ส่องการเมืองตรัง ปชป.วางตัว ส.ส. 4 เขตเลือกตั้ง เตรียมสู้ศึกสมัยหน้า "สมบูรณ์" เลขาฯชวน ถูกดึงกลับมาลงเขต 4 ส่วนเขต 1 พื้นที่ไข่แดงบ้านชวน เปิดตัว "หมอตุลกานต์" ชิงเก้าอี้ หวังสร้างคนรุ่นใหม่เชื่อดึงเก้าอี้กลับคืน เหตุ "นิพันธ์" ไม่ได้แข็งแกร่งเช่นเดิมแล้ว ขณะที่เขต 2 และเขต 3 "สาทิตย์-สุณัฐชา" ยังนั่งที่เดิม
5 ม.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ โดยได้กล่าวถึง ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ จ.ตรังในปี 2565 จากเดิมเขตการเลือกตั้งมี 3 เขต จะกลายเป็น 4 เขตเลือกตั้งเช่นเดิม ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่าทาง กกต.จะแบ่งเขตการเลือกตั้งอย่างไร ถ้าคิดตามโมเดลเดิม ก็คงไม่หนีไปจากเดิมมากมายนัก โดยเขต 1 คือ อ.เมืองตรัง เขต 2 คือ อ.ห้วยยอด อ.รัษฎา อ.วังวิเศษ เขต 3 คือ อ.ย่านตาขาว บางส่วน อ.นาโยง อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ เขต 4 คือ อ.ย่านตาขาวบางส่วน อ.กันตัง และ อ.สิเกา
เบื้องต้นได้พูดคุยกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แล้วว่าในเขตเลือกตั้งที่ 2 ตนเองจะลงเหมือนเดิม ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ หรือ ท่ามเฮง จะลงเหมือนเดิม
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 ก็คงหนีไม่พ้น นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ซึ่งเคยเป็นอดีต ส.ส.ในเขตดังกล่าว แต่สมัยที่แล้ว ยอมเสียสละไปลงสมัครในระบบปาร์ตี้ลิสต์ แม้สมัยที่แล้วสามารถลงเลือกตั้งในระบบเขตเลือกตั้งได้ ทั้งที่ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.เขต 3 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว แต่เนื่องจาก นายสมชาย ได้ยื่นความจำนง ให้ น.ส.สุณัฐชา หรือ ท่ามเฮง ลงรับสมัครจนชนะการเลือกตั้ง ทำให้ นายชวน หลีกภัย ในฐานะที่นั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงได้ชักชวนให้นายสมบูรณ์ ไปตำรงตำแหน่งเลขาประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำให้สมัยนี้ หลังจากพูดคุยกับนายชวน หลีกภัย แล้วจึงเห็นสมควรให้โอกาส นายสมบูรณ์ ลงรับสมัครเลือกตั้งในเขตการเลือกตั้งที่ 4 โดยขณะนี้ นายสมบูรณ์ ได้หยุดการทำงานในพื้นที่ กทม. ลงพื้นที่กลับมา จ.ตรัง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์
ส่วนในเขตการเลือกตั้ง 1 ซึ่งเป็นที่จับตามองกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากสมัยที่แล้ว นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ชนะการเลือกตั้ง ไปจาก นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขต 1 ขณะนี้ผู้ที่จะลงรับสมัครเขตที่ 1 มีผู้เสนอตัวจำนวน 3 คน แต่ตัวเลือกที่ 1 ที่มีการพูดถึงกันคือ นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลตรัง และเป็นโฆษก ศบค.ตรัง ซึ่งนายชวน หลีกภัย และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ก็ได้มีการพูดถึงเช่นเดียวกัน โดย นพ.ตุลกานต์ ถือว่าเป็นคนหนุ่ม รุ่นใหม่ เป็นคนที่ทำงานสัมพันธ์มวลชนมาระยะเวลาหนึ่ง ในช่วงที่ นายกิจ หลีกภัย ดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.ตรัง และประกอบกับฐานเสียงเดิมของ นายธีระศักดิ์ มักคุ้น อดีตรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพ่อของหมอตุลกานต์
ส่วนผู้ที่เสนอตัวในเขตการเลือกตั้งที่ 1 อีก 2 คน ยังไม่ขอเอ่ยถึงหรือพูดถึง แต่ 2 คนดังกล่าวนั้นมีฐานการเมืองที่สัมพันธ์กันอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ดังนั้นเขต 1 ถือว่าเราช่วยกันทำการเมืองก่อน ซึ่งท่านชวน หลีกภัย พยายามลงมาพื้นที่มากขึ้น ใน จ.ตรัง มากขึ้น แต่คิดว่าตัวผู้สมัครก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ดูเหมือนว่าจะมีตัวเลือกค่อนข้างครบ แต่ทั้งนี้ทางพรรคเองยังไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ
ส่วนในประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาพรรคพลังประชารัฐ ลงมายังพื้นที่ จ.ตรัง ตนมีความเห็นว่าคุณธรรมนัส ไม่ได้มาด้วยเรื่องการเมืองที่ตรังโดยเฉพาะ แต่เข้าใจว่ามีการนัดหมายกันหลายกลุ่ม หลายเรื่องซึ่งเป็นประเด็นส่วนตัวของเขา ซึ่งตนก็ไม่ทราบ แต่ว่าในแง่ทางการเมืองหลังจากคุณธรรมนัสกลับไปแล้ว มีการประเมินในเขตการเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีนายนิพันธ์ ศิริธร นั่งเก้าอี้ ส.ส.อยู่ หลายสายก็สรุปตรงกันว่าไม่ได้แข็งแกร่งเช่นเดิมอีกแล้ว อาจจะด้วยสไตล์การทำงานที่ผ่านมา รวมทั้งกระแสของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงหลังก็อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้
ประกอบกับฐานเสียงเก่าของพรรคประชาธิปัตย์ในเขตที่ 1 มีการเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัคร อย่างตัวผู้สมัครเดิมอย่าง นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ก็ได้ประกาศวางมือไปแล้ว ก็เป็นโอกาสสร้างคนใหม่ซึ่งจะเป็นใครก็แล้วแต่ แต่ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในเขตที่ 1 ยังเหนียวแน่น เพราะการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว คะแนนเสียงถูกแชร์ไปให้พรรคพลังประชารัฐก็กลับมา ก็อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลง สามารถจะหยิบเด็กรุ่นใหม่ใครก็แล้วแต่ที่เป็นที่ยอมรับกันได้ ตนเชื่อว่าเขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ จะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นมา ในส่วนที่มีการมองว่าเขต 4 มีจุดอ่อนเยอะพลังประชารัฐจะเจาะฐานตรงนี้ ตนมองว่าเป็นสิทธิ์ที่ทุกคนจะคิดได้
เพราะฉะนั้นโดยพื้นฐานการทำงานที่ผ่านมาของพรรคประชาธิปัตย์มีผลงานที่เป็นประจักร คนที่จะมาลงต่อไปสามารถทำต่อได้เลยในนามของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคนที่มาลงในนามพรรคอื่นๆ ก็สามารถพูดได้ แต่งานต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ทำมาค่อนข้างจะเข้มข้นไปแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ร้องข้ามกำแพงคุก!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ร้องข้ามกำแพงคุก!! ห้องข่าวไทยโพสต์ : ประจำวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
🛑LIVE คิด - วิเคราะห์ - แยกแยะ!! ภาพร่วมเฟรม 'เจ้าพ่อสแกม' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ :วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้
'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล
"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ


