ผ่านไปอีกมาตรา! งบกระทรวงทรัพยากรฯ

สภาชำแหละ กระทรวงทส. แก้ฝุ่นพิษล้มเหลว 'ก้าวไกล' ข้องใจเน้นประเคนงบกรมอุทยานฯ

21 มี.ค.2567 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในเวลา 11.00 น. มีการพิจารณามาตรา 17 งบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ กมธ.ตัดลดงบประมาณเหลือ 15,025,964,400 บาท จากที่เสนอมา 15,064,053,400 บาท โดยเนื้อหาการอภิปรายส่วนใหญ่แสดงความเป็นห่วงการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่กระทรวงฯ ไม่ให้ความสำคัญ ทำให้ปัญหามีความรุนแรงขึ้น รวมถึงการเกลี่ยงบประมาณภายในหน่วยงานที่ไม่เป็นธรรม ไม่ให้งบประมาณอย่างเพียงพอกับหน่วยงานที่มีหน้าที่แก้ปัญหาภัยแล้ง

โดยนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า งบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ถูกปรับลดลงเหลือ 870 ล้านบาท ถูกตัดทิ้ง ทั้งที่ประเทศมีวิกฤติเรื่องน้ำ แต่กลับไม่ติดอาวุธให้หน่วยงาน ขณะที่งบกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่วแวดล้อมมีความทับซ้อนกับกรมควบคุมมลพิษ มีแต่งบงานอีเวนต์เป็นตัวตั้ง ที่ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ควรเน้นเป้าหมายเรื่องการบรรลุยุทธศาสตร์ในการลดก๊าซเรือนกระจกให้ชัดเจน

ขณะที่นายจักรวาล ชัยวิรัตน์กูล สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เกลี่ยงบไม่สมดุล กรมอุทยานแห่งชาติฯได้งบ 5,600ล้านบาท ทั้งที่มีรายได้จากการเก็บค่าเช่าอุทยานมากอยู่แล้ว มีรายได้ต่อปี 1,000 ล้านบาท แต่กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่มีส่วนสำคัญแก้ปัญหาภัยแล้ง กลับได้รับงบประมาณไม่เพียงพอ อย่างกรมป่าไม้ มีอุปกรณ์ดับไฟป่าแค่ไม้กวาด เครื่องเป่าลม ควรได้รับงบเพิ่มเพื่อไปซื้ออุปกรณ์ดับไฟป่าที่ทันสมัย

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.ชี้แจงว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5 แก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา แต่เรื่องฝุ่น PM2.5เป็นเรื่องส่วนรวม ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ถ้าให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงฯเพียงอย่างเดียว การแก้ปัญหาจะใช้เวลานาน

จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 17 ตามเสียง กมธ.ข้างมาก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม

เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.

'มทภ.4' ระดม 400 นาย เร่งฟื้นฟู 'รพ.หาดใหญ่' ให้เสร็จวันนี้

'มทภ.4' กำชับทุกหน่วย-ทส. ระดมกำลังกว่า 400 นาย เร่งฟื้นฟูโรงพยาบาลหาดใหญ่ ปรับสภาพผิวจราจรโดยรอบให้เสร็จวันนี้ พร้อมลุยต่อถนนเส้นหลัก เปิดการจราจรให้ประชาชน ก่อนบิ๊กคลีนนิ่งเมืองทั้งหมด

‘ธารน้ำใจหลั่งไหลไม่หยุด’ รองโฆษกฯ ส่งต่อสิ่งของจำเป็นขึ้นเครื่องบิน ทส. ช่วยชาวใต้ แม้น้ำลดแล้วแต่ยังเดือดร้อนจำนวนมาก - รมว.สุชาติสั่งดูแลประชาชนต่อเนื่อง

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ได้เป็นตัวแทนประชาชนจากหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ส่งมอบสิ่งของจำเป็นและของใช้ประจำวัน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ยังมีหลายครอบครัวที่ต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

‘สุชาติ’ กำชับ การช่วยเหลือประชาชนน้ำท่วมใต้ ต้องเป็นเอกภาพ .. สั่งศูนย์ฯ ทส. บูรณาการใกล้ชิดร่วมกองบัญชาการสั่งการ ค่ายเสนาณรงค์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา และพื้นที่ภาคใต้

กรมป่าไม้ ส่งสิ่งของที่รับบริจาคถึง อ.หาดใหญ่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่แจกจ่ายให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และได้สั่งการให้ กรมป่าไม้จึงเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือและยานพาหนะที่จำเป็นเร่งลงพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งในด้านการอพยพประชาชน การสนับสนุนด้านเสบียง และกำลังช่วยอย่างเต็มที่

ศูนย์ปฏิบัติการ ทส.ผนึกกำลัง! ลุยภารกิจ ‘Big Cleaning คืนความสุข’ คนสงขลา ระดมกำลังพล 780 นาย พร้อมรถบรรทุก-รถฉีดน้ำ อุปกรณ์ทำความสะอาดคืนพื้นที่ปลอดภัยให้ปชช.ตามสั่งการ ‘รองนายกฯ สุชาติ’

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ระดมสรรพกำลังครั้งใหญ่ ร่วมปฏิบัติภารกิจ "Big Cleaning คืนความสุข" เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยในจังหวัดสงขลา หลังน้ำลด ตามการสั่งการของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนภารกิจ ทส.1 เดียวผ่านศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ศป.ทส.)