'สมชาย' รู้ทันเหตุผู้นำมโนแช่งศก.ไทย ที่ฟื้นดีๆให้วิกฤต หาแพะให้เข้า ม.53 พรบ.วินัยการเงิน ฯ

'สมชาย'รู้ทันเหตุผู้นำต้องมโนแช่งเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีๆให้วิกฤต จะหาเหตุดันออกพรบ.กู้เงิน5แสนล้าน ทีมงานต้องสร้างแพะการเมือง ให้เข้าข้อ 3 ของ ม.53 พรบ.วินัยการเงิน แนะเลิกเถอะ อย่าดันทุรัง

22 พ.ย.2566- ดร.สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง วิกฤติเศรษฐกิจ แพะการเมือง มีเนื้อหาดังนี้
ถาม:เหตุใดผู้นำจึงต้องมโนแช่งเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีๆให้“วิกฤต”
ตอบ:เพราะจะหาเหตุดันออกพรบ.กู้5แสนล้านไง
กฎหมายวินัยการเงินการคลัง ม53 บังคับว่า ถ้าจะกู้เงินเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินการคลังประเทศต้องจำเป็นหรือมีเหตุอ้างอย่างหนึ่งอย่างใด 1ใน4ข้อนี้ ได้แก่
1)เร่งด่วน 2)ต่อเนื่อง 3)วิกฤติ4)ใส่ในพรบงบประมาณประจำปีไม่ทัน
เมื่อสรุปว่าการเอาเงินสดไปแปลงดิจิทัลมาหว่านแจก5แสนล้านบาทนั้น ไม่เข้าเรื่องเร่งด่วน ไม่ใช่โครงการพัฒนาต่อเนื่องใดๆ และยังมีเวลาทำทันสบายๆในร่างพรบงบประมาณ3.48ล้านล้านบาท ของงบประจำปี2567
ที่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในเดือนเมษายน2567
ทีมงานจึงต้องสร้าง #แพะการเมือง ในวลีมโน #วิกฤติเศรษฐกิจ
ให้เข้าเงื่อนไขข้อ3)คือวิกฤติ
แล้วเร่งระดมอธิบายให้เห็นพ้องว่าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งๆที่
นักเศรษฐศาสตร์ นักธุรกิจ สภาพัฒน์ แบงค์ชาติ Tdri ฯลฯ
ต่างเห็นว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเริ่มฟื้นตัวหลังผ่านวิกฤติโควิด
บางท่านเห็นตรงกันว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกหว่านเงินดิจิทัล5แสนล้าน ได้ไม่คุ้มเสีย #ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
และส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า รัฐบาลน่าจะใช้เม็ดเงินมหาศาลนี้ไปกระตุ้นเศรษฐกิจที่สร้างศักยภาพสูงขึ้น ยกระดับการผลิต การพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง การสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จ้างงาน ลดปัญหาความยากจน พัฒนาคนฯลฯ ซึ่งจะเป็นต่อยอดที่แข็งแรงยั่งยืนมั่นคง ให้กับประเทศ ดีกว่า กระตุ้นด้วยการแจกเงินแล้วได้ผลกลับได้แค่ 0.4%
ไม่เกิดผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่จะสร้างหนี้และดอกเบี้ยเป็นบาดแผลระยะยาวอีกครั้งหนึ่ง เหมือนอดีตที่ผ่านมาหลายโครงการ

#รู้ทัน #กู้มาแจก #เงินดิจิทัล #เพื่อใคร
#เลิกเถอะ #อย่าดันทุรัง #อวสานเซลล์แมน