'องอาจ' ชี้คร่ำหวอดการเมืองกรุงเทพฯ 30 กว่าปี คนกรุงตัดสินใจต่างสนามระดับชาติ

22 พ.ค.2565 –  ที่อาคาร ESV TOWER พหลโยธิน 9 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลกทม. พร้อมนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.พรรคประชาธิปัตย์  แถลงว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับชัยชนะ และขอขอบคุณกับทุกคะแแนนเสียงที่มอบให้นายสุชัชวีร์ ซึ่งผลการเลือกตั้งที่ออกมาก็เป็นเรื่องปกติที่มีแพ้ชนะและไม่ว่าเราจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ เราก็จะนำทุกคะแนนไปพิจารณาว่าเราได้รับเลือกตั้งเพราะอะไร หรือไม่ได้รับเลือกตั้งเพราะอะไร ซึ่งทำไปทำการศึกษาวิจัยเป็นหลักวิชาการ เพราะเราไม่สามารถเอาความรู้สึกนึกคิดของเราไปตัดสินได้ว่าประชาชนลงคะแนนเพราะอะไร และจะต้องมีการวิเคราะห์ถึงสิ่งที่ประชาชนต้องการเพื่อนำมาปรับปรุงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเพื่อให้ตรงกับสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุด

 เมื่อถามว่า ทางพรรคมีการวางอนาคตทางการเมืองของนายสุชชัชวีร์อย่างไร นายองอาจ กล่าวว่า คงไม่ได้วางใครอย่างไร ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายสุชัชวีร์ เป็นส่วนสำคัญ พรรคพร้อมที่จะเปิดรอคนดี คนมีความรู้ ความสามารถมาทำงาน ทั้งนี้การแข่งขันทางการเมืองแต่ละพรรคการเมืองก็ต้องพยายามสรรหาบุคลากร ที่เหมาะสมที่สุด ดีที่สุดมาช่วยกันทำงาน และจะพยายามหานโยบายที่เป็นที่พึงพอใจของประชาชน ซึ่งกรณีของนายสุชัชวีร์ พรรคก็ต้องประชุมกัน เพราะงานการเมืองมีหลายเรื่องที่สามารถทำได้ อยู่ที่ว่าสนใจจะทำงานอะไร

 เมื่อถามว่ากังวลว่ากระแสความนิยมในกทม.จะกระทบกับการเลือกตั้งในภาพใหญ่ หรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นปัจจัยทั้งหมด เราอยู่กับการเมืองกรุงเทพฯ มา 30 กว่าปี จะเห็นว่าการเลือกตั้งท้องถิ่น กับการเลือกตั้งระดับชาติ กทม.ก็มีนัยยะที่มีความสัมพันธ์กัน แต่ในความเป็นจริงอาจจะมีความสัมพันธ์บ้างบางส่วน ซึ่งพิสูจน์แล้วหลายครั้ง เวลาเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ชาวกทม.จะเลือกคนที่มีความเหมาะสมที่สุดในขณะนั้นมาทำหน้าที่เป็นผู้ว่าฯกทม. แต่เวลาเลือกตั้งระดับชาติ ชาวกทม.จะตัดสินใจอีกลักษณะหนึ่ง เช่น กรณีที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เป็นครั้งแรก แต่หลังจากนั้น 6 เดือน การเลือกตั้งส.ส.ในกทม. พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ชนะ

เมื่อถามว่า กังวลว่าจะมีแรงส่งต่อการเมืองภาพใหญ่หรือไม่ กล่าวว่า อยู่ที่พี่น้องประชาชนจะตัดสินใจ เราไม่สามารถคาดการณ์หรือตัดสินใจแทนประชาชน ได้ ในการเลือกตั้งแต่ละครั้งประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร และการเลือกตั้งแต่ละครั้งมีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวประกอบ มีหลายตัวแปรที่อาจจะทำให้คนภายนอกคาดคิดเอาไว้ได้ แต่กลับไม่เหมือนสิ่งที่ประชาชนคิด จริง ๆ แล้วการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนชาวกทม.เป็นเสรีภาพที่จะตัดสินใจในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (31)

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

'อภิสิทธิ์' เปิดตัว 33 ผู้สมัคร สส.กทม. เชื่อปีเลือกตั้งลงท้าย 9 'ปชป.' มักชนะ

'อภิสิทธิ์' เปิดตัว 33 ผู้สมัคร สส.กทม. การันตีเฟ้นเข้มข้น ขอโอกาสคนกรุงไว้วางใจ ใช้การเมืองสุจริตเปลี่ยนแปลงประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิต เชื่อเลือกตั้งปีที่ลงท้ายเลข 9 'ปชป.' มักชนะ

รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม

พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า

สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง

เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี

ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ บทบาทใหม่ บนถนนการเมือง หวั่นใช้ทุนเทาซื้อเสียงเลือกตั้ง!

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง ประเทศไทย"กรุงเทพมหานคร"เป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่คนทั้งประเทศจับตามองกันว่าผลการเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 "พรรคประชาชน"