'ก้าวไกล' ไม่กังวลถูกยุบพรรค 'ชัยธวัช' บอกคุยลูกพรรคหลายรอบแล้ว

2 พ.ค.2567 - ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาให้พรรคก้าวไกลแก้ข้อกล่าวหาในคดีล้มล้างการปกครอง ว่า คดีนี้มีความร้ายแรงมากกว่าคดีก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุติการหาเสียงการแก้ไข มาตรา112 เพราะเป็นการสั่งให้ยุบพรรคก้าวไกล รวมถึงตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ดังนั้น ศาลควรเปิดโอกาสให้มีระยะเวลาและโอกาสในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เรามีความจำเป็นต้องใช้ระยะเวลามากที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงและมุมในแง่ของกฎหมาย รวมถึงการประสานงานกับพยานผู้เชี่ยวชาญ ที่ต้องใช้เวลาไปคุย วางประเด็น ประสานงาน เพื่อจะต่อสู้คดี เสนอให้ศาลไต่สวนข้อเท็จจริงมากกว่าคดีที่สั่งให้ยุติการกระทำ โดยเงื่อนไขสภาพความเป็นจริง ไม่ควรจะได้เวลาน้อยกว่าคดีที่แล้ว

เมื่อถามว่าการแก้ข้อกล่าวหาจะแก้ว่าอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนไม่ขอลงรายละเอียด เรายืนยันว่าในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไปแล้วตามมาตรา 49 จะพิจารณาเห็นว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่ ศาลก็วินิจฉัยให้ยุติการกระทำ แต่เมื่อพิจารณาเรื่องยุบพรรค ตามมาตรา 92 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

“เราเห็นว่าไม่สามารถพิจารณาแบบยุติข้อเท็จจริงได้เลยตามอัตโนมัติ เมื่อมาตรา 49 ตามรัฐธรรมนูญผิด มาตรา 92 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ก็ต้องผิดไปด้วย และยุบพรรคโดยอัตโนมัติ เพราะความมุ่งหมายของกฎหมายต่างกัน ความร้ายแรงของโทษต่างกัน ดังนั้นต้องพิจารณาอย่างถึงที่สุด” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อศาลเห็นว่ากระทำผิด ในส่วนนี้คือรายละเอียดที่ต้องต่อสู้ ในคำวินิจฉัยที่ให้ยุติการกระทำ กระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงหลายอย่างยังไม่ถึงที่สุด แต่เป็นความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าพรรคก้าวไกลกระทำอย่างนั้นอย่างนี้ และเป็นการมัดรวมองค์ประกอบหลายอย่างมารวมกัน โดยที่ไม่ใช่การกระทำของพรรคก้าวไกล แล้วบอกว่าเป็นการกระทำอย่างเป็นขบวนการต่อเนื่องกัน คดีนั้นศาลมองแบบนี้ แต่เป็นเพียงแค่การสั่งให้ยุติการกระทำ แต่หากเป็นคดียุบพรรคการเมืองต้องมีการไต่สวนข้อเท็จจริงใหม่อย่างถึงที่สุด และต้องเฉพาะเจาะจงส่วนที่เป็นการกระทำของพรรคเท่านั้น

เมื่อถามว่าระยะเวลาที่ขอขยายไปเพียงพอหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ค่อยเพียงพอ ส่วนจะมีการขอเพิ่มหรือไม่นั้น ก็คงจะต้องขอเพิ่ม แต่ในระยะเวลา 15 วัน ก็ต้องทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าบรรยากาศในพรรคเป็นอย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เราก็เพิ่งประชุม สส.ไป มีการอัพเดตความคืบหน้าของการต่อสู้คดี รวมถึงแนวทางในการต่อสู้คดี แผนการของพรรค สส.ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด เรื่องนี้มีการพูดคุยในพรรคมาหลายรอบแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (31)

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม

พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า

สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง

เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี

ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ บทบาทใหม่ บนถนนการเมือง หวั่นใช้ทุนเทาซื้อเสียงเลือกตั้ง!

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง ประเทศไทย"กรุงเทพมหานคร"เป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่คนทั้งประเทศจับตามองกันว่าผลการเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 "พรรคประชาชน"