ปชป. ขย่ม 'เศรษฐา' มีแค่อำนาจทิพย์ ทำไทยไม่ติดอันดับประเทศน่าลงทุน

ปชป. จี้รัฐบาลเร่งแก้ไข หลังผลจัดอันดับ EIU ไทยไม่ติดประเทศน่าลงทุน เหตุไร้เสถียรภาพการเมือง ‘เศรษฐา’ มีแค่อำนาจทิพย์ โดน ‘อดีต-อนาคต’ นายกฯ ประกบตลอด

15 เม.ย. 2567 – นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงรายงานผลการสำรวจจัดอันดับประเทศที่เหมาะกับการทำธุรกิจของ EIU หรือสถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจและการเมือง ในการจัดอันดับของ EIU ประเมินจากความน่าดึงดูดในการทำธุรกิจของประเทศและเขตแดน 82 แห่งทั่วโลก และพิจารณาจากดัชนีบ่งชี้ในด้านต่างๆ เช่น เงินเฟ้อ ค่าครองชีพ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และนโยบายการคลัง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่สามารถดึงดูดการทำธุรกิจ และการลดข้อจำกัดด้านกฎระเบียบทางการค้าต่างประเทศและการลงทุน โดยประเทศสิงคโปร์คว้าอันดับ 1 ประเทศน่าทำธุรกิจติดต่อกัน 16 ปี

แต่ประเทศไทยที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันกลับไม่ติดอันดับประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมืองในสายตานักลงทุนถือเป็นประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนและทำธุรกิจ รัฐบาลของประเทศเหล่านั้นมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือบริษัทเอกชนในการยกระดับด้านเทคโนโลยี ในขณะที่ประเทศไทยยังติดกับดักผู้มากบารมี สิ่งที่น่าเศร้าใจถ้อยแถลงของผู้นำประเทศต่อสาธารณะที่กล่าวว่าประชาชนสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ด้วยเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์การบริหารประเทศที่ฉาบฉวย

“อยากจะย้ำให้นายกรัฐมนตรีไปพิจารณาเรื่องของคำว่าเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งมิได้หมายความถึงแค่เสียงส่วนใหญ่ในสภา แต่หมายความถึงความน่าเชื่อถือและเอกภาพ คือการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีที่ทุกคนมองว่านายกรัฐมนตรีมีตัวจริง แต่มีอำนาจทิพย์ เพราะมีอดีตนายกฯ และอนาคตนายกฯ ประกบข้างการทำงานตลอดเวลา” นายชนินทร์ ระบุ

นายชนินทร์ กล่าวว่า หลังจากนายกบริหารประเทศมา 6 เดือนกว่าก็ยังมีเวลาที่จะแก้ไขปรับปรุงสิ่งต่างๆ ไม่ควรใช้เวลาไปกับการตอบโต้คำพูดทางการเมืองในสภาเหมือนในการประชุมในสภาที่ผ่านมา สิ่งสำคัญคือเรื่องคำพูดสัญญาต่อประชาชนในโครงการเรือธงของรัฐบาล หากมีการเลื่อนออกไปอีก ก็ถึงเวลาควรพิจารณาตัวเองตัดสินใจลาออก เพราะก็ครบ 1 ปีในการทำงานพอดี นายกฯ ควรมีวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศที่เป็นรูปธรรม และเป็นนโยบายของตัวเอง โดยไม่จำเป็นรอคำสั่งจากผู้นำหลังฉาก หันมาสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีความมีความปลอดภัย มีนโยบายด้านเทคโนโลยีที่ชัดเจน และสร้างการค้าการลงทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับการลงทุน และทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สัมพันธ์การ(เ)ปิดประตูร่วมรัฐบาล  ‘พท.-ปชน.-ภท.’ผันตามคณิตศาสตร์การเมือง

วิวาทะ ระหว่าง ‘พรรคเพื่อไทย’ และ ‘พรรคประชาชน’ ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งหลัก ‘ในการแย่งจัดตั้งรัฐบาล’ เมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 66 วนกลับอีกครั้ง

'แก้วสรร' แพร่บทความ อำนาจศาลยุติธรรม ในคดีไต่สวนชั้น 14

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความในรูปแบบถาม-ตอบ เรื่อง อำนาจศาลยุติธรรม ใน "คดีไต่สวนชั้น 14" มีเนื้อหาดังนี้

นายกฯ ปัดข่าวลือ สหรัฐปิดทางไทยเจรจาภาษี

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหาภาษีสหรัฐอเมริกา ขอให้ขยายความว่าจะร่วมมืออย่างไรกับอาเซียนว่า ล่าสุดที่ได้ไปคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ได้คุยนอกรอบกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียด้วย

โถ!'อิ๊งค์' ลั่นไม้เด็ดกระตุ้นเศรษฐกิจ 'เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ' ดัน GDP ไทย

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี ธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMFX) ปรับประมาณการจีดีพีของไทย แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล