
9 ก.ค. 2567- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การลงพื้นที่และเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี จะกลายเป็นปัญหาระหว่างคนภายในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่า คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหา ซึ่งขณะนี้เราก็พยายามทำความเข้าใจ ซึ่งนายวรชัยเองก็อาจจะไปรับรู้หรือรับฟังถึงปัญหาสภาพความเดือดร้อนประชาชนและพยายามสะท้อนออกมา อันที่จริงแล้วควรจะมาสะท้อนกันภายในเพราะไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่ได้รับมาครบถ้วนทั้งหมดหรือไม่ และสิ่งที่ดำเนินการอยู่ มันก็มีหลายด้านหลายเหตุผลที่จะต้องมาทำความเข้าใจในแต่ละเรื่อง
วันนี้การแก้ปัญหาไม่ใช่แก้ง่ายๆ เพราะสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่เป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่บริหารได้ไม่ดีและสร้างปัญหามาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งสภาพทางภูมิศาสตร์การเมือง และสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้พึ่งจะเริ่มฟื้นตัวเพราะฉะนั้นการมองทุกอย่างต้องรอบด้าน ตนคิดว่าหากทุกฝ่ายทำใจให้สงบและมานั่งคุยกันก็จะเข้าใจปัญหากันได้มากขึ้น
นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายวรชัยก็อาจจะสะท้อนภาพที่พี่น้องประชาชนเจอและได้เสนอมาซึ่ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในสถานะการทำงานใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี การออกมาบอกว่า นายวรชัยไม่รู้ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะอย่างตนก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องของงานที่รัฐบาลทำอยู่ หากตรงนี้คือการเอามุมของแค่ละคนที่เห็นและมาพูดคุยมาชั่งน้ำหนัก ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ ตนไม่อยากให้เรื่องนี้ยืดเยื้อเพราะที่จริงแล้วไม่ได้มีอะไร ซึ่งรัฐบาลตระหนักถึงปัญหาตรงนี้ดีอยู่แล้วและพยายามแก้ไข
เมื่อถามว่าจะต้องมีการพูดคุยกับนายวรชัยหรือไม่ในฐานะที่ปรึกษา นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ต้องคุยกันทุกฝ่าย ซึ่งตนก็ได้ยกไปคุยกับนพ.พรหมินทร์ และตนก็ได้คุยกับนายวรชัยแล้ว ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้ต้องจบ ไม่ควรทำให้ประเด็นเล็กประเด็นน้อยถูกถามและไปขยายความที่เป็นความเห็นของแต่ละคน เพราะเรื่องนี้ควรที่จะรับรู้ร่วมกัน ไม่ใช่ไปใช้วิธีไปพูดผ่านสื่อ แบบนี้ตนว่ามันไม่ได้
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนตัวคิดว่า นพ.พรหมินทร์คงจะจบเรื่องนี้แล้ว เพราะได้ชี้แจงในส่วนของรัฐบาลไป ซึ่งส่วนของนายวรชัยตนก็ไม่อยากให้ไปขยายความอีก ในฐานะที่เราเป็นคนทำงานร่วมกัน ดังนั้นควรยุติ
ถามว่า ได้มีการพูดคุยเป็นส่วนตัวกับนายวรชัยไปแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้พูดคุยไปแล้ว แต่ในเรื่องนี้ตนพึ่งเห็นในสองวันที่ผ่านมา ถ้าเป็นส่วนตัว ตนคิดว่าคงหยุดไปแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่สะท้อนออกมาแล้ว และไปคุยกันได้ ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่งอีกคนพูดอีกอย่างหนึ่ง ตนมองว่านั่นไม่ใช่การทำงานที่มีวุฒิภาวะ ควรจะหยุด มีแต่จะพูดทำให้ความเชื่อมั่นและปัญหาของประเทศมากขึ้นไป ซึ่งที่จริงแล้วถูกทั้งสองฝ่ายเพียงแต่เห็นกันคนละด้าน
