'บิ๊กทิน' แจงงบกลาโหม ยันไม่ซูเอี๋ยกองทัพ เผย 3 แนวทางลดกำลังพล

“สุทิน” แจงงบกลาโหม วิธีคิดไม่เหมือนกระทรวงอื่น เผย ทำโครงการเกษียณก่อนกำหนด พร้อม 3 แนวทางลดกำลังพล เมินงดเกณฑ์ทหาร ชี้ปิดทางตัวเอง สุดว้าว มาตรการจูงใจติดยศนายสิบ80เปอร์เซ็นต์ เปิดโอกาสรับเครื่องราชฯ อิดออดเดินหน้าเรือดำน้ำ ลั่นไม่ฉลาดแลก2แสนล้านกับ6พันล้าน พร้อมยันจุดยืนเหมือนเดิมไม่ซูเอี๋ยกองทัพ

4 ม.ค.2567 - จากนั้นเวลา 17.54 น. นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า วิธีคิดเกี่ยวกับงบประมาณของกองทัพไม่เหมือนวิธีคิดกระทรวงอื่นๆ เพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ประเทศด้วย ที่สำคัญต้องดูคู่แข่ง ประเทศที่เป็นภัยคุกคาม ถ้าศักยภาพเขาไปไกล เราต้องจัดสู้เขา นี่คือข้อจำกัดเบื้องต้น ส่วนที่ระบุว่างบกองทัพเพิ่มขึ้นนั้น เป็นการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ลดลง คือ เพิ่มขึ้น 1.2%-1.3% หากเทียบกับราคาเงินเฟ้อ หรือสัดส่วนในภาพรวมของงบประมาณแผ่นดินเหมือนกับไม่ได้ขึ้น และเมื่อเทียบกับจีดีพีตัวเลขงบประมาณของประเทศที่พัฒนาแล้วที่จัดงบ 3% แต่ของไทยมีเพียง 1.2%

นายสุทิน กล่าวว่า สำหรับการปฏิรูปกองทัพ สิ่งที่นายกฯอยากทำที่สุด คือปรับลดกำลังพล ตนก็ได้ตั้งคณะทำงาน 10 คณะ ขับเคลื่อนนโยบาย แต่การปฏิรูปทำเร็วไม่ได้ยังต้องคำนึงถึงกำลังใจของกำลังพล ต้องดูว่ากระทบศักยภาพและขีดความสามารถกำลังรบหรือไม่ ถ้าไปปรับลดกำลังพลหรือลดอาวุธอย่างรวดเร็วก็เสี่ยง ดังนั้น ต้องใช้เวลา ขณะนี้ยศนายพล มี 700 นาย แต่ในปี70 ตั้งเป้าให้เหลือ 350 นาย แต่ตนอยากได้เร็วกว่านี้จึงทำโครงการเกษียณก่อนกำหนด(Early Retire) โดยให้เงินด้วย และยืนยันว่าเมื่อบวกลบคูณหารแล้ว ถ้าปล่อยให้จนอยู่เกษียณจะใช้งบประมาณมากกว่าให้เงินช่วง Early Retire นอกจากนี้ เราจะมีข้าราชการพันธุ์ใหม่ มีพลเรือนด้วย บางหน้าที่ตำแหน่งไม่จำเป็นต้องมียศ เป็นข้าราชการพลเรือนธรรมดาได้ เช่น หมอ เจ้าหน้าที่ธุรการ เป็นต้น นี่คือการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่จะเกิดขึ้น

“งบประมาณด้านกำลังพล วันนี้ผมเพิ่งเข้ามา 3 เดือน ถ้าจะให้งบลดต้องปลดอย่างเดียว แต่ทำไม่ได้ คนไม่ใช่อิฐ ดังนั้นจะเห็นงบลดลงปีต่อๆไป นอกจากนี้ เราเตรียมไว้ 3 แนวทาง 1.ยุบหน่วย 2.ควบรวมภารกิจใกล้เคียงกัน 3.ปิดอัตรา เกษียณแล้วไม่บรรจุเพิ่ม แบบนี้จึงจะสมูทแบบไม่กระทบ” รมว.กลาโหม ระบุ

