'วุฒิสภา' ยื้อทำประชามติแก้รธน. ตั้ง กมธ.ศึกษา ก่อน

แฟ้มภาพ

‘วุฒิสภา’ ตั้ง กมธ.ศึกษาทำประชามติแก้ รธน. พร้อมเลือกตั้ง ‘วันชัย’ เลิกเหนียมจี้ทำให้ไวก่อน ส.ว.หมดอำนาจ ‘เสรี’ อยากแก้ปมวาระนายกฯ เลิกล็อกอยู่แค่ 8 ปี

21 พ.ย. 2565 – เมื่อเวลา 09.50 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีวาระพิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการตามที่สภาฯมีมติในการออกเสียงประชามติเกี่ยวกับความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

โดยนายมณเฑียร บุญตัน ส.ว. อภิปรายว่า เห็นด้วยที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งแบบรายมาตราและแก้ไขทั้งฉบับ เพราะครรลองการเสนอถูกต้อง และเป็นการลดความตึงเครียดทางการเมือง แต่ขอเตือนไปยังผู้แก้ไขว่าต้องคำนึงถึงความพอดี ไม่สร้างเงื่อนไขให้รัฐธรรมนูญอายุสั้น เพราะการเปลี่ยนแปลงอะไรแบบถอนรากถอนโคนไม่เคยเกิดขึ้นได้ง่าย การเริ่มต้นใหม่จากศูนย์หลายครั้งจะทำให้ประเทศไทยบอบช้ำโดยไม่จำเป็น

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. กล่าวว่า อยากตั้งเป็นข้อสังเกตว่าเมื่อทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านแล้วจะมีกระบวนการแก้ไขอย่างไรหลังจากนั้น นอกจากนี้ยังอยากทราบว่าคำถามที่จะถามประชาชนเป็นอย่างไร เพราะตนคิดว่าจะต้องถามให้ชัดเจนว่าให้ใครเป็นผู้แก้ไข และขอบเขตการแก้ไขเป็นอย่างไร

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวว่า เห็นด้วยให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว เพราะถ้าประวิงเวลาอาจจะทำให้เราไม่มีส่วนร่วมในการแก้ไข ถ้าเราไม่เห็นด้วยถือว่าเรารับเผือกร้อนไว้ กลายเป็นจำเลยสังคม ดังนั้น เมื่อผ่านรัฐสภาไปแล้วเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เชื่อก่อนเข้า ครม. จะต้องส่งไปหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ถ้า ครม. ไม่เห็นด้วยทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าเห็นสมควรให้ทำตามข้อเสนอของรัฐสภาต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 90 วันแต่ไม่เกิน 120 วันตาม พ.ร.บ.ประชามติ หรือใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน กว่าเรื่องนี้จะเกิดได้ แม้เราจะมีมติเห็นชอบวันนี้ แต่ด้วยข้อเท็จจริงและเงื่อนไขต่างๆ ไม่อาจเกิดขึ้นได้ใน ครม. ชุดนี้แน่นอน

“ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้โดนแก้แน่นอน ดูได้จากเสียงของ ส.ส. ที่มีการตั้งธงว่าจะต้องแก้ทั้งฉบับเพียงแต่ว่าจะแก้ใน ส.ว.ชุดใด ถ้าทันสมัยพวกเราก็ยังต่อรองได้ แต่ถ้าแก้ไขหลัง พ.ค. ปี 67 ซึ่ง ส.ว.ชุดพวกเราหมดวาระไปแล้ว เราก็จะนั่งตาปริบๆ ดังนั้น ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เร็วเท่าไหร่ ผมยิ่งสนับสนุน” นายวันชัย ระบุ

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ จึงขออาศัยข้อบังคับการประชุม ขอเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ขึ้นมา เพื่อศึกษาเสียก่อน

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. อภิปรายแสดงความเห็นด้วยในหลักการของญัตติที่สภาฯ เสนอมา เพราะไม่เห็นเหตุผลที่จะขัดขวางการตัดสินใจโดยตรงเบื้องต้นของประชาชน ซึ่งที่ตนระบุว่า เป็นการตัดสินใจเบื้องต้น เพราะหากจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจะใช้เวลาอีกนาน อีกทั้งยังเป็นการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 64 รวมถึงพวกเราเคารพประชามติมาตลอด เราชื่นชมรัฐธรรมนูญ 60 ว่ามาจาก 16 ล้านเสียงที่เห็นด้วย ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่เราจะไม่เคารพการทำประชามติอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวถ้าเลือกได้ ตนอยากให้เป็นการแก้ไขรายมาตรา แต่นี่ใจเขาใจเรา ส.ส.มีความเห็นมาแบบนี้ และการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับไม่ใช่ของใหม่ในประเทศไทย ตนจึงไม่เห็นเหตุผลอะไรที่จะไม่สนับสนุนหรือคัดค้านประชาชน ตนจึงเห็นด้วยกับญัตติดังกล่าว