ซักว่า ในขณะนี้มีคนพูดถึงการทำงานของนายกรัฐมนตรีว่า “ทำดีแต่ไม่มีผลงาน” ที่จะครบ1ปีของการทำงานของรัฐบาล มองเรื่องนี้อย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรีทำงานหนัก และสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สะสมมายาวนาน ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าตั้งแต่ก่อนเข้ามาเป็นรัฐบาลจะต้องเจอกับปัญหาหนักแน่ๆ เพราะสภาพที่ทับถมมานาน ดังนั้นตนคิดว่านายกรัฐมนตรีก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และพยายามคลี่คลายในทุกจุด ซึ่งสิ่งที่นายกรัฐมนตรีกำลังดำเนินการมันเป็นปัญหาในหลายเรื่อง ทั้งการผูกขาดทั้งเรื่องของเศรษฐกิจที่ซบเซาลงและเศรษฐกิจโลกก็ส่งผลกระทบ ซึ่งทุกอย่างต้องใช้เวลา ตนที่กำกับดูและกระทรวงพาณิชย์เองก็ไม่ได้เป็นอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปจนเกินเลย เพราะตัวเลขการส่งออกของ 5 เดือนแรกในปี 67 อยู่ที่ 2.6 ซึ่งสูงกว่าเป้าคาดการณ์ว่าจะโตได้ที่ 2.0% ส่วนอีก 7 เดือนที่เหลือจะพยายามทำให้ได้ที่ 2.3%
ขณะนี้ตัวเลขส่งออกเกินเป้าอยู่แล้ว ซึ้งต้องมาดูว่าการค้าขายในปัจจุบันไม่ใช่การส่งออกแบบเดิม แต่รัฐบาลกำลังเริ่มดำเนินการแบบใหม่ ซึ่งก็สามารถเพิ่มยอดค่าใช้จ่ายได้อีกแบบหนึ่ง ตนคิดว่าจะมองปัญหาเพียงจุดเดียวไม่พอ ต้องมองในภาพรวม เพราะตอนนี้ประเทศไทยกำลังก้าวไปข้างหน้า และวันนี้พืชผลทางการเกษตรก็ทำได้เยอะ ซึ่งการทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พืชผลทางการเกษตรก็ดีขึ้นทุกตัว เป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ สิ่งที่สำคัญคือเราต้องไปตรวจสอบกับประชาชนที่เป็นผู้ผลิตดีขึ้นด้วยหรือไม่ เพราะฉะนั้น ปัญหาหลายเรื่องมันซับซ้อน และก็ต้องดูปัจจัยอย่างอื่นไม่ใช่แค่ปัญหาของประชาชนเพียงอย่างเดียว ซึ่งวันนี้เข้ามาต้องแก้ปัญหาให้ไปถึงราก เพื่อแก้ปัญหาไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปตลอดกาล
เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์นี้ พรรคกับรัฐบาลจำเป็นต้องสื่อสารกันมากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า สื่อสารกันดีอยู่แล้ว แต่ในตัวบุคคลอาจจะมีคลาดเคลื่อนกันได้บ้าง ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ปรับปรุงได้ไม่มีปัญหา และการทำงานของพรรคกับรัฐบาลเองก็มีอยู่แล้ว อย่างเช่นในวันอังคารรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย ก็จะเดินทางเข้าพรรคไปประชุม และในส่วนของสภาเราก็เข้าสภา ในวันธรรมดาเราก็ทำหน้าที่บริหารในส่วนรับผิดชอบของตนเอง รัฐมนตรีทุกคนต่างก็งานล้นมือ ต้องของเวลานิดนึงให้เราได้ทำงานจริงๆ เพราะเรากำลังทำในสิ่งที่เป็นปัญหายุ่งยาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ เตรียมบินบุรีรัมย์ มอบนโยบายรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน
นายกฯ เตรียมบินบุรีรัมย์ มอบนโยบายรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังแก่ ชรบ. พร้อมรับฟังรายงานสถานการณ์ -เตรียมพร้อมของฝ่ายปกครอง
‘โสภณ’ ยัน ปลดล็อคขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทันก่อนปีใหม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เคยมีมติให้ปลดล็อ
'อนุทิน' เตรียมลงสงขลาอีกรอบ ไม่ตอบปมศพโผล่หลังน้ำลด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พยายามเลี่ยงตอบคําถามผู้สื่อข่าว โดยผู้สื่อข่าวถามว่านายกจะลงพื้นที่จังหวัดสงขลาอีกหรือไม่ นายกฯ ตอบสั้นๆ ว่า"ลงสิ "
‘อนุทิน’ลงใต้ดูนํ้าท่วม
"อนุทิน" บินด่วนไปหาดใหญ่ ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม สั่งเร่งด่วนช่วยประชาชน ทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก ยารักษาโรค และอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็น
นายกฯ ฝ่าสายฝน ลุยน้ำท่วมหาดใหญ่ คาด 3-4 วัน น้ำลดระดับ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมนางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภริยา และคณะ ขึ้นรถยกสูงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่
นายกฯ ลุยช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่วิกฤต เรียกหน่วยงานถกด่วน พร้อมตั้งศูนย์อพยพ
นายกฯ ถึงหาดใหญ่ เรียกหน่วยงานถกด่วน ฟังเสียงสะท้อนแก้อุทกภัยใต้ เตรียมอาหาร น้ำ ยารักษาโรค ศูนย์อพยพ ด้านพื้นที่ร้องขอ “เรือ-รถทหาร” ช่วยอพยพปชช.