นายสุทิน กล่าวถึงกรณีทหารเกณฑ์ที่อยากให้งดเกณฑ์ทหาร ว่าเป็นวิธีนี้ปิดทางตัวเอง เมื่อเกิดสถานการณ์แล้วเรียกใครไม่ได้ ซึ่งเกิดเหตุมาแล้วในยุโรป ยอดทหารเกณฑ์ปีนี้ยอดอยู่ที่ 8 หมื่นคน แล้วเราจะสร้างมาตรการจูงใจ ทั้งไม่หักเงินเดือน ได้เรียน เปิดให้ติดยศนายสิบได้ 80 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ถ้าสมัครใจครบตามจำนวนก็ไม่ต้องเกณฑ์เพิ่ม ทั้งนี้ จำนวนกำลังพลที่จำเป็นจริงๆนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภัยคุกคาม ตึงเครียด และบอกได้เพียงว่าปีนี้เปิด 80,000คน ส่วนปีอื่นๆยังไม่แน่

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องเรือดำน้ำ ขอความเป็นธรรมด้วย เรื่องนี้รัฐบาลก่อนทำไว้ ตนเข้ามาแก้ปัญหา แต่แก้อย่างไรก็โดนหมด ทั้งเดินหน้าเอาเรือจีนต่อก็โดน ถ้าไม่เดินก็เสนอเอาอย่างอื่นแทน ตนเคยโยนหินถามทางว่าเอาเรือฟลิเกตก็โดน เรือดำน้ำซื้อมาหลายปี จ่ายเงินหลายงวด หลายคนบอกว่าให้ยกเลิก ถ้ายกเลิกแล้วได้เงินคืนก็ยกเลิก แต่ถ้ายกเลิกแล้วไม่ได้เงิน เรื่องอะไรจะยกเลิก ระหว่างเงิน 6 พันล้าน กับยุทธศาสตร์ที่เราไปทำร่วมกับจีน ผลประโยชน์ร่วมกัน 2 แสนล้าน ถ้ายกเลิกก็ดูไม่ฉลาด วันนี้จึงต้องคิดอย่างรอบคอบ และเพื่อให้รอบคอบที่สุด วันนี้จึงถามไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดข้อตกลงที่ทำไว้ วันนี้ยกเลิกได้ไหม แล้วจะผิดกฎหมายหรือไม่ ตอนนี้รอคำตอบอยู่ คาดว่าไม่เกิน 2 วันสำนักงานฯน่าจะตอบกลับมา เราจะได้เดินต่อ หลายคนตั้งคำถามว่าจีนผิดสัญญา เรายกเลิกแล้วเอาเงินคืนมา ขอเรียนความจริงข้อหนึ่งที่เราไม่รู้ คือเราก็เคยผิด จ่ายเงินไม่ตรง เขาก็อนุโลม

รมว.กลาโหม กล่าวทิ้งท้ายว่า ข้อสังเกตว่า “สุทิน ดาวน์น้อย ผ่อนนาน” ความจริงไม่มีอะไร ปีแรกต้องจ่ายล่วงหน้า 15เปอร์เซ็นต์ 5เปอร์เซ็นต์จ่ายทีหลัง ส่วนงบปี67 นั้นที่น้อย เพราะสำนักงบประมาณเป็นคนตัดเอง เนื่องจากเห็นว่าเหลือเวลาใช้งบประมาณเพียง 4 เดือน เขาไม่เชื่อว่าจัดการใช้เงินทัน ก็ลดลงเท่านั้นเอง ทั้งนี้ ตนยืนยันไม่ลืมจุดยืนเดิมที่เคยอภิปรายตอนเป็นฝ่ายค้าน และที่ไม่ลืมอีก คืออยากทำให้กองทัพทันสมัย แต่จะพูดโครมครามไม่ได้ ขอเวลาพิสูจน์การทำงานต่อไปและไม่ซูเอี๋ยกองทัพ.