26 ก.ย.2565 - ที่ จ.นครราชสีมา มีการการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคชาติพัฒนา โดยมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.และ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมมีวาระพิจารณาที่สำคัญและมีมติร่วมกัน คือ การเปลี่ยนชื่อจากพรรคชาติพัฒนา เป็น “พรรคชาติพัฒนากล้า” พร้อมลงมติให้นายกรณ์ จาติกวนิช สมาชิกพรรคคนใหม่ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม นายกรณ์ พร้อมด้วย นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนา, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ที่เคยจะลงรับเลือกตั้งในนามพรรคกล้า เกือบ 40 คน ปรากฎตัวต่อหน้าสมาชิกพรรคชาติพัฒนาที่เข้าร่วมประชุม โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างความชื่นมื่น สมาชิกพรรคชาติพัฒนาที่ร่วมประชุมได้ร่วมมอบดอกกุหลาบสีแดงให้กำลังใจ
นายกรณ์ กล่าวเปิดใจตอนหนึ่งกับสมาชิกพรรคชาติพัฒนาว่า ตั้งแต่ที่ตนคุยกับนายสุวัจน์ ทำให้สังคมจับตาความเคลื่อนไหว เพราะประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง ต้องการการเมืองสร้างสรรค์ แก้ปัญหาปากท้อง และเรื่องเศรษฐกิจ ตนเคยร่วมงานกับคนของพรรคชาติพัฒนามานาน ทั้ง นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค ซึ่งเป็นอดีตรมว.อุตสาหกรรม ในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง เห็นชัดว่านพ.วรรณรัตน์ มีความสามารถแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง กองทุนน้ำมันติบลบแสนล้าน กลับมาเป็นบวก ขณะที่นายเทวัญ ทำงานในสภาด้วยกันมานานถือว่าเป็นคนที่มุ่งมั่นทำงานและไม่ขัดแย้ง
“พรรคชาติพัฒนามีหลักนิยมเดียวกันกับอุดมการณ์ของการก่อตั้งพรรคกล้าคือ การลงมือทำงานให้สำเร็จและแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยใช้ความกล้าซึ่งการเปลี่ยนชื่อพรรคการเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาต้องใช้ความกล้า ซึ่งการทำงานหลังจากนี้มีเป้าหมายคือ ทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดี โดยผู้มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและด้าน่างๆ มาร่วมกันอยู่ที่นี่แล้ว” นายกรณ์ กล่าว
นายเทวัญ กล่าวว่า ยินดีต้อนรับนายกรณ์ และคณะ ตนหวังว่าคนโคราชยินดีต้อนรับ พร้อมกับกล่าวยำว่า “พรรคคชาติพัฒนากล้า” เพื่อปลุกใจสมาชิกพรรคและถ่ายภาพร่วมมกัน
ต่อมาเมื่อเวลา 14.15 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา, นายเทวัญ ลิปตพัลล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายกรณ์ จาติกวนิช ว่าที่กรรมการบริหารพรรค , นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานยุทธศาสตร์พรรคด้านเศรษฐกิจ, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรค ร่วมแถลงข่าว
โดยนายสุวัจน์ กล่าวว่ามติที่ประชุมเห็นชอบให้นายกรณ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค ตนได้แจ้งที่ประชุมว่านายกรณ์ จะช่วยงานของพรรคด้านเศรษฐกิจที่เป็นวิกฤตของประเทศพร้อมกับคณะ รวม 80 คน ทำให้พรรคชาติพัฒนามั่นคงในด้านเศรษฐกิจ นอกจากนั้นมติที่ประชุมเห็นชอบกับการรีแบรนด์พรรคตามที่ประชุมของคณะกรรมการบริหาร ที่มีนายเทวัญ เป็นประธานการประชุมนำเสนอ และเปลี่ยนชื่อพรรค เนื่องจากสมาชิกเห็นว่ามีความซ้ำซ้อนและสับสนกับพรรคการเมืองหลายพรรค จึงต้องการสร้างความชัดเจน และสอดคล้องกับการเปลี่ยนกติกาเลือกตั้ง ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งการมีบัตรเลือกปาร์ตี้ลิสต์ ทำให้การเปลี่ยนชื่อจึงมีการตอบโจทย์และไม่ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสับสน
“พรรคชาติพัฒนาความหมายดี คงเอาไว้ แต่ต้องการปรับปรุงให้ชัดเจน แต่คงความมุ่งหมายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไว้ มีคนเสนอชื่อหลากหลาย ทั้งชาติพัฒนาเศรษฐกิจ, กล้าชาติพัฒนา, พัฒนากล้า, ชาติพัฒนาไทย , กล้าพัฒนา, ชาติกล้า, พัฒนาทั้งชาติ หรือพัฒนาตลอดชาติ ซึ่งสมาชิกพรรคร่วมเสนออย่างตั้งใจพร้อมให้เหตุผลจึงขอมติที่ประชุม ต้องการรีแบรนด์เริ่มต้นที่กระบวนการต่อเติมชื่อ เพื่อให้ชัดเจน และไม่สร้างความสับสนในความรู้สึกประชาชนต่อชื่อพรรค สะท้อนถึงบัตรใบที่สองตามกลไกเลือกตั้งที่แก้ไข และมีการลงมติชื่อที่ได้คะแนนสูงสุด คือ พรรคชาติพัฒนากล้า ได้คะแนน 259 คนจากผู้ร่วมมประชุมกว่าสามร้อยคน จึงเป็นมติเอกฉันท์ให้รีแบรนด์พรรค” นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวด้วยว่า ประสบการณ์ทางการเมืองและด้านเศรษฐกิจจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นหากมีบุคลากรหรือท่านใดมร่วมงานพรรคชาติพัฒนาตนยินดีแต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของพรรค หลังจากนี้พรรคต้องขยายฐานเตรียมตัวในการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ผู้สมัครรับเลือกตั้งให้พรรคเข้มแข็งและได้ส.ส.มากที่สุดมีกำลังกู้วิกฤตเศรษฐกิจ ผลักดันการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ อีก 1-2 วัน จะมีการประชุมกรรมการบริหารเพื่อเตรียมการทำงาน ส่วนความคาดหวังว่าจะได้กี่เสียงนั้น ประเมินยากว่าจะได้เท่าไร และเร็วเกินไป โดยต้องรอการพิจารณารายละเอียด เช่นการทำโพล จังหวะการยุบสภา
ถามถึงการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองและจังหวะยุบสภา นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่กังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองหากมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นโค้งสุดท้ายและต้องนำไปสู่การเลือกตั้ง สิ่งที่ชัดเจนกับกการเลือกตั้งเป็นทางออกที่ดีให้ประเทศหากเลือกตั้งเร็วดี หากตามครบกำหนดไม่มีปัญหา อุบัติเหตุทางการเมืองขอให้อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย
“การเลือกตั้งสร้างความมั่นใจ ในโค้งสุดท้ายเตรียมตัว เลือกตั้งวันไหน อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ไม่กังวลหากมาเร็วเลือกตั้งเร็ว หรือจะเลือกตั้งตามกรอบเดิม และผมมองว่า การเลือกตั้งคือคำตอบของการแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ต้องวิตก มีการเลือกตั้ง และการรวมบุคลากรเข้าด้วยกันเชื่อว่าจะขยายฐานพรรคชาติพัฒนากล้าให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น” นายสุวัจน์ กล่าว
เมื่อถามถึงการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายสุวัจน์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ยังเป็นไปตามโครงสร้าง คือ นายเทวัญ เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนนายกรณ์ เป็นกรรมการบริหารพรรค ส่วนอนาคตจะมีโอกาสหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคต ขณะที่การกำหนดบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้น ยังไม่ได้หารือ
ถามถึงการจับมือทางการเมืองร่วมกับพรรคการเมืองที่ชูประเด็นแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เช่น พรรคสร้างอนาคไทย ของนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคหรือพรรคสร้างอนาคตไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายสุวัจน์กล่าวว่า ไม่ได้คุยกัน แต่พร้อมพูดคุยกับทุกฝ่าย เพื่อทำให้เกิดการประนีประนอม พร้อมพูดคุยกับพรรคการเมือง ถือว่าแลกเปลี่ยนความเห็นก่อให้เกิดความร่วมมือแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง หากพรรคการเมืองเปิดแลกเปลี่ยนความเห็น ลดความขัดแย้งทางการเมือง โดยพรรคชาติพัฒนาพร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมือง รวมถึงการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างมิตรภาพที่ดีทางการเมืองเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งตนมองว่าจำเป็นให้การแก้ไขวิกฤตประเทศสำเร็จ
ด้านนายกรณ์ กล่าวว่าสำหรับยุทธศาสตร์พรรคต้องหารือในการประชุมกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง อย่างไรก็ดีเป้าหมายการทำงานจากนี้คือการทำงานร่วมกัน สร้างโอกาสและความหวัง ให้คนรุ่นใหม่และคนไทยทุกวัยให้ได้รับการดูแล การรวมพลังคือสร้างโอกาสให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนให้ดีมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘โพล’ย้ำระอาการเมือง! ส่วนใหญ่ยังไม่เลือกใคร
โพลประจานนักเลือกตั้ง ส่วนใหญ่บอกภาพรวมแย่ลง มุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน "นิด้าโพล" เผย 41% ยังไม่รู้เลือกใครเป็นนายกฯ 32%
ชำแหละปิกนิกขอโทษประชาชน ขอเป็น ‘รัฐบาลพรรคเดียว’ ขอมากไปไหม
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ วิจารณ์ปิกนิกขอโทษประชาชนของพรรคประชาชน กรณีแก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ ตั้งคำถามความเหมาะสมของการจัดกิจกรรมกั
‘หมอวรงค์’ เตือน เลือกตั้งระวังพรรคการเมืองที่สหรัฐถือหาง
นพ.วรงค์ ตั้งคำถามกรณี “ทรัมป์” ระบุเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดเป็นอุบัติเหตุ ทั้งที่ฝ่ายทหารและอาเซียนยืนยันเป็นทุ่นระเ
‘โกศล’ เตือนศึกเลือกตั้งโคราชเดือด แฉนักการเมืองใหญ่เล่นเกมใต้ดิน
นายโกศล ปัทมะ อดีตสส.นครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาหลังจากมีการยุบสภาฯ ว่า ขณะนี้การเมืองในพื้นที่เริ่มมีความดุเดือด เนื่องจากนักการเมืองต้อ
เผด็จศึกเขมร ต้องทุบให้เดี้ยง! ไม่ควรทิ้งปัญหาให้ลูกหลาน
จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งล่าสุดจนถึงวันที่ 12 ธ.ค. มีทหารไทยเสียชีวิตแล้วรวมเป็น 11 นาย รายการ "ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด" สัมภาษณ์พิเศษ
เร่งเกม'เลือกตั้ง-จบศึกชายแดน' เมื่อทุกแนวรบกำลังได้เปรียบ
เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นฉันทามติของสังคมที่ต้องการให้กองทัพดำเนินกลยุทธ์ในการนำพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการของไทยคืนจากกัมพูชาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการสู้รบระลอกที่ 2

