
ต้องการล้มสถาบัน(หากมีมูล กกต. คงสั่งยุบพรรคหรือไม่นับจดทะเบียนพรรคมาให้ลงเลือกตั้งไปแล้ว) ต้องการแก้ไข ม.112 ให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมและใช้กระบวนการยุติธรรมเหมือนกฎหมายทั่วไป ไม่ใช่ยกเลิก
16 พ.ค.2566- นายกมล กมลตระกูล กรรมการนโยบาย และประธานอนุกรรมการ ด้านการเงินการธนาคาร สภาองค์กรของผู้บริโภค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กว่า พรรคก้าวไกลชนะแลนด์สไลด์ อย่างพลิกล็อกที่ไม่มีใครคาดคิด!
เรามาวิเคราะห์กันดูว่าสาเหตุที่ผลออกมาเช่นนี้เกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง?
ผลคะแนนเลือกตั้งที่ไม่เป็นทางการออกมาแล้วว่า ประชาชนทั้งประเทศต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง และไม่ต้องการระบอบทหารครอบงำปกครองประเทศอีกต่อไป
พรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการทั้งสิ้น 151 คะแนนเสียง ตามด้วยพรรคเพื่อไทย ได้ 141คะแนนเสียง ภูมิใจไทย 70 คะแนนเสียง พลังประชารัฐ 40 เสียง รวมไทยสร้างชาติ ของนายกตู่ได้ 36 คะแนนเสียง
เวลา 8 ปีนั้นนานเกินพอแล้ว และพิสูจน์เชิงประจักษ์ว่า การบริงานอย่างใช้อำนาจ ไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ คิดต่างและใช้เสรีภาพไม่ได้ ระบบและกระบวนการยุติธรรมที่ไม่อิงกับระบบนิติธรรมและนิติรัฐ ประชาชนหมดสิ้นความศรัทธา หมดสิ้นความเชื่อถือ
การใช้อำนาจอย่างก้าวร้าวรุนแรงของตำรวจในการจับกุมคุมขังผู้ต้องหาทางการเมืองและเยาวชนอย่างเลือกปฏิบัติ
การคอรัปชั่นเมื่อรวมๆกันแล้วมีทั้งปริมาณและคุณภาพที่สูงกว่ารัฐบาลทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาหนักกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา และทิ้งปัญหาให้รัฐบาลใหม่ต้องมาสะสาง
อีกสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง ต่อชัยชนะของพรรคก้าวไกล คือ มีขบวนการแนวร่วมมุมกลับที่ใช้วิชามารสารพัดเผยแพร่ข่าวสาร Fake news ใส่ใคล้ป้ายสีพรรคก้าวไกลอย่างไร้ข้อมูลและข้อเท็จจริงมาสนับสนุนการใส่ใคล้ป้ายสี เช่น พรรคก้าวไกลทำงานให้อดีตนายกทักษิณ เป็นพวกเดียวกัน
ต้องการล้มสถาบัน(หากมีมูล กกต. คงสั่งยุบพรรคหรือไม่นับจดทะเบียนพรรคมาให้ลงเลือกตั้งไปแล้ว) ต้องการแก้ไข ม.112 ให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมและใช้กระบวนการยุติธรรมเหมือนกฎหมายทั่วไป ไม่ใช่ยกเลิก
ต้องการยกเลิกระบบบำนาญข้าราชการและผู้สูงวัย(ต้องการเพิ่มให้มากขึ้น)
ทำงานให้ต่างชาติ ชักศึกเข้าบ้าน( ไร้ข้อมูลมาสนับสนุน)
ทำลายความมั่นคงของชาติ โดยยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ( ความจริง คือ ต้องการปฏิรูปกองทัพให้เป็นมืออาชีพเยี่ยงนานาชาติที่เจริญแล้ว)
และอื่นๆ
การใช้วิชามาร กล่าวหาใส่ใคล้กันแบบนี้ใช้ได้ผลอย่างยิ่งในยุคที่ไร้เทคโนโลยี่ข้อมูลข่าวสาร ประชาชนเชื่อสื่อที่ไม่เป็นกลาง และข่าวลือ แต่วิธีการนี้ตกยุคไปแล้ว ในยุคเทคโนโลยี่ข้อมูลข่าวสารที่ทุกคนเข้าถึงได้จากมือถือซึ่งทุกคนมีประจำตัว และตรวจสอบข้อมูลได้ทันที ค้นหา เปรียบเทียบข้อมูลจริงหรือเท็จได้ทันที โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่
ขบวนการแนวร่วมมุมกลับที่กล่าวถึงนี้ คือพลังที่ผลักใสให้ประชาชนยิ่งต้องการเลือกพรรคก้าวไกลที่ถูกใส่ใคล้และกล่าวหา รังแกอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้พรรคก้าวไกลมาได้ไกลขนาดนี้
โจทย์ที่เหลือ คือ ฝ่ายที่สูญเสียอำนาจ และฝ่ายอำนาจเก่าจะยอมรับเสียงและผลของการเลือกตั้งที่เสียงของประชาชน คือเสียงของสวรรค์ หรือไม่?
จะมีวิชามารอะไรเหลือมาให้ใช้อีก?
ต้องจับตาดูกันต่อไป!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองทัพภาคที่ 2 ปฏิเสธข่าวเรียกระดมพลกำลังสำรอง
เพจกองทัพภาคที่ 2 ออกมาปฏิเสธข่าว การเรียกระดมกำลังพลสำรอง โดยระบุว่า
สันดานเขมร! ปั้นข่าวยิง F-16 ตก
เพจกองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force โพสต์รูปพร้อมข้อความ
'หมอวรงค์' เฮ! ชนะคดี 'พิธา-ก้าวไกล' ฟ้องเรียก 24 ล้าน
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เผยศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้องคดีพิธาเรียกค่าเสียหาย 24 ล้าน
'มทภ.2' เตือนอย่าเชื่อเฟกนิวส์สั่งถอนกำลัง ยันทหารตรึงกำลัง 24 ชม.
'แม่ทัพภาค 2' เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อเฟกนิวส์สั่งถอนกำลัง หวังปั่นกระแสยั่วยุ สร้างความเข้าใจผิด ยันทหารตรึงกำลังปกป้องอธิปไตยเข้มแข็งตลอด 24 ชม.
'นักวิชาการ' เปิด วิสัยทัศน์ผู้นำเวียดนามในสมรภูมิสงครามภาษี แนะไทยควรเรียนรู้กลยุทธ์
นายกมล กมลตระกูล นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความ เรื่อง วิสัยทัศน์ของผู้นำเวียดนามในสมรภูมิสงครามภาษี มีเนื้อหาดังนี้
'ป้าเจี๊ยบ' ลั่น! นิรโทษกรรมต้องมี 112 ขู่ยุติธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิด
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตแกนนำพรรคก้าวไกล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความว่า ยุติธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิด #มาตรา11


