นายกฯ ตั้งเป้าบริหารจัดการน้ำท่วม-แล้งไม่ให้เกิดผลกระทบ

นายกฯ ตั้งเป้าบริหารจัดการน้ำท่วม-แล้ง แบบสมดุล ดูแลทั้งภาคเกษตร-อุตสาหกรรม ไม่ให้เกิดผลกระทบ ชี้ทุกหน่วยต้องบูรณาการ พร้อมจับมือเอกชนสร้างความรู้ความเข้าใจ

3 ต.ค.2566 เมื่อเวลา 11.43 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลและเป็นเรื่องแรกของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งได้มีการสั่งการให้รัฐมนตรีทุกท่านใส่ใจเป็นพิเศษ และกำชับสส.ที่อยู่ในการควบคุมดูแลลงพื้นที่ให้มาก ซึ่งเราต้องดูแลคนที่เดือดร้อนทันที รวมถึงการเยียวยาพื้นที่เพาะปลูกที่จะมีการสูญเสียจะต้องมีการชดใช้ ส่วนเรื่องการผันน้ำวันนี้จะมีการคุยต่อเพื่อดูถึงการระบายน้ำของแต่ละพื้นที่

“เราทำงานลักษณะไม่อยากให้เป็นลักษณะวัวหายล้อมคอก ฉะนั้นในวันศุกร์ที่6 ต.ค.นี้ตนจะเดินทางลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเห็นจากพื้นที่เรียลไทม์ของกรมชลประทานแล้ว ตรงนี้มีความกังวลเพราะมีพื้นที่น้ำล้นเอ่อเกินจุดที่สบายใจโดยผมจะลงไปสั่งการและบอกเจ้าหน้าที่ไปแล้วให้เตรียมแผนงานไว้ด้วย เพราะปีที่ผ่านมาจ.อุบลราชธานีรู้สึกว่าน้ำท่วมมากและนานมากด้วย หากท่วมแปบเดียวพืชผลอาจจะไม่เสียหายมาก แต่ท่วมนานจะเสียหายมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐมนตรีทุกท่านให้ความกังวล ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ได้มีการรายงานและคงจะมีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง” นายกฯกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแผนระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า มีเป็นแผนการบูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ซึ่งต้องขอเวลาเตรียมงาน เมื่อถามว่าทราบว่ามีความเป็นห่วงพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ นายกฯกล่าวว่า เรื่องของน้ำมี 4 ข้อที่ต้องกังวล 1.น้ำอุปโภคบริโภค ตรงนี้ไม่น่าเป็นห่วงเพราะมีพออยู่แล้ว 2. น้ำรักษาระบบนิเวศน์ซึ่งมีการบริหารจัดการอยู่ 3. ที่ห่วงมากคือน้ำเพื่อการเกษตรกรรม และตอนนี้เป็นเรื่องของน้ำท่วมและอีก 6 เดือนจะเป็นเรื่องของแล้ง ตรงนี้ต้องบริหารจัดการอย่างพอเหมาะ การระบายน้ำหากระบายมากเกินไปเก็บในเขื่อนน้อยเกินไปก็จะเกิดปัญหาแล้ง หากใช้จังหวะที่ฝนตกเยอะระบายน้ำไปเก็บไว้ในพื้นที่เหมาะสมควรจะเก็บจะมีประโยชน์

นายกฯ กล่าวอีกว่า และ 4. ที่คนพูดถึงน้อยเป็นน้ำที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมใหม่ๆไฮเทคที่จะเข้ามามีความต้องการน้ำเยอะมาก ซึ่งปัจจุบันเรายังเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐาน ความจำเป็นใช้น้ำยังมีอยู่ แต่ถ้ามีข่าวออกไปในอีก 6 เดือนข้างหน้าว่าเรามีภาวะขาดแคลนน้ำ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี เพียงแต่จะต้องป้องกันโดยทำงานเชิงรุก ต้องดูแลให้ดีภาคอุตสาหกรรมจะต้องไม่มีการขาดแคลนน้ำ ถ้าตรงนี้สามารถบริหารจัดการได้ดีเชื่อว่าจะเป็นการดึงดูดใจให้นักลงทุนจากต่างประเทศที่จะมาลงทุนในแง่ของไฮเทคที่จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมประเทศไทย ดังนั้นการบริหารจัดการน้ำภาคอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่จะปล่อยปะละเลยไม่ได้

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ได้มีการคุยกับรมว.เกษตรและสหกรณ์รองอธิบดีกรมชลประทาน มีการให้ความรู้กับภาคเอกชน โดยนำ นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ซีอีโอ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งท่านมีความรู้ในภาคอุตสาหกรรมมาให้คำแนะนำและมีการพูดคุยกัน ว่าต้องทำอย่างไรบ้างต้องการน้ำที่ไหนเท่าไหร่ อย่างไร และหลังจากนี้จะมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง มอนิเตอร์กันอย่างใกล้ชิด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

ปัตตานีไม่ไหวแล้ว ชาวบ้านติดน้ำ 9 วัน น้อยใจไร้มูลนิธิ จิตอาสาเข้าถึงพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 พ.ย. สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปัตตานียังคงไม่คลี่คลาย หลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขังในระดับสูง เนื่องจากยังมีมวลน้ำจำนวนมากจากตอนบนของจังหวัดยะลาที่ยังคงไหลลงมาสมทบอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลดูแลผู้ป่วยไตสิทธิบัตรทองพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้

รัฐบาลพร้อมดูแลผู้ป่วยไตสิทธิบัตรทองพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ จัดระบบอำนวยความสะดวกบริการรักษาต่อเนื่อง  หากมีปัญหาติดขัด โทร.แจ้ง 1330 ฟรี 24 ชั่วโมง

น้ำลดตอผุด 'สส.พรรคส้ม' จี้รัฐบาลยอมรับประเมินสถานการณ์น้ำท่วมผิดพลาดแล้วเดินหน้าแก้ไข

น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า หาดใหญ่ในวันที่น้ำลด ใจหาย

โจ๊กบอกเจอนายกฯ เศรษฐาก็หน่ายแล้ววันนี้มาเจอนายกฯ อนุทินอีก!

'บิ๊กโจ๊ก' ซัดรัฐบาลล้มเหลวทั้งระบบ น้ำท่วมหาดใหญ่ทำคนตายเพิ่ม นายกฯไม่กล้าบัญชาการเอง เสียใจเห็นประชาชนต้องช่วยกันเอง