‘ก้าวไกล’ ไม่แตะถึงขั้นยุบ ‘พรรคภูมิใจไทย’ หลัง ‘ศักดิ์สยาม’ พ้นรมต.ปมซุกหุ้น!

18 ม.ค.2567 - ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ7 ต่อ1ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี จากการถือหุ้นหจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ทางพรรคก้าวไกลจะมีการยื่นร้องสอบจริยธรรมไปจนถึงขั้นยุบพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ว่า ในกระบวนการเตรียมการเร่งรัดด้านรายละเอียด ในขณะนั้นพรรคร่วมฝ่ายค้านในรัฐบาลชุดที่แล้ว ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย แต่ขณะนี้เรื่องก็ยังค้างอยู่ เราก็คงต้องเร่งรัดให้ป.ป.ช.พิจารณาเรื่องนี้ เพราะเราได้ร่วมลงชื่อในความผิดฐานยื่นทรัพย์สินเป็นเท็จ ซึ่งเป็นหน้าที่ของป.ป.ช.ที่จะต้องเร่งดำเนินไต่สวน เรียกหลักฐานต่าง ๆมาพิจารณาต่อไป ส่วนการยื่นสอบจริยธรรมไปจนถึงขั้นยุบพรรคนั้น

ยืนยันว่าจุดยืนของพรรคก้าวไกล เราเชื่อว่าไม่มีองค์กรใดที่จะมาตัดสินประหารชีวิตของบุคคลหรือพรรคการเมืองใด การตัดสินประหารชีวิตทางการเมืองใดๆ อำนาจควรเป็นของประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง ที่จะเลือกบุคคลหรือพรรคการเมืองนั้น พรรคการเมืองจะดำรงอยู่หรือไม่ดำรงอยู่หรือไม่ อยู่ที่ประชาชนเป็นคนเลือกเท่านั้น ไม่ใช่องค์กรใดจะมาตัดสิน

เมื่อถามว่าจะเป็นบรรทัดฐานในการยื่นยุบพรรคหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรียกว่าเป็นจุดยืนของพรรคเรามากกว่า ตนเข้าใจดีว่าพรรคก้าวไกลเคยถูกระทำแบบนี้มาบ่อย ๆ แต่ถ้าเรายืนอยู่ในจุดยืนเดิม เราก็จะไม่เข้าไปสู่ด้านมืด เราไม่จำเป็นจะต้องทำแบบที่คนอื่นทำ ถ้าเรายืนยันยึดมั่นในหลักการ ตนคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญในการทำงานการเมือง

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ยืนยันว่าแม้เราต้องทำงานตรวจสอบภายใต้หลักการที่ถูกต้อง สำหรับเรื่องการยื่นยุบพรรคไม่เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลเด็ดขาด แต่ก็ย้ำว่าเฉพาะกรณีนี้ยังมีเรื่องต่อเนื่องอีกหลายส่วน นอกจากเรื่องบัญชีทรัพย์สินที่เป็นเท็จ ยังมีเรื่องที่นำบริษัทของตัวเองมาเป็นคู่สัญญากับรัฐ ซึ่งยังเป็นประเด็นต่อเนื่องได้อยู่ ไม่ใช่เป็นประเด็นเรื่องการยุบพรรคอย่างเดียว

เมื่อถามว่าเป็นเพราะพรรคก้าวไกลกังวลเรื่องคดียุบพรรคของตัวเอง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีล้มล้างการปกครอง จากการเสนอร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง ในวันที่31ม.ค.นี้ จึงไม่ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันแน่นอน เพราะคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ไม่ได้เป็นคำร้องเพื่อให้ยุบพรรคก้าวไกล แต่เป็นคำร้องเพื่อให้ยุติการกระทำ ดังนั้นในวันที่ 31 ม.ค.จึงไม่มีเรื่องการยุบพรรคเข้ามาเกี่ยวข้อง

เมื่อถามย้ำว่ายังมั่นใจว่าการตัดสินในวันที่ 31 ม.ค.ไม่ส่งผลถึงการยุบพรรค หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่ส่งผล และคิดว่าพรรคก้าวไกลเราต่อสู้คดีมาเต็มที่ ยืนอยู่บนข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ไม่ได้กังวล พร้อมรอฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองทั้งในวันที่ 24 ม.ค.คดีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล และวันที่ 31 ม.ค. หากไม่ติดโหวตวาระสำคัญในการประชุมสภาฯก็จะไปร่วมฟังด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยังนิ่ง! ไม่ตอบโต้ 'เท้ง' ปิดประตูร่วมรัฐบาลกับภูมิใจไทย

"อนุทิน" บอกหลังเลือกตั้งพร้อมจับมือกับพรรคที่สร้างประโยชน์ให้บ้านเมือง ไม่อยากพูดก่อน ผลลต.ออก เดี๋ยวทำไม่ได้ใครพูดก่อนต้องกลืนน้ำลาย

'วราวุธ' เผยอบอุ่น-มีพลังอยู่บ้านภูมิใจไทย ไม่แคร์ 'ยศชนัน' เปิดซิงสุพรรณฯ ลั่นเจาะได้ก็ลองกันดู

“วราวุธ​” ลั่น​ "เจาะได้ก็ลองกันดู" หลัง​ “ยศนัน” หอบคณะเพื่อไทย​ ลงพื้นที่หาเสียงสุพรรณบุรี​ บอก​ แย่งพื้นที่ได้หรือไม่ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน​ ​

'ภท.' เปิดตัว 5 ผู้สมัคร สส.พิษณุโลก 'จุติ' นำทัพ คัมแบ็กลงเขต

ภท. เปิดตัวผู้สมัคร สส. พิษณุโลก ครบทั้ง 5 'จุติ ไกรฤกษ์' นำทัพ พร้อมจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นและปัญหาจากสมาชิกพรรค เดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง

ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)

'ภท.' เปิด 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ จับตา 24 ธ.ค. 'อนุทิน' แถลงนโยบาย โชว์ 3 แคนดิเดตนายกฯ

'ภท.' เปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์แบบไม่จัดอันดับ คนดัง-บ้านใหญ่-ทายาทนักการเมืองมาครบ จับตา 24 ธ.ค. 'อนุทิน' นำแถลงนโยบาย พร้อมเปิดตัว 3 ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ

“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้