
"อนุทิน" บินด่วนไปหาดใหญ่ ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม สั่งเร่งด่วนช่วยประชาชน ทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก ยารักษาโรค และอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็น ระดมตั้งโรงครัวผลิตอาหารกล่อง ใช้รถจีเอ็มซีของทหารในการเคลื่อนย้าย รวมถึงเรือในพื้นที่จำเป็น คาดอีก 3-4 วันน้ำจะลดระดับลง
เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 ที่จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยเมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รายงานสถานการณ์น้ำท่วมกับนายกฯ ว่า ขอให้นายกฯ เร่งช่วยแก้ปัญหา ตอนไม่มีเรือขนประชาชนออกมานอกพื้นที่ จึงต้องการเรือในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่
นายสนั่น อังอุบลกุล อดีตประธานสภาหอการค้าไทย ได้รายงานนายกฯ ถึงผลกระทบของผู้ประกอบการ และเป็นกำลังใจให้นายกฯ จากนั้นนายกฯ ได้ทักทายและสอบถามประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการในสนามบิน
ก่อนนายกฯ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ที่ห้องประชุม 1 ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ โดยมีนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงนายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพื่อรายงานถึงผลกระทบและแนวทางการแก้ไข การดำเนินการของส่วนราชการของจังหวัดสงขลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.)
นายกฯ ได้ให้หน่วยงานในพื้นที่สะท้อนปัญหาและความต้องการเร่งด่วนที่จะช่วยเหลือประชาชนในขณะนี้ ทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก ยารักษาโรค และอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็น และเน้นย้ำรถจีเอ็มซีของทหารในการเคลื่อนย้าย รวมถึงเรือในพื้นที่จำเป็น โดยขอให้ทุกฝ่ายประสานการทำงานร่วมกัน และประเมินสถานการณ์น้ำว่าจะยาวนานถึงเมื่อไหร่ เพื่อวางแผนได้อย่างถูกต้อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลารายงานว่า น้ำเข้ามาในพื้นที่หาดใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ส่งผลกระทบประชาชนกว่า 80,000 คน ระดับน้ำในตัวเมืองสูงถึงเอว โดยการช่วยเหลือต้องใช้รถสูงของ ปภ.และรถของทหาร พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือที่จังหวัดสงขลาและที่เทศบาลนครหาดใหญ่ โดยประสานกับหน่วยทหารเพื่อตั้งโรงครัว และประสานขอโรงครัวทหารเข้ามาช่วย ขณะที่กองทัพพัฒนาจะสนับสนุนเรือเข้ามาช่วยในการเคลื่อนย้ายประชาชน พร้อมลำเลียงถุงยังชีพไปให้กับประชาชนบางจุด และจะใช้รถทหารในการอพยพ
ด้านนายกเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ขอให้นายกฯ เร่งจัดอาหารและน้ำดื่ม รวมถึงรถจีเอ็มซีของทหารในการเคลื่อนย้ายประชาชน และเรือในการอพยพอย่างเร่งด่วน เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ขณะที่นายศาสตราสะท้อนปัญหาว่า ประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงอยากให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งประสานงานและตั้งศูนย์อพยพเพื่อใช้เป็นที่พักพิงเป็นการชั่วคราว รวมถึงจัดสิ่งของ อาหาร เครื่องดื่มและยารักษาโรค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่เครื่องบินของนายกรัฐมนตรีลงจอดที่สนามบินหาดใหญ่ ระบบการแจ้งเตือน cell broadcast ได้ส่งข้อความแจ้งเตือนระดับสูงสุดถึงระดับน้ำท่วมสูงที่คลองอู่ตะเภา ซึ่งจะไหลลงมาที่เทศบาลนครหาดใหญ่ จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลา 18.00 น.ของวันเดียวกันนี้ และเตือนให้ประชาชนขนของและเอกสารสำคัญขึ้นที่สูง เคลื่อนย้ายทรัพย์สินมีค่า และให้เฝ้าระวังเรื่องของไฟฟ้า ขณะที่กลุ่มเปราะบางให้อพยพจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวใกล้บ้าน
ต่อมาเวลา 17.17 น. นายอนุทินพร้อม น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา และคณะ ขึ้นรถยกสูงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาบริเวณสี่แยกโรงปูน (บิ๊กซี) โดยระหว่างทางนายกฯ ได้สอบถามประชาชนถึงความเป็นอยู่และอาหารการกินเป็นระยะ พร้อมกับแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งประชาชนต้องการเป็นอย่างมาก และจังหวะหนึ่งประชาชนตะโกนว่า นึกว่านายกรัฐมนตรีจะไม่มาเยี่ยมแล้ว โดยนายกฯ กล่าวตอบว่า ไม่ทิ้งแน่นอน และช่วงหนึ่งได้หยุดรถลงไปพบกับครอบครัวที่กำลังนำผู้ป่วยติดเตียงไปรักษา และประสานสั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำทางให้ถึงโรงพยาบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างทางได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้นายกฯ และคณะที่นั่งรถของ ปภ.ซึ่งไม่มีหลังคาต้องสวมเสื้อกันฝนเพื่อพบปะประชาชน