ด้าน นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า เหตุผลในญัตติดังกล่าว มีการระบุว่า รัฐธรรมนูญเป็นต้นตอความขัดแย้ง ทั้งที่ความเป็นจริงความขัดแย้งในบ้านเมืองช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หรือก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ปัญหาของรัฐธรรมนูญ แต่เป็นปัญหาของนักการเมืองแล้วไปโทษรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญ 60 ไม่ได้มาจากรัฐประหาร แต่มาจากการตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แล้วผ่านการทำประชามติ นอกจากนี้ ยังมีการระบุถึงเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ 60 ว่าสร้างความถดถอยทางประชาธิปไตย ขยายอำนาจให้สถาบันทางการเมืองที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งตนเข้าใจว่าหมายถึง ส.ว. เป็นความไม่เข้าใจว่าระบบทางการเมืองไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้งทุกสถาบัน ทุกองค์กร ไม่ใช่ว่ามาจากการเลือกตั้ง แล้วอยากจะพูดอะไรทำอะไรเป็นผู้วิเศษ บางครั้งช่วงไม่มีการเลือกตั้ง บ้านเมืองเจริญกว่าช่วงที่มีการเลือกตั้งก็เยอะ จึงไม่ค่อยเห็นด้วยกับเหตุผลที่ท่านเสนอเท่าไหร่

“ยอมรับว่ารัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ควรมีการแก้ไข ซึ่งมีเรื่องสำคัญหลายเรื่องที่ต้องทำใหม่ เช่น ประเด็นการบัญญัติว่านายกรัฐมนตรีต้องมีวาระ 8 ปี ซึ่งทำให้เกิดวิกฤตความเป็นผู้นำประเทศ ตนไม่ได้พูดถึงตัวนายกฯปัจจุบัน แต่ถ้ารัฐธรรมนูญเขียนไว้แบบนี้ หากบ้านเมืองไปเจอคนดีมีความรู้ความสามารถสร้างความเจริญให้ประเทศได้ เขาจะถูกจำกัดด้วยระยะเวลา 8 ปี ถ้ามีคนดี 8 ปีก็ไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลในเนื้อหาบางส่วน ซึ่งญัตติที่เสนอมาเราต้องให้วุฒิสภายืนอยู่บนความชอบธรรมในหลักการ” นายเสรี ระบุ

ต่อมาเวลา 12.30 น. ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเสียงข้างมากให้ตั้งคณะกมธ.ศึกษาก่อนที่ที่ประชุมวุฒิสภาจะลงมติในญัตติด่วนดังกล่าว จำนวน 26 คน ด้วยคะแนน 151 ต่อ 26 งดออกเสียง 15 เสียง โดยกำหนดระยะเวลา 30 วัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยกเลิก MOU 'เจ้ากรมแผนที่ทหาร-นักวิชาการ' สะท้อนต่างมุม

วงเสวนาไทย–กัมพูชาสะท้อนต่างมุม “เจ้ากรมแผนที่ทหาร” ชี้ปัญหาเขตแดนเป็นมรดกยุคอาณานิคม ย้ำ MOU คือกลไกแก้ปัญหาที่สั่งสมกว่า 20 ปี ขณะที่ “สว.ชิบ” เปิด 8 เหตุผล กมธ.วุฒิสภา หนุนยกเลิก MOU 2544 ป้องกันไทยเสียผลประโยชน์ทางทะเล

'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี

สภาสูงตามบี้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นเจ้าภาพซีเกมส์

'กมธ.ติดตามงบประมาณ สว.' สอบเจ้าภาพ 'ซีเกมส์'ใช้งบคุ้มค่าหรือไม่ ด้าน 'กกท.'แจง เหตุใช้งบกลาง เพราะเงินที่มีไม่ครบถ้วน 'ภิญญาพัชญ์' เผยเรียกแจงเพิ่มสัปดาห์หน้าทำไมเปลี่ยนออแกไนซ์กลางคัน

'อนุทิน' เปิดใจเหตุยุบสภา ปัดหักหลัง ปชน. หนุนประชามติแก้รธน.

'อนุทิน' เปิดใจเหตุยุบสภา 'เท้ง' บอกไม่ให้ไปต่อ ปัดหักหลังยังยึดตามเอ็มโอเอ แต่คงอำนาจ สว. ไม่ได้อยู่ในข้อตกลง แย้มพร้อมหนุนประชามติแก้รธน.คำถามแรก

รัฐบาลนัด กกต. 15 ธ.ค. คุยเลือกตั้ง ขอไฟเขียว 'คนละครึ่งพลัส' เฟส 2

'บวรศักดิ์' แจงหลังยุบสภา รัฐบาลยังมีอำนาจเต็ม ยกเว้นอนุมัติโครงการใหม่-แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ นัดถก กกต.คุยเลือกตั้ง 15 ธ.ค. พร้อมถาม 'คนละครึ่งเฟส 2 - ครม.สัญจรหาดใหญ่' เป็นเรื่องเดิมทำได้หรือไม่