ประธานญาติวีรชนฯ ฟันธงที่ดินเขากระโดง เป็นของ รฟท. 

“อดุลย์” ยก คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ตบหน้าแกนนำรัฐบาล บ่ายเบี่ยงปัดความรับผิดชอบ ชี้คำพิพากษาระบุชัดที่ดินเขากระโดง5,083ไร่เป็นกรรมสิทธิ์การรถไฟฯใช้ยันกับ900แปลงได้ หาใช่ผูกพันเฉพาะคู่ความ เตือนกรมที่ดินไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ระดมผู้รักแผ่นดินจัดเสวนาทวงคืนที่ดินพ่อหลวง ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา  4 ธ.ค.นี้

1 ธ.ค. 2567 - นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ผู้ก่อตั้งสภาที่3 กล่าวถึงการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม โยนให้เป็นเรื่องของศาล และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นำทีมกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงคณะกรรมาธิการการที่ดินฯ สภาผู้แทนราษฎรว่ากรณีคำพิพากษาศาลฎีกาผูกพันเฉพาะคู่ความ ส่วนอีก 900 แปลง ต้องพิสูจน์สิทธิ ว่า  วิธีการดังกล่าวส่อเจตนาปัดความรับผิดชอบ  ทั้งที่ตัวเองเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล  ปล่อยให้มีการดูถูกเหยียดหยามกระบวนการยุติธรรม ละเมิดคำสั่งศาลสูงสุดที่มีคำพิพากษาชี้ขาดแล้ว  ดังที่นายณฐพร โตประยูร ได้กล่าวโทษฟ้องร้องข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดิน ต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ร่วมกันฉ้อฉล โกงที่ดิน ของพ่อหลวง ร.5 และร.6 ที่พระราชทานให้แก่กรมรถไฟหลวงเพื่อใช้ประโยชน์แก่ราษฎรและส่วนรวม แต่มีการบ่ายเบี่ยง เพื่อช่วยเหลือพรรคร่วมรัฐบาล ถือว่าสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงด้วย 

นายอดุลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้แม้จะมีความยืดเยื้อมานาน แต่เมื่อมีคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ และศาลปกครองกลาง ทำให้เกิดความชัดเจนเป็นที่ยุติแล้ว เหลือเพียงการบังคับใช้กฎหมายเท่านั้น ดังปรากฎในคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่  ๒๔๙๔/ ๒๕๖๔ คดีหมายเลขแดงที่  ๕๘๒ /๒๕๖๖ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เป็นโจทย์ ฟ้อง กรมที่ดิน จำเลยที่ ๑ อธิบดีกรมที่ดิน จำเลยที่ ๒  ในหน้า ๒๗  ระบุว่า “...ที่ดินทั้งหมดข้างต้นเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่าเป็นการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทับช้อนที่ดินของผู้ฟ้องคดี แม้ในคำพิพากษาของศาลฎีกาทั้งสองคดีและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค๓  จะไม่ได้วินิจฉัยให้เพิกถอนที่ดินแปลงอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ปรากฎเป็นข้อพิพาทในคดีก็ตาม แต่คำพิพากษาดังกล่าวก็ได้วินิจฉัยอย่างชัดแจ้งถึงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงสามารถใช้ยันกับบุคคลภายนอกได้ เว้นแต่บุคคลภายนอกนั้นจะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่า อีกทั้งที่ดินบริเวณที่ศาลมีคำพิพากษากล่าวอ้างถึงมีฐานะเป็นที่ดินของรัฐซึ่งสามารถใช้จัดทำบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปได้ หาใช่มีผลผูกพันเฉพาะคู่ความในคดีตามมาตรา ๑๔๕  แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองกล่าวอ้างแต่อย่างใดไม่..."  ส่วนข้อกล่าวอ้างว่าผู้ฟ้องคดีไม่สามารถจัดหาแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา จึงไม่ใช่เหตุผลที่ผู้ถูกฟ้องทั้งสองจะไม่ดำเนินการตาม มาตรา ๖๑ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินได้ จึงฟังไม่ขึ้น

“เมื่อปรากฏชัดตามคำพิพากษาแล้ว ว่าที่ดินบริเวณเขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ ดังนั้น เอกสารสิทธิ์จำนวน 900 แปลง ที่ออกทับที่ดินของการรถไฟ 5,083 ไร่ จึงเชื่อได้ว่าเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ  จึงไม่ต้องพิสูจน์สิทธิอีก  กรมที่ดินซึ่งเป็นมูลเหตุแห่งปัญหา ต้องเรียกเอกสารสิทธิ์ทั้งหมดมาตรวจสอบทันที หากพบว่าเอกสารสิทธิ์รายใดออกทับที่ดินของการรถไฟฯ ก็สามารถเพิกถอนได้ทันที เว้นแต่ว่าราษฎรรายใดพิสูจน์ได้ว่าอยู่อาศัยมาก่อนพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวง การโยนภาระให้การรถไฟฯไปฟ้องราษฎรเอง ถือเป็นการขัดคำสั่งศาล  ดังที่ท่านอัยการปรเมศวร์ อินทรชุมนุม เตือนสติอธิบดีกรมที่ดิน ว่า ตามประมวลกฎหมายที่ดินม.61  วรรคที่ 8 ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาอย่างไร ให้อธิบดีกรมที่ดิน หรือเจ้าพนักงานปฏิบัติตามนั้น นั่นคือต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดิน  ไม่ใช่ให้ไปพิสูจน์สิทธิ ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่จะโดยมิชอบ” นายอดุลย์ กล่าว

นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า สภาที่3 จะมีการจัดประชุมเสวนาของผู้เกี่ยวข้อง ที่รักชาติ รักแผ่นดิน เอาที่ดินของพ่อหลวง กลับคืนมา ในวันพุธที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลา 13.00 น.-16.00 น.   ณ  ห้องประชุม 14 ตุลา อนุสรณ์14 ตุลา ถนน ราชดำเนิน หัวข้อเรื่อง ทวงคืนที่ดินพ่อหลวง ร.5 โดยวิทยากร ผู้รักแผ่นดิน ประกอบด้วย 1. นายการุณ ใสงาม อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.บุรีรัมย์ 2. นายสาวิทย์ แก้วหวาน   ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) 3.นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย 4. นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน    ร่วมแสดงความคิดเห็นโดยประชาชน ผู้รักแผ่นดิน อาทิ  นายสุวิช ศุมานนท์ ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ (สพ.รฟ.) นายณฐพร โตประยูร นายวิลาศ  จันทร์พิทักษ์ และท่านอื่นๆ จึงเชิญชวนประชาชนผู้รักแผ่นดิน และสื่อมวลชน เข้าแสดงความคิดเห็นร่วมกัน. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บุรีรัมย์'จัดใหญ่ใส่เต็ม 3บิ๊กอีเว้นต์กีฬาระดับโลก 'มาราธอน-โมโตจีพี-รอบเทสต์'ฤดู2026

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วยภาคเอกชน ผนึกกำลังจัดการประชุมเตรียมความพร้อมมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ประจำปี 2569 ได้แก่ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026” ฉลองครบรอบ 10 ปี และรุกหนักแผนรับมือ “พรี-ซีซั่นเทสต์และสนามเปิดฤดูกาล” ต่อเนื่องปีที่ 2 “โมโตจีพี รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2026”  เพื่อวางรากฐานการบริหารจัดการอย่างเต็มระบบ รองรับคลื่นนักวิ่ง-แฟนความเร็วนับแสนสู่ 3 บิ๊กอีเว้นต์ระดับโลก

ร่าง 'จ่าเริง' วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย ถึงบ้านเกิดบุรีรัมย์

ครอบครัว ญาติพี่น้องรับร่าง จ.ส.อ.สำเริง  คลังประโคน วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย กลับสู่บ้านเกิด ในหลวง–พระราชินี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เตรียมพระราชทานเพลิงศพ 24 ธ.ค.นี้ ณ วัด ห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แม่เผย สุดเศร้าหลังจากนี้จะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว  หากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดเป็นลูกแม่อีก

ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน

แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้

ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว

แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก

เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา

เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย

ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ

การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน