
ข่าวดี! ทหารไทยควบคุมเนิน 350 ได้แล้ว อยู่ระหว่างการสถาปนาความมั่นคง นำร่าง 2 วีรบุรุษกลับมาตุภูมิ ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ ตรวจพบการปะทะเป็นระยะ ฝ่ายตรงข้ามใช้งานโดรนหนาแน่น เป้าหมายทางทหารกัมพูชาถูกทำลายในหลายพื้นที่ ส่วน BM-21 แผ่ว กองทัพไทยส่งสัญญาณถึงชนชั้นนำเขมร ไม่หยุดโจมตีจนกว่าจะรับ 3 เงื่อนไข
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ธันวาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (19 ธ.ค.) ในหลายพื้นที่สำคัญ โดยพบว่าบางจุดยังคงมีความตึงเครียดและเกิดการปะทะเป็นระยะ ขณะในบางพื้นที่ไม่พบความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ
ส่วนพื้นที่ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี บริเวณช่องบก ไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ส่วนพื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายไทยได้สถาปนาความมั่นคงในพื้นที่เป้าหมายและตรึงกำลังตลอดแนววางกำลัง
พื้นที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่ซำแต-โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า ตรวจพบการขนน้ำมันและน้ำเข้าไปเติมในพื้นที่ภูผี ขณะเดียวกันฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงใส่ฐานฝ่ายไทยหลายจุด ส่งผลให้บังเกอร์ได้รับความเสียหายและมีกำลังพลบาดเจ็บ รวมถึงมีการใช้รถถังและยานเกราะยิงในช่วงค่ำ ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ ทำให้ฝ่ายกัมพูชาต้องย้ายที่ตั้งยิงเพื่อปรับแนวการยิง
ที่บริเวณผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย ตรวจพบการลำเลียงกำลังพล อาวุธและสัมภาระหลายครั้งตลอดทั้งวัน พบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโดรนจำนวนมาก รวมถึงการปรากฏของรถถัง ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธปืนใหญ่ยิงใส่ฐานฝ่ายไทยหลายจุด ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่และอาวุธสนับสนุนอื่นๆ ทำลายเป้าหมายรถและที่ตั้งยิงของฝ่ายตรงข้ามเป็นระยะๆ
พื้นที่ภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน พบการใช้งาน UAV และโดรน FPV หลายลำ มีการยิงอาวุธหนักตกในพื้นที่หลายครั้ง ฝ่ายไทยได้ตอบโต้จนสร้างความเสียหายต่อเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา
พื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ พื้นที่ช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี และช่องกร่าง ไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ พื้นที่คนา ฝ่ายไทยได้สถาปนาที่หมายและตรึงกำลังตลอดแนว ส่วนพื้นที่ตาควาย ฝ่ายตรงข้ามยิงอาวุธใส่ฝ่ายไทยและพยายามเสริมกำลัง ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ด้วยอาวุธปืนใหญ่และปืนครกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่ตาเมือนธม มีกำลังพลฝ่ายไทยบาดเจ็บ 1 นายจากกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ และได้นำส่งสายแพทย์แล้ว
พื้นที่ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ บริเวณช่องสายตะกู ไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ
โดยภาพรวมสถานการณ์รายงานระบุว่า วันนี้ (19 ธ.ค.) เป็นหนึ่งในวันที่ฝ่ายกัมพูชาใช้งานโดรนและโดรน FPV หนาแน่นที่สุด ตรวจพบหลายสิบลำในช่วงบ่ายถึงค่ำ มีความพยายามเสริมกำลังและลำเลียงสัมภาระด้วยยานพาหนะหลากหลายประเภท การยิงอาวุธหนักเกิดขึ้นต่อเนื่องจากทั้งสองฝ่าย
โดยฝ่ายไทยสามารถยิงทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะของฝ่ายตรงข้ามได้หลายครั้ง แม้มีกำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ แต่สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะควบคุมได้ และมีการส่งต่อรักษาทางการแพทย์ ทั้งนี้ประเมินแนวโน้มว่า ฝ่ายตรงข้ามกำลังปรับปรุงที่มั่นและเตรียมการตั้งรับในพื้นที่สำคัญบางจุด
ยกย่อง 2 วีรบุรุษ
