โสภณท้าอภิปรายม.152 เพื่อไทยขู่ซักฟอกรายวัน

เพื่อไทยแยกเขี้ยวขู่ฟอด หลังเปิดสภายื่นซักฟอกรัฐบาลแน่ แหย่ไม่เลิก ขอวัดใจ พรรคส้ม ร่วมสังฆกรรมหรือไม่ ภูมิใจไทยท้ากลัวเสียที่ไหน เด็กเนวินแจงรัวๆ หากยื่นซักฟอกนายกฯ การยุบสภาเลี่ยงไม่ได้ ไม่เสี่ยงเสียงโหวตไว้วางใจไม่เกินกึ่งหนึ่งจะกลายเป็นตราบาป

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยพร้อมยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเองเลยหรือไม่ ว่าตอนนี้จากที่เราได้มีการแถลงมาและบุคลากรในพรรคได้มีการสื่อสารไปแล้ว ขณะนี้มีการรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อม คิดว่ารอเปิดสมัยประชุมสภาฯ มีความพร้อมแน่นอน

เมื่อถามว่า การร่างญัตติ การรวบรวมรายชื่อ และแนวโน้มจะยื่นอภิปรายรัฐมนตรีกี่คน นายศึกษิษฏ์กล่าวว่า ตอนนี้มีการรวบรวมรายชื่อภายในพรรค ไม่น่ามีปัญหาอะไร และจะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ส่วนจะยื่นใครบ้าง อย่างน้อยนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำสูงสุดต้องมีความรับผิดชอบสูงสุด ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นรอดูตามความเหมาะสม

เมื่อถามว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะให้สมวัตถุประสงค์ จะล้มเก้าอี้ได้ เสียงฝ่ายค้านเพียงพอที่จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้หรือไม่ นายศึกษิษฏ์กล่าวว่า ถ้านับดูตัวเลขแล้วเพียงพอ แต่ต้องรอดูสัญญาณหลายๆ ด้าน คิดว่าข้อมูลเชิงประจักษ์ออกมาทั้งสิ่งที่พรรคเพื่อไทยสื่อสารและสิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นได้สื่อสาร เห็นได้ค่อนข้างชัดว่ารัฐบาลนี้มีการบริหารที่ผิดพลาดจริงๆ ตรงจุดนั้นรอดูความชัดเจนและความจริงใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าจะร่วมมือกันหรือไม่ เพราะไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียวที่พูดว่ารัฐบาลนี้บริหารงานผิดพลาดอย่างไร หลายพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ออกมาสื่อสารในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอลเซ็นเตอร์ เรื่องเงินสีเทา เพราะฉะนั้น เมื่อถึงเวลาจะโหวต เราก็รอดูว่าพรรคนั้นเวลาพูดอย่างหนึ่ง เวลากระทำในสภาจะเป็นอย่างไร

ถามต่อไปว่า มีการพูดคุยกับพรรคประชาชน ในเรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วหรือยัง นายศึกษิษฏ์กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 14 พ.ย. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้คุยนอกรอบไปแล้ว แต่ผมยังไม่มีเวลาพูดคุยกับนายจุลพันธ์ แต่แนวทางน่าจะเห็นตรงกันอย่างที่บอกว่า ทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านมีการสื่อสารออกมาตรงกันหมด ว่ารัฐบาลนี้บริหารจัดการผิดพลาดอย่างไร ปล่อยให้บุคลากรบางคนในรัฐบาลมีความเกี่ยวโยงกับเงินสีเทาอย่างไรบ้าง ทุกพรรคมีข้อมูลแน่นอยู่ แต่จะประสานงานกันอย่างไรก็รอดู

เมื่อถามว่า พรรคประชาชนมีการแบ่งรับแบ่งสู้ โดยเฉพาะกับพรรคภูมิใจไทย นายศึกษิษฏ์กล่าวว่า เป็นการแสดงความจริงใจของพรรคประชาชน ก็ต้องรอดูว่าเขาจริงใจต่อการสื่อสารในสิ่งที่เขาสื่อสารหรือเปล่า เพราะบุคลากรหลายคนของพรรคประชาชนก็ออกมาสื่อสารชัดเจน ว่ารัฐบาลนี้ทำงานผิดพลาดอย่างไร บุคลากรและรัฐมนตรีหลายท่านมีความเกี่ยวโยงกับทุนสีเทาอย่างไร ต้องรอดูว่าเมื่อพูดออกมาแล้ว จะทำตามสิ่งที่พูดออกมาหรือไม่

วันเดียวกันนี้ ที่พรรคภูมิใจไทยมีการประชุม สส.พรรคร่วมรัฐบาล แม้จะอยู่ในช่วงการปิดสมัยประชุมสภาฯ และต่อมา น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ ว่าเป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ซึ่งที่พรรคเพื่อไทยจะเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทางพรรคภูมิใจไทยเองก็มีความพร้อม รวมถึงตัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย ซึ่งจากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีข้อกังวลใด และมองว่าเป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทยที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนจะยื่นหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่หากถามกลับว่าเป็นประเด็นอะไร ในมุมของนายกรัฐมนตรีมองว่าเพิ่งเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินได้เพียง 1 เดือนครึ่ง ซึ่งในการบริหารงานที่ผ่านมาไม่ได้สร้างความเสียหาย กลับกันกลับมีทิศทางดี โดยเฉพาะในมุมเศรษฐกิจ ที่ได้รับการชื่นชมจากผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ที่ไปกระตุ้นเศรษฐกิจ มียอดเงินเข้ามาหมุนเวียนพอสมควร จนมีกระแสเรียกร้องอยากให้ทำเฟส 2 ซึ่งจะออกมาเร็วๆ นี้ และสิ่งที่นายกรัฐมนตรีรับปากไว้ก็ยังทำได้อย่างเต็มที่ จึงมองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่สุดท้ายก็เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย เราไปห้ามไม่ได้ ซึ่งเราก็เตรียมความพร้อมในเรื่องข้อมูล รวมถึงตัวรัฐมนตรีที่จะตอบคำถามและชี้แจง

เมื่อถามว่า ส่วนในเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกาที่น่าจะถูกหยิบยกมาโจมตีในศึกซักฟอกนั้น น.ส.แนนกล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการส่งข้อมูลอัปเดตสถานการณ์แทบจะรายชั่วโมง ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ซึ่งในบางครั้งมีเรื่องของเอกสารออกมาก่อนที่จะมีการเจรจากัน ระหว่างผู้นำของ 2 ประเทศ คือนายกฯ อนุทินและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จึงอยากฝากถึงพรรคเพื่อไทยที่จะเห็นข่าวออกมาหนึ่งข่าวและออกมาโจมตีเลย อยากให้รอดูระยะเวลาด้วย ต้องยอมรับว่าไทยกับสหรัฐอเมริกาอยู่คนละไทม์โซน การสื่อสารพูดคุย การส่งเอกสารและการให้ข้อมูลอาจต้องรอเวลา แต่อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังมั่นใจในการทำงาน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องอธิปไตย

นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า รู้สึกไม่สบายใจ ที่มีผู้แสดงความคิดเห็นหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า หากมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจะยุบสภาว่าเป็นการหนีการตรวจสอบ มองว่าการวิพากษ์วิจารณ์แบบนั้นเป็นการสร้างประเพณีที่ไม่ดี พูดเหมือนเอาแต่ได้ เพราะเราเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในประวัติศาสตร์ คนที่พูดเช่นนี้ไม่แฟร์ ยืนยันว่าเราไม่กลัวการชี้แจง ถ้าจะให้เกิดความแฟร์ ควรยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ไม่ว่าจะเป็นเดือน ธันวาคมหรือเดือนมกราคมก็ได้ ถือเป็นการดีเบตก่อนการเลือกตั้ง จะได้ซักกันระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล และทำให้ประชาชนได้เห็น ว่าใครมีผลงานหรือไม่มีผลงาน เอามาอวดกันเลยคิดว่าแฟร์ดี

   “ในทางการเมืองถ้าเราพูดบนความที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยมีคนพูดว่าถ้าชี้แจงได้จะยกมือให้ ในข้อเท็จจริง และมารยาทแบบนี้มันมีที่ไหน เพราะความเป็นจริงการยกมือให้ ไม่ได้อยู่ที่การชี้แจงหรือไม่ชี้แจง แต่ก็ยกมือตามนั้น และหากรัฐบาลในยุคนายอนุทินแพ้โหวตในสภา ก็จะเป็นตราบาปของท่าน ของผม ของพรรคผม ซึ่งเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะคะแนนเสียงของฝั่งรัฐบาลไม่ถึง และขอยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่กลัวการชี้แจง แต่ที่จะต้องยุบสภาเพราะเป็นเสียงข้างน้อย” นายโสภณกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.