฤศจิกายน นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะยุบสภาก่อนว่า เรื่องยุบสภาเป็นเรื่องของนายกฯ ตนไม่สามารถพูดได้ หากอยากรู้ต้องถามนายกฯ
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะกระทบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายบวรศักดิ์ตอบว่า ถ้ารัฐธรรมนูญยังไม่เสร็จแล้วมีการยุบสภา ก็ตกไปเลย ก็จบ ก็เลือกตั้ง อย่างมากที่สุดในการเลือกตั้งก็จะมีการตั้งคำถามประชามติเรื่องประชาชนเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่พร้อมกับการเลือกตั้ง เพราะถ้าไม่มีร่างรัฐธรรมนูญจะเอาไปให้ประชาชนเห็นชอบได้อย่างไร
เมื่อถามว่า นายกฯ พูดทำนองว่ากลัวเกมการเมืองการยื่นอภิปราย ถือเป็นเกมการเมืองที่ต้องระวังหรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะมีฝ่ายค้านไว้ทำไม คำว่าเล่นการเมืองเป็นคำที่ถูก หากคุณเล่นละคร ได้รับบทเป็นตัวร้าย ต่อให้คุณเป็นคนดีให้ตายอย่างไรในชีวิตจริงคุณจะไปสวมบทคนดีอยู่ได้หรือไม่ คุณก็ต้องสวมบทเล่นเป็นคนร้าย การเมืองก็เหมือนกัน คุณเป็นฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบรัฐบาล
"แต่สิ่งที่นายกฯ พูดผมเข้าใจว่า ท่านถามว่าทำงานมา 1 เดือน เวลาไม่สั้นเกินไปหรือที่จะมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมเข้าใจเช่นนั้น ส่วนจะถูกหรือไม่ต้องไปถามนายกฯ" นายบวรศักดิ์กล่าว
ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่...) พ.ศ….. กล่าวถึงความชัดเจนในการขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ในระหว่างวันที่ 8-10 ธ.ค.68 ว่า ยังไม่ชัดเจน ที่ตนให้ข่าวในวันนั้นเป็นการแสดงความคิดเห็นว่าหากเป็นไปได้ และทุกฝ่ายอยากเห็นการลงมติในวาระ 3 ก่อนปีใหม่ ก็จำเป็นจะต้องเปิดสมัยวิสามัญ ไม่จำเป็นต้องเปิดปลายเดือน พ.ย. เพราะเราสามารถที่จะเปิดก่อนการเปิดประชุมสมัยสามัญทั่วไป 2-3 วันเท่านั้น ฉะนั้นสามารถทำได้ ถ้าทุกฝ่ายเห็นว่าควรให้เสร็จก่อนปีใหม่ในการลงมติในวาระ 3 ก็จำเป็นจะต้องเปิดสมัยวิสามัญ โดยนายกรัฐมนตรี ต้องแจ้งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ขอเปิดสมัยประชุมสามัญ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายกฯ พูดถึงเรื่องการยุบสภา ใน กมธ.ได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้หรือไม่ว่า กระบวนการแก้ไข รธน.จะเป็นอย่างไร จะเสร็จแค่ไหนแค่นั้น หรือจะไม่เสร็จเพราะยุบสภา นายภราดรกล่าวว่า ยุบสภาไปก็ยกเลิกหมดทุกอย่าง และที่ทำมาก็ล้มทั้งหมด จึงขอภาวนาอย่าให้เกิด
เมื่อถามว่า แล้วอย่างนี้ต้องขอใคร ขอพรรคส้มหรือพรรคแดง นายภราดรกล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ ในเวลาแค่หนึ่งถึงสองเดือน ฝ่ายการเมืองจะต้องตระหนักให้ดี เพราะหมุดหมายของเราอยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ และเดินหน้าสู่การทำประชามติ พร้อมกับการเลือกตั้ง ดังนั้นอุปสรรคใดที่จะทำให้รัฐธรรมนูญไม่เดินสู่เป้าหมายต้องช่วยกันพิจารณา
"ผมเชื่อว่าไม่มีใครยื่นซักฟอก ซึ่งเท่าที่พูดคุยกันในกรรมาธิการก็เห็นตรงกันว่าอยากเดินหน้าสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันทุกฝ่ายก็รู้ว่ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจมีบทสรุปคืออะไร" นายภราดร กล่าวเมื่อถามว่าหากนายกฯ ยุบสภาจะไปโทษว่าละเมิด MOA ไม่ได้ใช่หรือไม่
ถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยบอกว่าจะยื่นซักฟอก แสดงว่าไม่เชื่อว่าจะยื่นใช่หรือไม่ นายภราดรกล่าวว่า เท่าที่ตนคุยรายบุคคล ไม่ได้คุยในนามพรรค ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าหมุดหมายสำคัญคือการพยายามเดินหน้าแก้ไข รธน.เพื่อให้ได้ รธน.ฉบับใหม่ ส่วนจะเป็นการขู่ของฝ่ายค้านหรือไม่ ตนไม่ทราบ อาจจะเป็นความเห็นส่วนบุคคล
เมื่อถามว่า หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ประธานรัฐสภาไม่ได้บรรจุในระเบียบวาระ จะเปรียบเสมือนยังไม่มีการยื่นใช่หรือไม่ นายภราดรกล่าวว่า เข้าใจว่าญัตติจะมีผลก็ต่อเมื่อถูกบรรจุไว้ในระเบียบวาระ ก่อนที่จะบรรจุระเบียบวาระก็เป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาที่จะต้องตรวจสอบให้ถูกต้องเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เมื่อถามย้ำว่า หากประธานรัฐสภาบรรจุญัตติยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในระเบียบวาระการประชุมแล้ว นายกฯ จะยุบสภาไม่ได้ใช่หรือไม่ นายภราดร ยอมรับว่า ใช่
