'พิเชษฐ์' สั่งปิดประชุมสภาฯกะทันหัน เลื่อนโหวตรายงานกมธ.นิรโทษฯ

17 ต.ค.2567 - ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่สส.อภิปรายแสดงความคิดเห็นครบทุกพรรคแล้ว นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวสรุปว่าเนื่องจากรายงานของคณะกมธ.มีความเห็นแตกต่างกันจำนวนมาก และกมธ.ได้ชี้แจงแล้ว ทำให้เข้าใจกันทุกฝ่ายแล้ว

จากนั้นนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ทักท้วงว่าเราอยู่ในระบบรัฐสภา เมื่อเรื่องใดเห็นไม่เหมือนกันก็ต้องลงมติ ซึ่งฝ่ายค้านพร้อมลงมติรายงานฉบับนี้ และดูจากจำนวนคนแล้วครบองค์ประชุมแน่นอน อย่างไรก็ตาม เราควรจะให้โอกาสกมธ.ชี้แจง จึงขอให้ประธานดำเนินการตามระเบียบวาระ

ขณะที่ซีกรัฐบาลทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย แสดงความพร้อมที่จะลงมติ แต่ยังปรากฏว่าทางกมธ.จะขอชี้แจงต่อ ซึ่งประธานที่ประชุมพยายามไกล่เกลี่ยขอไม่ให้กมธ.ชี้แจง เพราะยังมีกมธ.อีกหลายคน ไม่ใช่นั้นจะไม่จบ อย่างไรก็ตาม คณะกมธ.ยังไม่ทันจะได้แสดงท่าที นายพิเชษฐ์ก็ได้สั่งปิดการประชุมทันที ในเวลา 16.58 น. แม้จะมีสมาชิกตะโกนทักท้วง แต่นายพิเชษฐ์ไม่สนใจ ทำให้ญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาฯศึกษาปัญหาและการแก้ไขกฎหมายเพื่อป้องกันธุรกิจอันเข้าลักษณะการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ ที่ต่อคิวอยู่ ต้องเลื่อนออกไปพิจารณาในสัปดาห์หน้าด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พูดแบบนี้ได้ยังไง! อดีตลูกจ้างวอยซ์ ลั่นไม่เห็นใจทักษิณ หลังคดี 112 ถูกอุทธรณ์

อินฟลูเอนเซอร์สายการเมือง และอดีตพิธีกรข่าววอยซ์ทีวีของตระกูลชินวัตร แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ หลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ข

สภาฯ ลงมติเอกฉันท์ 280 เสียง ไฟเขียวกฎหมายนิรโทษกรรม

สภาฯ เอกฉันท์ผ่านร่างกม.นิรโทษกรรม ส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อ “กมธ.” ยืนยันทำร่างกฎหมายละเอียด รอบคอบแล้ว หลังถูกท้วงเลือกนิรโทษกรรมบางกลุ่ม

มติสภาฯ 184 เสียง 'ตีตก' นิรโทษกรรมเยาวชน-ผู้ต้องคดี 112

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข เข้าสู่การพิจารณามาตรา 3 ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้มิให้ใช้บังคับแก่บุคคลที่กระทำความผิดหรือถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดอันมีสาเหตุมาจากการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกใดๆ

ตุลาการภิวัฒน์ นิติสงคราม: จาก 'นั่งลงลูก' ถึงคำพิพากษาที่สังคมตัดสินซ้ำ!

ศาลเคยถูกมองว่าเป็น ตุลาการภิวัฒน์ เมื่อคำพิพากษาพ้องใจกับฝ่ายหนึ่ง และถูกมองว่าเป็น นิติสงคราม เมื่อไม่ตรงใจกับอีกฝ่าย กระทั่งถ้อยคำสั้น ๆ ที่กลุ่มหนึ่งยืนยันว่าได้ยินว่า “นั่งลงลูก” ขณะที่อีกกลุ่มบอกว่า “นั่งลงครับ” ก็ยังถูกขยายเป็นชนวนความระแวง ที่ทำให้ทุกคำพิพากษาไม่เคยหยุดอยู่แค่บัลลังก์ หากยังถูกสังคมตัดสินซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า