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงผลการประชุมรับมือสถานการณ์อุทกภัยว่า ได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาถึงการแจกอาหารและน้ำดื่ม รวมถึงสิ่งของจำเป็นให้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างทั่วถึง และสั่งการให้ตั้งศูนย์อพยพเพื่อรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยประเมินว่าประมาณ 3-4 วันน้ำจะลดระดับ
นอกจากนั้นเน้นย้ำเรื่องการจัดหาอาหารและเครื่องดื่มให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เป็นอาหารปรุงสำเร็จ สามารถรับประทานได้ทันที เพื่อแจกจ่ายอย่างทั่วถึง เพราะเรามีประสบการณ์มาตั้งแต่สมัยตั้งศูนย์อพยพช่วยเหลือประชาชนที่จังหวัดบุรีรัมย์ และสั่งระดมตั้งโรงครัวผลิตอาหารกล่องแจกให้ครบทุกมื้อ และจัดทีมตระเวนเพื่อเคลื่อนย้ายประชาชนที่ติดอยู่บ้านเรือนออกไปที่ศูนย์พักพิง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ ช่วงเช้า 22 พ.ย. หลังปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อการจราจรและทรัพย์สินของประชาชนในวงกว้าง การจราจรวิกฤต และประชาชนเร่งหนีน้ำ ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อเส้นทางการสัญจร
ที่ถนนบ้านหัวสะพาน-คลองวาด (ท่าช้าง อ.บางกล่ำ) น้ำท่วมผิวถนน ทำให้รถยนต์เดินทางด้วยความยากลำบาก เส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่เริ่มถูกตัดขาด ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้เร่งนำยานพาหนะไปจอดบนพื้นที่สูงชั่วคราว เช่น ลานกว้างเทคโนเก่า บางกล่ำ และบนสะพานคู่ลพบุรีราเมศวร์ ซึ่งกลายเป็นที่จอดรถชั่วคราวเพื่อป้องกันความเสียหาย ส่วนตลาดนัดโคกเมา พ่อค้าแม่ค้าบริเวณสะพานลอดทางรถไฟโคกเมาและสะพานคู่ลพบุรีราเมศวร์เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง
ส่วนพื้นที่จังหวัดปัตตานีทั้ง 12 อำเภอ ยังคงมีสภาพอากาศปกคลุมด้วยเมฆหนาแน่น ก่อนจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมาก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีเพิ่มสูงขึ้นเป็นระยะ โดยจากการสำรวจพบว่าสีน้ำในแม่น้ำเริ่มขุ่น มีกระแสน้ำแรง เชื่อว่าน่าจะเป็นน้ำป่าที่ไหลลงมาจากพื้นที่ภูเขาก่อนจะไหลลงสู่ทะเล
ขณะเดียวกัน ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ส่งผลกระทบต่อการจราจรอย่างมาก ประชาชนที่ใช้ถนนหลายสายต้องสัญจรด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีน้ำท่วมขังหลายจุด ทางจังหวัดปัตตานีได้จัดกำลังและเครื่องสูบน้ำติดตั้งตามจุดเสี่ยง พร้อมเร่งระบายน้ำอย่างเต็มกำลัง เพื่อป้องกันระดับน้ำท่วมขังไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นจนส่งผลกระทบวงกว้าง
ทั้งนี้ ข้อมูล วันที่ 21 พ.ย. ได้รับผลกระทบหนัก 3 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่ลาน, อ.สายบุรี และ อ.โคกโพธิ์ รวม 13 ตำบล 47 หมู่บ้าน 1 ชุมชน 1,191 ครัวเรือน ราษฎร 3,860 คน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ที่ ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง และ ต.เขาตูม อ.ยะรัง สาเหตุจากจมน้ำเสียชีวิต ด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ สิ่งของสาธารณประโยชน์ และด้านอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
จากรายงานของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ระหว่างวันที่ 17-21 พ.ย. มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 19 อำเภอ 121 ตำบล 885 หมู่บ้าน และ 111 ชุมชน มีประชาชนได้รับผลกระทบรวม 136,670 ครัวเรือน 397,207 คน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย โดยทุกอำเภอได้รับคำสั่งให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อรองรับมาตรการเยียวยาของรัฐบาล ครัวเรือนละ 9,000 บาท หากน้ำท่วมต่อเนื่องเกิน 1 เดือน จะได้รับเพิ่มอีก 5,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งสร้างความหวังให้ผู้ประสบภัยเป็นอย่างมาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปภ. รายงานยังมีน้ำท่วมภาคใต้ 7 จังหวัด เร่งระบายน้ำพื้นที่น้ำท่วมขังและเยียวยาผู้ประสบภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสรุปสถานการณ์ยังมีอุทกภัยภาคใต้ 7 จังหวัด ปภ. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งฟื้นฟูทำความสะอาด กำจัดขยะ ในพื้นที่น้ำลดและเร่งระบายน้ำและเยียวยาผู้ประสบภัย
โอนเงินเยียวยาน้ำท่วม สำเร็จแล้ว 4.9 พันล้าน 5 แสนครัวเรือน
'ภราดร' เผยยอดโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ช่วง 1-4 ธ.ค. โอนสำเร็จแล้ว 548,126 ครัวเรือน วงเงินรวม 4.9 พันล้านบาท
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
‘อนุทิน’ เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง ข้าราชการการเมือง 1 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๔๔๕/๒๕๖๘ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง


