‘ชวน’ ติดประชุม ขอศาลเลื่อนนัดตรวจหลักฐาน คดีทักษิณฟ้องหมิ่นฯ

ศาลเลื่อนนัดตรวจหลักฐานคดีทักษิณฟ้องหมิ่นชวน 13 ก.พ.บ่าย เหตุติดประชุมพระปกเกล้า ทนายอดีตนายกฯขอเข้าโจทก์ร่วมศาลสั่งนัดหน้า

16 ม.ค.2566-ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดสอบคำให้การในคดีหมายเลขดำ อ.1590/2565 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นจำเลยความผิด หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

โดนคำร้องระบุพติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค.55 เวลากลางวัน จำเลยหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยจำเลยได้บรรยายในงานเปิดงานโรงเรียนการเมือง ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมรามาดาพลาซ่า แม่น้ำริเวอร์ไซด์จังหวัด กรุงเทพมหานคร โดยมีข้อความเป็นการใส่ความผู้เสียหายว่า

“…รูปแบบการปกครองทุกอย่างต้องพัฒนาไปข้างหน้า แต่ต้องยอมรับว่ารูปแบบการปกครอง ของประเทศไทยให้โอกาสมาก บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งที่เราต้องทำ คนไทยมีศักยภาพ แต่เรามีจุดอ่อนที่นักการเมืองโกง ซึ่งมาจากธุรกิจการเมืองและอุปสรรคของประชาธิปไตย คือ การยึดอำนาจระบอบประชาธิปไตย อำนาจประชาธิปไตยจะใช้ผ่านองค์กร สถาบันทั้งนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และตุลาการ โดยมีการคานอำนาจซึ่งกันและกัน แต่เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาจึงเกิด องค์กรอิสระขึ้นมา เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) แต่เมื่อระบบทักษิณเกิดขึ้นก็ใช้วิธีการนอกกฎหมาย สําหรับปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ปัจจุบันเป็นเพราะนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาในสามจังหวัด ชายแดนภาคใต้ให้หมดภายในสามเดือนนั้นทั้งที่ขณะนั้นไฟใต้มอดแล้วในสมัยที่ตนเป็น นายกรัฐมนตรี แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีกลับใช้คำว่าโจรกระจอก และมียกเลิกศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) หันมาใช้นโยบาย “ฆ่าหมดก็จบตรงนี้คือที่มาของการนองเลือดในปัจจุบันนี้…”

ต่อหน้าผู้ร่วมเข้าฟังการบรรยาย นักข่าวสื่อมวลชน (รวมถึง…. ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์) ซึ่งเป็น บุคคลที่สาม รวมถึงประชาชนทั่วไปที่เห็นและอ่านข่าว ทั้งนี้โดยจำเลยมีเจตนาเพื่อให้นักข่าว สื่อมวลชนทั้งหลายนำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ออกอากาศ กระจายเสียง และตีพิมพ์เผยแพร่ ทางหนังสือพิมพ์ไปทั่วราชอาณาจักร โดยประการที่น่าจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้เสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง เหตุเกิดที่ แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร

ข้อ 2ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ต.ค.65 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา แก่จำเลย และทำการสอบสวนแล้ว ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ ระหว่างสอบสวน จำเลยไม่ถูกควบคุมตัว ได้ส่งตัวจำเลยมาศาลพร้อมฟ้องนี้แล้ว คดีนี้ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ภายในอายุความตามกฎหมายแล้ว

การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดต่อ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 โดยนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การจำเลย ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวัน นัดสืบพยานวันนี้

โจทก์ ทนายผู้ร้อง และทนายจำเลยมาศาล

ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่า จำเลยดำรงตำแหน่งประธาน รัฐสภาและได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาพระปกเกล้า เนื่องจากในวันที่ 16 ม.ค.66 ได้มีกำหนดประชุมสภาสถาบันพระปกเกล้า ประจำปี 2566 ซึ่งจำเลยต้องเข้าร่วมประชุม ในวันและเวลาดังกล่าวจึงไม่สามารถมาศาลได้วันนี้ สอบโจทก์แล้วแถลงไม่ค้าน ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีอาญา ต้องกระทำโดยเปิดเผยต่อหน้าจำเลย เมื่อจำเลยไม่มาศาลด้วยเหตุจำเป็นประกอบกับโจทก์แถลง ไม่ค้าน จึงอนุญาตให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การจำเลย ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยาน ในวันที่ 13 ก.พ.66 เวลา 13.30 น.ตามที่คู่ความ มีวันว่างตรงกัน สําหรับคําร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมที่ยื่นต่อศาลวันนี้ เห็นควรให้รวมสํานวนไว้รอสั่งในนัดหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทนาย ผู้ร้องขอเข้าเป็นโจทย์ร่วม  คือนายนรวิชญ์  หล้าแหล่ง  และนายวิญญัติ  ชาติมนตรี ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม

"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์

เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง