แถสีข้างถลอก! 'พิธา' อ้างเด็กโดนคดี 112 ยุยงปลุกปั่นไม่ได้ โบ้ยเฟกนิวส์ก้าวไกลหนุนหลัง

13 ก.ค.2566 - เวลา 13.45 น. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า นายพิธาไม่สมควรได้รับเสนอชื่อเป็นนายกฯ การที่พรรคก้าวไกลได้ 14 ล้านเสียง อย่าสำคัญผิดว่าได้ 30 เสียงล้านเสียง เพราะเสียงที่เหลือเป็นของพรรคอื่นที่ประชาชนลงคะแนนให้ พรรคเพื่อไทยก็ได้ 10ล้านเสียง ที่ไม่เลือกนายพิธาเป็นนายกฯ การทำหน้าที่นายกฯต้องมีพฤติกรรมชัดเจน ไม่หลบลู่สถาบัน 4ปีส.ว.ถูกด่ามาตลอด แต่ทนอยู่เพื่อปกป้องบ้านเมืองที่มีสร้างแนวคิดให้ประชาชน และยุยงเด็กไปในแนวทางที่ผิด ให้ละเมิดสถาบัน ถ้าบอกว่า อยากเป็นนายกฯและจะเลิกแก้มาตรา112 ตนก็ไม่เชื่อ คิดว่าหลอกลวง วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง

จากนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ใช้สิทธิถูกพาดพิงชี้แจงการยุยงสนับสนุนเด็ก ยืนยันเด็กรุ่นใหม่ยุยงปลุกปั่นไม่ได้ เขามีความคิดเป็นของตัวเอง สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ไม่เหมือนสมัยก่อน ส่วนการใช้ตำแหน่งส.ส.ไปประกันตัวเด็กนั้น เพื่อต้องการให้เข้าถึงเสรีภาพการเข้าถึงทนาย และสันนิษฐานว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน ถ้ายังไม่มีคำพิพากษา

ขณะที่นายเสรีโต้กลับว่า มีหลักฐานเป็นคลิประบุชัดเจนที่เด็กพูดเองมีพรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลัง แต่นายพิธายืนยันว่า เรื่องคลิปต่างๆมีเฟคนิวส์ ใครจะทำอะไรก็ได้ เพราะไม่มีการตรวจสอบ จะพูดอะไรต้องพิสูจน์ก่อน ต้องมีวุฒิภาวะการตรวจสอบ แต่นายเสรียืนยันว่า ที่ผ่านมาอยู่ในสายตาท่านมาตลอด ไม่ใช่เฟกนิวส์ เป็นเรื่องจริง

นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า ขณะนี้มีกองทัพอวตารแก้วสามประการในโซเชียล พยายามมากดดัน บูลลี่ส.ว.ให้เลือกตามมติเสียงข้างมาก แม้จะมีส.ว.บางส่วนขอปิดสวิตช์ตัวเอง แต่ก็ยังการขู่ บูลลี่ไม่ให้ปิดสวิตช์ ไม่ขอพูดถึงวิชามารมีทุกรูปแบบ แต่ยืนยันส.ว.ทั้งหมด มีสิทธิทำหน้าที่เท่าเทียมส.ส.ทุกประการ ทุกคนทำหน้าที่อย่างสุจริต ไม่มีอคติ อามิสสินจ้าง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาใช้มวลชนบนท้องถนน กองทัพอวตารในโซเชียลโจมตีส.ว. แต่ตนจะทำหน้าที่ด้วยความไม่เกรงกลัวใดๆทั้งสิ้น เชื่อมั่นว่า ส.ว.ทุกคนเคารพเสียงเลือกตั้งที่เห็นด้วยกับทุกพรรคการเมือง ขอร้องหลังจากเลือกเสร็จแล้วไม่ว่านายพิธาจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ ขอให้เลิกอ้างเสียงข้างมากมากดดัน เพราะผิดหลักประชาธิปไตย เป็นอนาธิปไตย

“ต้องเลิกอ้างเสียงข้างมาก 14 ล้านเสียง แล้วบังคับคนทั้งประเทศว่าต้องเห็นด้วย แบบนั้นผิดหลักประชาธิปไตยแต่เป็นเผด็จการ เรากำลังเข้าสู่การเมืองที่เราอยากเห็นประชาธิปไตยรุ่นใหม่ เราอยากเห็นความสงบ วันนี้เราเดินเข้าสู่ครรลองประชาธิปไตยแล้ว อย่าใช้สังคมกดทับ อย่าใช้ประชาธิปไตยแบบฟุ่มเฟือย หรือเลือกพวกข้าเท่านั้นที่ถูก เลือกพวกเอ็งผิด แบบนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตย ถ้าเลือกทางเดินแบบสุดโต่ง สร้างลัทธิสุดโต่งครอบงำเยาวชน ผมในฐานะสมาชิกรัฐสภา พิจารณาแล้วเห็นว่านายพิธา ยังไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ” นายสมชายกล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อภิสิทธิ์' ลั่นไม่มีปัญหา หลังโดนป่วนช่วงลงพื้นที่ ชี้ข้อมูลสาธารณะมีชัดเจนอยู่แล้ว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชูป้ายโจมตีกรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 ต่อไปอาจจะกลายเป็นปัญหาในเวลาลงพื้นที่อาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ ว่า ไม่เป็นไร

'เอ็ดดี้' สุดทน! แฉความต่ำทรามของพวกบ่อนทำลายสถาบัน เหยียบย่ำหัวใจคนทั้งชาติ

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ อินฟลูเอนเซอร์ทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "เสรีภาพ" ที่เหยียบหัวใจคนอื่น ไม่ใช่เสรีภาพ

'พิธา' เย้ย 'ภูมิใจดูด' ก็เคยแพ้ผม ประชาชนลงโทษ เตือน 'อนุทิน' อย่าให้การเมืองนำบ้านเมือง

'พิธา' ชี้ การเมืองไทยยุคนี้คือ 'เฉพาะกิจ' เตือน 'อนุทิน' อย่าให้การเมืองนำบ้านเมือง พร้อมป้องพรรคประชาชนไม่ใช่ฝ่ายค้ำ

'พิธา' ย้อนถามรัฐบาล ปมยกเลิก MOU หากทุกเรื่องทำประชามติ แล้วจะมีรัฐสภาไว้ทำไม

‘พิธา’ ย้อนถาม 'รัฐบาล' ปมทำประชามติยกเลิก MOU เหตุใดใช้กลไกรัฐสภาประชุมลับไม่ได้ มองควรตั้งเงื่อนไขให้ชัด หากทุกเรื่องทำประชามติหมดจะมีรัฐสภาไว้ทำไม ชี้ยังไม่รู้รัฐมนตรีเห็นด้วยกับ ‘บวรศักดิ์’ กี่คน แนะ ‘อนุทิน’ ร่วมประชุมอาเซียน วางจุดยืนกำหนดอนาคตตนเองได้ ไม่ต้องให้ประเทศอื่นชักจูง

'เท้ง' ไม่ตอบเสียงส้มไหลช่วย 'ภท.' ไล่ 'พท.' ปรับปรุงตัวแพ้เลือกตั้งซ่อม

'หัวหน้าเท้ง' ปัดตอบ คะแนนพรรคส้มไหลช่วย 'ภูมิใจไทย' ทำชนะเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ย้อน 'เพื่อไทย' ประเมินปรับปรุงตัวเอง

'สส.ลูกเกด' รอดนอนคุก! ศาลให้ประกันตัว วงเงิน 3 แสน ห้ามออกนอกประเทศ

8 กันยายน 2568 - ตามที่ศาลอาญา อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำอ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้องน.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส. ปทุมธานี พรรคประชาชน(ปชน.) เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายเเล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พิพากษา จำคุกจำเลย 4 ปี คำเบิกความจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้างลดโทษให้ 1ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้ 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา โดยขณะนี้ทนายความของน.ส.ชลธิชา จำเลยเตรียมยื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว จำเลยประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล