'ชวน' คืนบัลลังก์คุมซักฟอกหลังหายป่วยโควิด ฝ่ายค้านจี้ครม.เข้าประชุมสภาฯ

21 ก.ค.2565 - เมื่อเวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม

ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้กลับมาทำหน้าที่ประธานการประชุมเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ต้องเข้ารักษาตัวเนื่องจากป่วยติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 12 ก.ค.

โดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นคิวแรกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยเจ้าตัวระบุถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทยช่วงการบริหารของรัฐบาล ทั้งการปล่อยเครื่องบินของเมียนมารุกล้ำน่านฟ้าไทย สถานการณ์หนี้ต่างๆของประเทศ การกู้เงิน ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าน้ำมันที่สูงมากกว่าเดิม ทำให้รายจ่ายประชาชนเพิ่มแต่รายได้เท่าเดิม ทั้งนี้ ตอนท้ายของการอภิปรายนายมงคลกิตติ นิมนต์พระพุทธรูปปางบิณฑบาต แสดงต่อที่ประชุม พร้อมกับระบุว่า “ขอบิณฑทบาต พล.อ.ประยุทธ์ ให้ปลดปล่อยประเทศไทย ประชาชนไทย ด้วยการลาออกจากนายกฯ อยู่มาแล้ว 8ปี 2 เดือน ถ้าอยู่ต่อไปไม่มีประโยชน์ ผมจึงขอบิณฑบาต”

จากนั้น นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย หารือว่าวันนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ปรากฏว่าไม่มีรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียวมานั่งฟังบนบัลลังก์เลย เช่นเดียวกับนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ก่อนอภิปรายก็ได้เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีมานั่ง โดยกล่าวว่า ตนจะอภิปรายนายกฯ ก็ควรจะได้ทราบว่านายกฯฟังอยู่หรือไม่ เพราะเรื่องของตนเป็นเรื่องสำคัญ ถามว่าเราจะอภิปรายแบบที่ไม่มีรัฐมนตรีมาฟัง ซึ่งผิดข้อตกลงของวิปจริงๆหรือ

นายชวน ตอบกลับว่า ตนก็ไม่ทราบว่าขณะนี้นายกฯอยู่ทีใด แต่ตามหลักผู้ถูกอภิปรายไม่จำเป็นต้องอยู่ตลอด แต่ก็เป็นสิทธิ์ของนายขจิตรเช่นกันที่จะขอเลื่อนการอภิปรายออกไปหรือไม่

อย่างไรก็ตาม นายขจิตร ได้เข้าสู่เนื้อหาอภิปรายเกี่ยวกับค่าโง่คลองด่าน โดยกล่าวว่า รัฐบาลสมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ 4.8 พันล้านบาท เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในขณะนั้นให้จ่ายเงินแก่เอกชน ผิดประมวลกฎหมายมาตรา 157 สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อแผ่นดิน นายกฯละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย นอกจากนั้น เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ มาดำรงตำแหน่งนายกฯในรัฐบาลปัจจุบัน ยังละเว้นไม่ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงหาผู้รับผิดทางแพ่ง ที่ได้จ่ายเงิน 4 พันกว่าล้านบาท เพราะคนที่ต้องรับผิดชดใช้เงินรัฐ คือ ครม.รัฐบาลประยุทธ์สมัยคสช.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (31)

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม

พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า

สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง

เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี

ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ บทบาทใหม่ บนถนนการเมือง หวั่นใช้ทุนเทาซื้อเสียงเลือกตั้ง!

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง ประเทศไทย"กรุงเทพมหานคร"เป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่คนทั้งประเทศจับตามองกันว่าผลการเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 "พรรคประชาชน"