‘ปานปรีย์’ ขีดเส้นชัดกองทัพทหารเมียนมาห้ามรุกล้ำอธิปไตยไทย

‘ปานปรีย์’ กำชับกองทัพทหารเมียนมา ห้ามรุกล้ำอธิปไตยและดินแดนไทย รวมทั้งห้ามมีลูกหลงการสู้รบมาฝั่งไทยด้วย เผย เตรียมประชุมวอร์รูมก่อนประชุม ครม. อังคารนี้ ก่อนนายกบินแม่สอด ติดตามสถานการณ์

21 เม.ย. 2567 – นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนภายหลัง เป็นประธานในพิธีเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 30 ปี สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ณ จังหวัดหนองคาย ถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ขณะนี้ ซึ่งมีแนวโน้มการปะทะกันระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลังฝ่ายต่อต้านรุนแรงมากยิ่งขึ้นว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดสถานการณ์การสู้รบในบริเวณชายแดนดังกล่าว และมีผู้ลี้ภัยอพยพมาที่ชายแดนไทย แต่เมื่อสถานการณ์สงบลง ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ก็จะเดินทางกลับเมียนมา ซึ่งจากที่ได้รับรายงานล่าสุดเย็นวานนี้ ทราบว่ามีคนเมียนมาอพยพมาจำนวน 3,000 คน ซึ่งอยู่ในการดูแลของกองทัพ และหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย

ส่วนกรณีที่มีกระสุนปืนลูกหลงจากการสู้รบ ตกมาที่ฝั่งไทยนั้น เบื้องต้นทราบว่ายังไม่ปรากฏความเสียหาย และยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสูนปืนลูกหลง อย่างไรก็ดี นายปานปรีย์ระบุว่า ได้แจ้งเตือนฝ่ายเมียนมาไปแล้วว่าให้ใช้ความระมัดระวังขั้นสูงสุด เนื่องจากไทยไม่ต้องการให้เกิดการรุกล้ำอธิปไตยและดินแดนไทย ไม่ว่าจะทางบกหรือทางอากาศ เช่นเดียวกับการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ต้องไม่ให้เข้ามาในดินแดนไทย รวมทั้งเกิดอันตรายกับประชาชนชาวไทย

ส่วนความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการรับมือสถานการณ์เมียนมา ของนายกรัฐมนตรี นายปานปรีย์เปิดเผยว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการ ดังกล่าวในช่วงเช้าวันอังคารที่ 23 เม.ย. 67 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี และหลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง

ทั้งนี้ ในด้านบทบาทการเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพ (Peace Broker) ในเมียนมา นั้น นายปานปรีย์กล่าวว่าได้หารือกับอาเซียนแล้ว โดยได้มีการออกแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องให้สถานการณ์ในเมียนมากลับสู่ความสงบและเกิดสันติภาพโดยเร็วที่สุด และมีการดำเนินการและเจรจาในการรับบทบาทเป็นตัวกลางฯ อยู่ แต่ยังมีอุปสรรคในด้านที่ไม่ทราบว่าใครเป็นใคร รวมทั้งการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ตลอดเวลา แต่ย้ำว่า ได้มีการเจรจากันในระดับหนึ่งแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปลอบ 'ชลน่าน-ปานปรีย์' อย่าน้อยใจ ถือว่าชะตายังดีที่ยังไม่ต้องอยู่ในคุกเหมือน 'บุญทรง'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า

'ครูมานิตย์' ทวง 'ปานปรีย์' เป็นรัฐมนตรีได้เพราะสส. อัดเดินสวนกันทำเป็นไม่รู้จักไม่ทัก

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกร

ส่องปูมหลัง 'มาริษ เสงี่ยมพงษ์' สะพัด เข้าวิน รมว.ต่างประเทศ แทน 'ปานปรีย์'

ภายหลัง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ นั้น ทำให้ตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศว่างลง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องเร่งหาบุคคลเพื่อมารับหน้าที่ดังกล่าว โดยนายเศรษฐา ได้ระบุสเปกว่าคนที่จะมาเป็นรมว.ต่างประเทศ