‘อนาคตไกล’ ค้านนิรโทษฯรวมคดี112 เตือนซ้ำรอยนิรโทษฯสุดซอย!

1  มิ.ย. 2567 - ที่พรรคอนาคตไกล ถนนสุโขทัย นายภวัต เชี่ยวชาญเรือ โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าวว่า ตามที่อัยการสูงสุดมีความเห็นในการสั่งฟ้องคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ นั้น ต้องชื่นชมอัยการสูงสุดคนปัจจุบันที่ยืนยันในความถูกต้องตามหลักนิติรัฐ ตามพยานหลักฐานที่ปรากฎและยืนบนพื้นฐานรัฐธรรมนูญที่ว่า ประชาชนทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่ใช่อภิหารกฎหมาย หรือที่เรียกว่า มือที่มองไม่เห็นที่จะกลับคำสั่งไม่ฟ้อง กระทบต่อการอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา ทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบือนไป

นายภวัต กล่าวว่าหากไม่ได้กระทำความผิดนายทักษิณ ย่อมมีสิทธิต่อสู้ต่อกระบวนการยุติธรรมได้ แต่ขณะนี้นายทักษิณ อยู่ระหว่างพักโทษ ยังไม่พ้นโทษหากอัยการยื่นฟ้อง ศาลจะปล่อยตัวหรือไม่ ให้นายทักษิณไปวัดดวงเอา ตนไม่ขอชี้นำศาล  

ทั้งนี้ให้สังเกตว่า คดีนี้เกิดขึ้นในปี 2558 ในประเทศเกาหลีใต้ เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด ตาม ป.วิ อาญา มาตรา 20 สมัยนั้นอดีตอัยการสูงสุดนายพงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร ได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว แต่ไม่สามารถนำตัวไปฟ้องได้เพราะนายทักษิณ ผู้ต้องหาหลบหนี การที่อัยการสูงสุดคนปัจจุบันจะกลับความเห็นโดยสั่งไม่ฟ้อง จะต้องมีพยานหลักฐานใหม่ ยืนยันว่า นายทักษิณไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา

ส่วนที่ทนายความของนายทักษิณ บอกว่าตัดต่อคลิปและให้อัยการโจทก์นำสืบให้ได้ว่า ต้นฉบับคลิปสัมภาษณ์มาจากแหล่งใดและการลงข้อมูลเท็จในคอมพิวเตอร์ ตรงนี้ ในคดีอาญา ตาม ป.วิอาญา มาตรา 174 ให้เป็นหน้าที่โจทก์แถลงเปิดคดีและมีหน้าที่นำสืบตามฟ้องอยู่แล้ว ทั้งคลิปวีดีโอการให้สัมภาษณ์ เป็นพยานวัตถุ หน่วยงานรัฐ สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้วว่า ตัดต่อหรือไม่ เป็นกระบวนการโจทก์นำสืบในชั้นศาล ถามว่า จำเลยจะเอาอะไรมาซักค้าน

นายภวัต กล่าวว่า ส่วนที่แกนนำพรรคเพื่อไทยบางคนออกมาเด้งรับลูก ภายหลังอัยการสูงสุดคนปัจจุบัน ไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้องนายทักษิณ ตนไม่ขอเอ่ยนาม ดาหน้ากันออกมาจุดพลุ ประเด็นนิรโทษกรรมเหมาเข่ง มาตรา 112 เพื่อปกป้องนายใหญ่ ตนขอถามว่าเพื่อไทย ยังไม่เข็ดอีกหรือ จำได้ไหม นิรโทษกรรมเหมาเข่ง สุดซอย สมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประชาชนต่างออกมาเรียกร้องคัดค้าน นำไปสู่ประกาศอัยการศึกและการรัฐประหารของ คสช. เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 หรือว่าแกล้งจำไม่ได้ ปัญหาความขัดแย้งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปี 2566 ก่อนที่จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ข้ามอุดมการณ์ หากจะนิรโทษกรรมในคดีการเมือง ตนเห็นด้วยแต่ไม่เหมาเข่งคดีมาตรา 112 เพราะเป็นความผิดที่กระทบหมิ่นและลดพระเกียรติต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งพระองค์ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเมือง ท่านอยู่เหนือการเมือง

“พรรคอนาคตไกล แสดงจุดยืนมาแต่แรกไม่แก้ไขมาตรา 112 รวมถึงการนิรโทษกรรมเหมาเข่งคดีมาตรา 112 ด้วย ยืนยันว่า จะคัดค้านนอกสภาให้ถึงที่สุด จะเห็นได้จาก บุ้ง ทะลุวัง อดอาหารประท้วงเกี่ยวกับมาตรา 112 นี้และถึงแก่ความตายในเรือนจำ ตนเห็นว่า ความเห็นต่างในประชาธิปไตย  สามารถเห็นต่างได้ แต่ไม่ควรให้มีใครมาตายเพราะเรื่องนี้  

แต่ต้องแยกระหว่างการกระทำประจำเฉพาะกลุ่ม ไหม ให้พี่น้องประชาชนไปสังเกตเอาเอง เช่น การบีบแตรและขับรถประชิด ไล่ขบวนเสด็จ ควรกระทำหรือไม่เป็นการสร้างความกระด้างกระเดื่องปั่นป่วนในสังคม จะเห็นได้ว่า แม้การตายของบุ้ง ทะลุวัง ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสังคมได้ หากมีนิรโทษกรรมสุดซอย เหมาเข่ง มาตรา 112 ไปด้วย จะเห็นปรากฎการณ์พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ยินยอมแน่ ให้ดูตัวอย่างการรัฐประหารในปี 2557 ไว้” โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าว.