ด้าน น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวกรณีหากจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่นายกฯ จะยุบสภาก่อน ว่าไม่กังวลอะไรเกี่ยวกับนายกฯ แต่กังวลเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมากกว่า เรื่องสแกมเมอร์ก็เด่นชัดขึ้นมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เราเริ่มจะคลำหาตัวการใหญ่เจอแล้ว เราต้องจริงจังต่อกับเรื่องนี้ ตอนนี้มีนานาชาติเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ แต่นายกฯ ไทยกลับบอกว่ามาตรการก็ทำไปบ้างแล้ว แต่โปรโมตไม่เก่งหรือไม่สื่อสาร ตอนนี้พวกเรายังไม่เห็นความคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับสแกมเมอร์เลย
เมื่อถามว่า หากนายกฯ ชิงยุบสภาก่อน แสดงว่ารัฐบาลอุ้มคนผิดหรือไม่ น.ส.รักชนกกล่าวว่า เราไม่ได้มีหน้าที่กังวลหรือห่วงแทนนายกฯ ถ้ารัฐบาลยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับเรื่องสแกมเมอร์แบบนี้ท่านห่วงตัวเองดีกว่า
เมื่อถามย้ำว่า หากชิงยุบสภาก่อน รธน.ก็ไม่ได้แก้ ปชน.เสียค่าโง่หรือไม่ น.ส.รักชนกกล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเสียค่าโง่อะไร ถึงแม้การยุบสภาจะเกิดขึ้นภายใน 4 เดือนหรือเร็วๆ นี้ แต่คิดว่ามันคุ้มค่าที่สุดสำหรับประชาชนแล้ว เพราะเราไม่ต้องทนอยู่กับรัฐบาลที่ไร้ความสามารถต่อไปอีก 2 ปี
ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า ไม่สามารถตอบในนามของ กมธ.ได้ ส่วนกรณีที่ประธานรัฐสภาระบุว่าอยู่ที่ กมธ.จะพิจารณาแล้วเสร็จเมื่อไหร่นั้น ตนยืนยันในกรอบเดิมที่เคยกำหนดไว้ ต่อจากนั้นจะทำรายงานต่อประธานรัฐสภา เพื่อประสานไปยังรัฐบาลต่อไป หากพิจารณาแล้วเสร็จภายในช่วงปิดสมัยประชุม เรายืนยันว่าอยากให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯ ระบุอาจจะมีการยุบสภาก่อนเวลาปกติ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทาง กมธ.ก็รับข้อมูลไว้ เพื่อประกอบการพิจารณาของพวกเรา แต่ยังยืนยันในกรอบเวลาการทำงานแบบเดิม หากตกลงในประเด็นที่มีความเห็นต่างกันได้ ก็จะทำให้เร็วขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ถึงปลายเดือน พ.ย.น่าจะแล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ วาระการพิจารณารายมาตราถึงเรื่องสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยประธานได้นัดประชุมตั้งแต่ช่วงเช้า และมีกำหนดการถึงเวลา 16.30 น. เนื่องจากต้องเร่งการพิจารณาให้ทันกำหนดยุบสภา
ทั้งนี้ เมื่อเริ่มการประชุม กมธ.ได้ทยอยเข้าห้องประชุม พบว่าส่วนใหญ่เป็น กมธ.สัดส่วนพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และวุฒิสภา ที่มารอตั้งแต่ก่อนเวลาการประชุม ขณะที่ กมธ.สัดส่วนรัฐบาล ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคกล้าธรรม และพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนใหญ่ไม่ได้มาประชุม ทำให้นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถามประธานกลางห้องประชุมว่า บุคคลที่ไม่มาและถูกบันทึกว่าไม่มาประชุม จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าให้ใช้คำอื่น ซึ่งกิริยาที่ไม่มาประชุมก็ถือว่าใช่ แต่ใช้ถ้อยคำอื่นได้หรือไม่ที่มีความเหมาะสมมากกว่านี้ เพราะไม่ว่าตนหรือใครก็ตามที่มีภารกิจ ย่อมมีสิทธิ์ในการลา แต่คำว่าไม่มา เกรงว่าความหมายจะเป็นคนละอย่างกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
'บวรศักดิ์' แถลงตั้งอนุกรรมการ 5 คณะ ถอดบทเรียนมหาอุทกภัยหาดใหญ่
"บวรศักดิ์" แถลงตั้ง 5 อนุกรรมการ ถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย แก้ครบวงจร ตั้งแต่พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา ทำระบบให้ใช้ได้ทุกพื้นที่ รายงานผลทุก 2 สัปดาห์ เผยนำทีมกรรมการ ลงดูหน้างานจริง 6 ธ.ค. หวังคนหาดใหญ่นอนหลับ สบายใจ
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69


