นับหนึ่งซักฟอกนายกฯ เพื่อไทยตามคาดถนัดด่า 8 ปีไม่มีอะไรดีสักอย่าง

20 ก.ค.2565 - เวลา 20.45น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนแรกในการอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ผิดพลาด บกพร่องตอนหนึ่งว่า การบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์ สร้างความเดือดร้อน ทำลายชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ประชาชนยากจนลง คนไทยมีแต่หนี้สิน เจอกับภาวะเงินเฟ้อ ราคาสินค้าแพง ทำลายโอกาสประชาชน และประเทศในการเดินไปข้างหน้า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคอมพิวเตอร์ตกรุ่น ไม่ต่างอะไรจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ หากไปเทียบกับคอมพิวเตอร์ของชัชชาติหรือของเพื่อไทย ที่มีวิสัยทัศน์ในการมองและแก้ไขปัญหา ถึงเวลาควรเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ใหม่ได้แล้ว นอกจากไร้ความสามารถ ยังไร้วิสัยทัศน์ ภาคธุรกิจไปแข่งขันกับเขาไม่ได้ จากที่เคยเป็นเสือตัวที่5 แต่พออยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ เรากลายเป็นเห็บ รัฐบาลขาดความเข้าใจการลงทุน ไม่มีความสามารถในการแข่งขัน สร้างรัฐราชการรวมศูนย์ แต่กลับเกิดคอรัปชั่นเพียบ แม้จะจัดการวิกฤติโควิดได้ดี ความสามารถในการฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาแข่งขันกลับล้มเหลว การเปิดประเทศเป็นแบบลักปิด ลักเปิด กล้าๆกลัวๆ ทำให้ประเทศเสียหาย การกู้เงินมาแค่เพื่อการบริโภค ไม่เกิดการจ้างงาน ทำให้เศรษฐกิจโตขึ้น

นายจุลพันธ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าแก้ปัญหาความยากจนไป 92 เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ทั้งที่คนไทยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ยังอยู่ในภาวะ หลังพิงฝา กู้หนี้ยืมสินมาเพื่อกิน เพื่ออยู่ เรื่องวิกฤติค่าครองชีพ ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการบริหารผิดพลาดของรัฐบาล เศรษฐกิจไทยย่ำแย่มา8ปี ตอนนี้เงินเฟ้อ รัฐบาลบริหารแบบลอยตัว ออกแต่มาตรการหาเงินเข้ารัฐ ขูดรีดประชาชน ซ้ำเติมไปอีก ราคาสินค้าพาเหรดขึ้นราคา ของแพงที่เกี่ยวกับการเกิดยันการตาย แก๊สหุงต้ม มาม่า ข้าวสาร น้ำมัน แม้กระทั่งโลงศพ ยังขึ้นราคา ประชาชน คนยากจนได้รับผลกระทบ ขณะที่รัฐบาลเตรียมจะขึ้นค่าไฟฟ้าอีก ขอให้หยุดความคิดโง่ๆ ซ้ำเติมประชาชน ระวังความคับแค้นประชาชน จะแสดงออกในการเลือกตั้งครั้งหน้า นอกจากแก้ปัญหาไม่ได้ ยังใช้คนไม่เป็นด้วย พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งอยู่ คนไทยยิ่งสาหัส ยิ่งถ้ามีการปรับดอกเบี้ย อาจตรึงไม่ให้เงินไหลออก แต่คนที่รับภาระคือ คนกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ ขณะที่เศรษฐกิจของโลก ยังไม่แข็งแรง โลกมีความเสี่ยง ที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

หากพล.อ.ประยุทธ์ยังนำอยู่ ประเทศเรา ไม่มีโอกาสรอด นอกจากนี้ ประสบภาวะผู้นำ ท่านยังเอื้อแต่ทุนใหญ่ เจ้าสัว นายทุน พรรคเพื่อไทย มีสโลแกน หัวใจคือประชาชน แต่พล.อ.ประยุทธ์ หัวใจคือ นายทุน ปล่อยให้การควบรวมธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเรื่อง ทรู-ดีแทค ที่จะเกิดอำนาจผูกขาดเหนือตลาด ส่งผลเสียต่อผู้บริโภค คาดว่าค่าบริการอาจจะแพงขึ้น 20-30เปอร์เซ็นต์ เป็นความล้มเหลวของรัฐบาล เกิดจากวิกฤติผู้นำ ไร้ความรู้ ความสามารถ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง ทุนใหญ่ ทำให้ประเทศไทยเกิดวิกฤติ พล.อ.ประยุทธ์พูดถึง 3 แกน ที่พูดมา นั้นปลอม กลวง ไม่มีความรู้ แกนหนึ่ง บอกถึง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อยู่มา8ปี เพิ่งตื่นหรือความจำเสื่อม ก่อนหน้าบอกเอาเงินที่ไหน วันนี้จะมาทำ คงเป็นการรักษาอำนาจ ไม่ใช่ทำให้ประชาชน แกนที่2 พูดถึง อุตสาหกรรมยานยนต์EV มาพูดในวันที่สายไป การลงทุนไหลไปเวียดนาม อินโดนีเซียหมดแล้ว แกนที่3 จะพลิกโฉมภาคธนาคาร เอาเทคโนโลยี ให้ลูกค้ารายเล็กเข้าถึงเงินกู้มากขึ้น ต้องบอกว่า เลอะเทอะ เอ็นดูที่ท่านไม่รู้เรื่อง การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี ไม่ได้ทำให้คนเข้าถึงเงินกู้ รัฐไม่มีอำนาจแทรกแซงสั่งการให้ธนาคารปล่อยกู้ให้คนไทยได้ เวลาจะพูดอะไรให้ดูหล่อ เท่ห์ ต้องอ่าน ศึกษาดีๆ อย่าปล่อยไก่อีก

นายจุลพันธ์กล่าวว่า เรากำลังนับถอยหลัง แทบไม่ต่างจาก ศรีลังกาเท่าไหร่ เงินเฟ้อสูงขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนอดอยากยากแค้น ที่เหมือนที่สุดคือ ผู้นำทั้ง2ประเทศ ต่างอยู่ในตำแหน่งยาวนาน เสพติดอำนาจอยากอยู่ต่อ เป็นคนขี้โมโห และหนี้สาธารณะสูง ประชาชนไม่มีเงิน ไม่มีรายได้ ในสภาฯ แม้ฝ่ายค้าน มีเสียงไม่เพียงพอถอดถอน แต่ความเคียดแค้นประชาชนกำลังสะสม ใกล้จะถึงจุดระเบิดแล้ว ในโลกออนไลน์ บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปดีๆหรือไปแบบศรีลังกา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความรู้ ความสามารถ ไร้วิสัยทัศน์ ทำลายโอกาสคนไทย และการแข่งขัน จัดการบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว เกิดหนี้สิน บริหารจัดการ เอื้อประโยชน์แต่พวกพ้อง คนใกล้ชิด เกิดความเหลื่อมล้ำ8ปี สูญเปล่า สูญหาย คนไทยฆ่าตัวตายรายวัน คนไทยอยากย้ายประเทศหนี ประชาชนหมดคำพูด เคียดแค้นชิงชัง เป็นมหาวิกฤติของคนไทย เราเคยมีศักยภาพ โอกาสที่มี แต่กลับพรากความหวัง โอกาสไปจากประชาชน

"ท่านเหมือนปิศาจ ดูดกิน ชีวิตประชาชน เป็นรถยนต์ผุพัง ทำให้ประเทศไทยเสียหายพังทลาย แต่กลับมีหน้ามาขอให้คนไทยช่วยกันเข็น ขอให้คนไทยช่วยรับผิดชอบได้อย่างไร ทั้งที่กินเงินเดือนประชาชน และเป็นคนที่ไม่ได้เลือกเข้ามา ปล้นเข้ามา ท่านควรหยุดและพอได้แล้ว ประชาชนที่พอจะมีความหวัง ไม่ได้เพราะตัวท่าน แต่เขารู้ว่า เหลือเวลาอีกไม่นาน ประชาชนจะได้เลือกตั้งใหม่ จะได้มีความหวังอีกครั้ง ความหวังครั้งใหม่เกิดขึ้นแล้วกับพรรคเพื่อไทย ขอให้ร่วมลงมติไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์"