ขณะที่พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยพลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ร่วมบัญชาการในภารกิจเข้าควบคุมพื้นที่เนิน 350 อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า ทุกขั้นตอนต้องดำเนินไปอย่างรอบคอบ รัดกุม และจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ด้วยการลอบวางทุ่นระเบิดจำนวนมากทั่วพื้นที่การรบ ทำให้การเคลื่อนกำลังและการตรวจยึดพื้นที่ต้องใช้มาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด
แม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวยกย่องการเสียสละของทั้งสองนาย คือ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และพลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัด ร้อย.อวบ.ร.23 พัน.3 ที่สละชีวิตในปฏิบัติการครั้งนี้
ทั้งนี้ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และพลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา ปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดยิงคุ้มครองในภารกิจเข้าตีต่อที่หมาย “เนิน 350” ในเหตุปะทะที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 10.10 น. ปัจจุบันอยู่ระหว่างการลำเลียงร่างทหารทั้งสองนายลงสู่พื้นที่ราบ ภายใต้มาตรการความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่ใช้กำลังทางทหารและอาวุธโจมตีเข้ามาในพื้นที่ชุมชน และบ้านเรือนประชาชนใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้มีประชาชนได้รับผลกระทบรวมประมาณ 400,000 ราย จากสถานการณ์ดังกล่าวพบว่ามีประชาชนเสียชีวิตรวม 23 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากกรณีอาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ตกในพื้นที่บ้านเรือนของประชาชนโดยตรงจำนวน 1 ราย และผู้เสียชีวิตจากผลกระทบทางอ้อมของเหตุการณ์จำนวน 22 ราย นอกจากนี้ ยังมีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีดังกล่าวอีก 6 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดล้วนเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบแต่อย่างใด
นอกจากนี้ พบว่ามีโรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 20 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้รับผลกระทบ 201 แห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลพนมดงรักที่ได้รับผลกระทบจากอาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 โดยตรง ขณะเดียวกันความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น ยังส่งผลให้สถานศึกษาหลายแห่งในพื้นที่ชายแดนต้องหยุดการเรียนการสอน เด็กและเยาวชนไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ตามปกติ ขาดโอกาสทางการศึกษา และต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัว ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและต่อเนื่องต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นคงในการดำรงชีพของประชาชนในระยะยาว
ฝั่งตราดยึดเบ็ดเสร็จ
ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ปฏิบัติการทางอากาศยังโจมตีสะพานโอจิก จ.อุดรมีชัย ที่เชื่อมกําลังรบส่วนหลังไปยังส่วนหน้าของกัมพูชา บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย เนิน 350 อําเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ การโจมตีสะพานนี้จะทําให้การขนส่งกําลังพลอาวุธยุทโธปกรณ์ยากลําบาก เป็นการลิดรอนขีดความสามารถกําลังรบของกัมพูชา และเป็นโอกาสให้กําลังรบของไทยสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อคืน (19 ธ.ค.) ที่ผ่านมา เราใช้ระเบิดที่มีความแม่นยําสูง และควบคุมให้มีการดําเนินการ เช่น รถขนอาวุธ BM-21 หรือรถยิง BM-21 แต่ประชาชนคนกัมพูชาก็ยังสามารถเดินข้ามสะพานหรือขี่มอเตอร์ไซค์
"การโจมตีครั้งนี้ถือว่าประสบความสําเร็จ หากตรวจพบว่ากัมพูชายังมีความพยายามใช้สะพานแห่งนี้ส่งกําลังบำรุง ก็จะโจมตีซ้ํา เพราะได้เตือนแล้วให้หยุดส่งกําลังบํารุงไปยังส่วนหน้า การดําเนินการครั้งนี้เป็นการกดดันและส่งสัญญาณไปถึงกลุ่มชนชั้นนําของกัมพูชา ว่ากองทัพไทยจะไม่หยุด เราจะปฏิบัติการทหารต่อเนื่องจนกว่ากัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไข 3 ประการ ที่รัฐบาลไทยได้เสนอไปเพื่อนําไปสู่การหยุดยิงและเจรจาเพื่อสันติภาพต่อไปในอนาคต" โฆษกกองทัพอากาศกล่าว
ด้านพลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้ดำเนินการเข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่บริเวณบ้านท่าเส้น ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด รวมถึงพื้นที่อาคารกาสิโนทมอดาได้สำเร็จ หลังตรวจพบว่ากำลังทหารกัมพูชาได้ลักลอบเข้ามาตั้งฐานที่มั่นในพื้นที่ดังกล่าว
การเข้าควบคุมพื้นที่ครั้งนี้ ทหารนาวิกโยธินได้บูรณาการกำลังร่วมกับกองทัพอากาศอย่างใกล้ชิด ภายใต้แผนการปฏิบัติที่รัดกุม รอบคอบ และคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนเป็นสำคัญ ส่งผลให้สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์และยึดพื้นที่เป้าหมายได้โดยสมบูรณ์ โดยไม่มีพลเรือนได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยไม่มีการสูญเสียกำลังพลหรือได้รับบาดเจ็บ และสามารถตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตรงข้ามได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมเป็นหลักฐานตามขั้นตอนทางทหารและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ลอบยิง ผบ.หน่วย
พลเรือตรีปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ช่วงก่อนโจมตีบ้าน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายเหตุการณ์ โดยในวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ฝ่ายทหารเรือจำเป็นต้องสู้รบกับฝ่ายกัมพูชา หลังเกิดเหตุการณ์ที่กัมพูชาใช้พลซุ่มยิง ลอบยิง ผบ.หน่วยระดับผู้นำ แต่โชคดีที่กระสุนโดนรถยนต์ และบานประตู โดยหลังจากการสู้รบจบสิ้น กองทัพเรือจะเปิดเผยหลักฐานทั้งหมด ทั้งรถและหัวกระสุน
เรือโทหญิง นภัสกร ทิพย์โส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า การปฏิบัติการหมวดเรือพิทักษ์อ่าวไทย กองทัพเรือได้ตรวจพบเรือฝ่ายกัมพูชาที่มีลักษณะเดินเรือทิศทางเข้าหาในรูปแบบของการติดตามประชิดหมู่เรือ กองทัพเรือได้ใช้อาวุธต่อเป้าหมายนั้น และได้มีการเปลี่ยนทิศทางเดินเรือกลับเข้าสู่ประเทศกัมพูชา ซึ่งขณะนี้สถานการณ์อยู่ในการควบคุม ยืนยันว่าประชาชนมีความปลอดภัยและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ทหารกัมพูชาใช้สไนเปอร์ยิงผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือไทย ผู้บัญชาการทหารเรือนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งมีความคลาดเคลื่อน แต่เป็นผู้นําหน่วยในพื้นที่บ้าน 3 หลังจังหวัดตราด และพลาดเป้า
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ที่ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 22 ธ.ค. ว่านายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ จะนําคณะผู้แทนไทยที่ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานความมั่นคง เดินทางไปประเทศมาเลเซียเพื่อเข้าร่วมการประชุม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอาจจะได้รับรู้การแสดงท่าทีและความคิดเห็นของประเทศต่างๆ มากขึ้น เช่น รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้แทนพิเศษฝ่ายจีน ซึ่งเดินทางไปประเทศกัมพูชา โดยเรายืนยันว่าการประชุมในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ จะไม่มีอะไรที่จะมากดดันฝ่ายไทยทําให้ต้องเสียเปรียบ ท่าทีที่เราแสดงมาโดยตลอด ไทยปรารถนาสันติภาพ ไม่ได้เป็นฝ่ายคุกคามหรือรุกเข้าพื้นที่อธิปไตยของอีกประเทศ เรามีความชัดเจนมาโดยตลอด และเป็นสิ่งที่ฝ่ายไทยยืนยันมาโดยตลอด และต้องการสันติภาพที่ยั่งยืนและแท้จริง กัมพูชาเป็นฝ่ายที่ต้องแสดงความจริงใจในเรื่องนี้
นำร่าง 'จ่าสำเริง' กลับบ้าน
1.กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดยิงก่อน ในฐานะที่เป็นประเทศโจมตีอีกประเทศ 2.การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่อง 3.กัมพูชาจะต้องแสดงความจริงใจในการร่วมมือกับฝ่ายไทยเก็บกู้ทุนระเบิด เป็นสิ่งที่ฝ่ายไทยรับไม่ได้และต้องแก้ไขปัญหาร่วมกัน และทั้งหมดนี้จะต้องขึ้นอยู่กับการประเมินของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ที่จะทํางานร่วมกับกระทรวงต่างประเทศเพื่อเดินหน้าต่อไป
นางมาระตี นะลิตา ย้ำว่าเวทีอาเซียนเป็นเวทีที่สําคัญ และเป็นเวทีที่จะเป็นคุณต่อไทย และเป็นโอกาสให้เราสามารถแสดงท่าทีชี้แจงข้อมูลหลักฐานทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ที่ทางการไทยได้รวบรวมตั้งแต่เกิดเหตุรอบที่ 2 ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า ท่าทีของไทยยืนอยู่บนหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่เตรียมจัดงานพระราชทานเพลิงศพ จ่าสิบเอก สำเริง หรือจ่าเริง คลังประโคน อายุ 38 ปี ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่เนิน 350 ติดกับปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังนายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางไปยืนยันกับครอบครัวจ่าเริงว่า ร่างของจ่าเริงได้ถูกนำลงมาจากเนิน 350 เรียบร้อยแล้ว และเตรียมจะนำร่างมาส่งที่วัดในวันที่ 21 ธ.ค.คือวันพรุ่งนี้
นางอุ่น คลังประโคน อายุ 79 ปี แม่ของ จ.ส.อ.สำเริง บอกว่าตอนนี้ถือว่าโล่งอกและภูมิใจ ที่ทหารไทยปฏิบัติภารกิจสำเร็จลงได้ดี ขอให้ทหารไทยรบชนะแบบเบ็ดเสร็จ และขอให้หลังจากนี้ประเทศไทยสงบสุขตลอดไป
ขณะที่นางสาวธัญญรัตน์ คลังประโคน ภรรยาจ่าเริง ร่ำไห้ต่อหน้าภาพของจ่าเริงว่า "นายทำสำเร็จแล้วนะ สุดยอดมาก แต่ทำไมต้องชนะแบบนี้ ควรจะเอาชัยชนะมาพร้อมกับชีวิต"
นางสาวธัญญรัตน์เล่าด้วยว่า ตนภูมิใจมากที่ทหารยึดเนิน 350 ได้ เหมือนกับที่สามีเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าไม่ได้ปักธงชาติที่เนิน 350 เขาจะไม่กลับบ้าน แล้ววันนี้เขาทำสำเร็จแล้ว ภูมิใจในความเสียสละของสามีในครั้งนี้มาก ถือว่าเขาสละชีวิตให้คนทั้งประเทศก็ว่าได้ ดีใจและจะได้เห็นหน้าสามีเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้ก็จะใช้ชีวิตตามปกติ คือการเลี้ยงลูกสองคนให้ดีตามเจตนารมณ์ของพ่อเขา
ด้านนายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุถึงการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพของจ่าเริงว่า ตอนนี้ขั้นตอนต่างๆ ได้เตรียมไว้หมดแล้ว ถ้าร่างมาถึงก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนไม่ได้ติดปัญหาอะไร อย่างไรก็ตามครอบครัวจ่าเริงต่างร้อนใจอยากเห็นหน้าจ่าเริง ซึ่งได้พาครอบครัวขึ้นรถตำรวจไปที่โรงพยาบาลสุรินทร์แล้ว.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พท.ผวา ‘มันนีโพลิติกส์’
พรรคประชาชนเดินหน้าฝันแลนด์สไลด์ได้ สส. 250 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลประชาชน ดูจากตัวเลขผู้บริจาคให้พรรคมากกว่าแสนคน ขณะที่เพื่อไทยต้อนรับทีมสุวัจน์
แฉ‘สแกมเมอร์’ เล็งหลอกคนแก่ ดูดเงินในมือถือ
ตร.เตือนภัย สแกมเมอร์พุ่งเป้าข้าราชการบำนาญ ลวงอัปเดตข้อมูล รับสิทธิ์ ติดตั้งแอปควบคุมโทรศัพท์ดูดเงิน
เตือน!ใช้สิทธิประชามติ 8ก.พ.เท่านั้นไม่ล่วงหน้า
"กกต." แจงลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขต “เลือกตั้ง สส.” ล่วงหน้า 1 ก.พ. แต่ “ประชามติ รธน.”
คืนอธิปไตยสู่มาตุภูมิ! 'แม่ทัพกุ้ง' ผู้แทน ผบ.ทบ. ตรวจแนวรบปราสาทตาควาย-เนิน 350
พลโท บุญสิน พาดกลาง ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ตรวจแนวหน้าการสู้รบ ณ ปราสาทตาควาย และบริเวณ เนิน 350 ในพื้นที่อำเภอ พนมดงรัก จังหวัด สุรินทร์ เพื่อตรวจสภาพพื้นที่จริง หลังถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม พร้อมติดตามผลการปฏิบัติการที่กองกำลังไทยสามารถผลักดันผู้รุกรานและยึดคืนพื้นที่อธิปไตยได้อย่างสมบูรณ์
เปิดภาพ แม่ทัพภาค 2-ผบ.กกล.สุรนารี สั่งการร่วมภารกิจยึด 'เนิน 350'
กองทัพภาคที่ 2 ประกาศความสำเร็จในการ เข้าควบคุมและสถาปนา “เนิน 350” พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญบริเวณ ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังการปะทะอย่างรุนแรงกับกองกำลังฝ่ายกัมพูชา
ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน
แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้

