'ปกรณ์วุฒิ' ย้อน 'ณัฐวุฒิ' ถาม 'เพื่อไทย' หากต้าน 'รัฐประหาร' ยาก แล้วหาเสียงไว้ทำไม หรือมีอำนาจพรรคอื่นกดไว้ ก็ให้บอกมาตรงๆ โวถ้า 'อดีตก้าวไกล' ไม่เริ่มก็ไม่มีพรรคไหนขยับ
11 ธ.ค.2567 - นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของฝ่านค้านต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ ว่า จริงๆ แล้ว จุดเริ่มต้นมาจากชุดกฎหมายชุดแรก ที่พรรคก้าวไกลได้ยื่นไปตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. 2566 เพียงแต่เพิ่งได้เข้ามาในคิวของสภา เมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.)ก็ขอนำกลับไปพิจารณาภายใน 60 วัน แล้วคืนกลับมาที่สภา ก่อนปิดสมัยประชุมพอดี จากนั้นถึงได้มีการเคลื่อนไหวของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยที่จะยื่นเข้ามาประกบเอง
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ต้องพูดตามตรงว่า ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยื่นเข้าไปในตอนนั้น และไม่ได้เข้าคิวสภาก็อาจจะไม่มีพรรคไหนที่จะเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยตัวเองเลย ซึ่งเราเป็นคนยื่นเอง ดังนั้นเราจึงเห็นด้วยกับเนื้อหาร่างการแก้นี้อยู่แล้ว และร่างของนายประยุทธ์ถือว่าใช่ได้ และค่อนข้างใกล้เคียง แตกต่างเพียงรายละเอียด ซึ่งตนมองว่าเป็นจุดประสงค์หลักของการรับร่างวาระหนึ่ง และเข้าไปพูดคุยกันในกรรมาธิการ
“ขอย้ำว่าพรรคประชาชนเห็นด้วยกับ ร่างของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว อีกทั้งผมเห็นว่า ร่างนี้อาจจะถูกบิดไปแล้ว ไม่ใช่การป้องกันการรัฐประหารโดยตรงขนาดนั้น แต่คือการทำให้กองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีแค่พรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวที่หาเสียงไว้ เพราะพรรคเพื่อไทยก็หาเสียงเรื่องนี้ไว้ว่าการปฏิรูปหรือปรับเปลี่ยนให้กองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยยังมีจุดยืนเช่นนั้นอยู่หรือไม่”นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าโอกาสสำเร็จยาก และอาจจะไม่ได้จำเป็นหรือแก้ได้จริงนั้น มองว่าหากไม่สามารถแก้ได้จริงแล้วพรรคเพื่อไทยจะหาเสียงเรื่องนี้ไว้ทำไม รวมถึงที่บอกว่าสำเร็จยากนั้น นายณัฐวุฒิประเมินจากอะไร เพราะสภามี 500 คน ซึ่งพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนที่ยื่นร่างนี้ไปแล้ว เสียงของทั้ง 2 พรรคก็ผ่านแน่นอน หรือที่ประเมินว่าผ่านได้ยากนั้น เพราะมีอำนาจอื่นๆ หรือพรรคอื่นๆ คอยกดพรรคเพื่อไทยอยู่ ก็บอกมาตามตรง
เมื่อถามว่า หมายความว่าพรรคเพื่อไทยเกรงใจพรรคร่วมอื่นหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องย้อนกลับไปในการเลือกตั้ง ที่เราอยากได้เสียงจากประชาชน และเราก็หาเสียงโดยการนำนโยบายไปเสนอกับประชาชนว่า ถ้าได้รับเลือกเข้ามา เราจะทำอะไรบ้าง หากย้อนกลับไปดูตัวเองว่าตอนนั้นหาเสียงอะไรไว้ ก็คงจะตัดสินใจได้ไม่ยาก ว่าจะทำเรื่องนี้ในสภาอย่างไร จะถอนหรือไม่ถอน และจะลงมติเห็นชอบหรือไม่ ก็ต้องลองไปพิจารณาดู หากคิดว่าจะทำไปตามแนวทางพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงน้อยกว่าพรรคเพื่อไทยครึ่งหนึ่ง ก็ลองดูว่า ประชาชนจะตัดสินอย่างไรในเลือกตั้งครั้งหน้า หากเอาคำพูดในวันนี้ไปเปรียบเทียบกับเวทีปราศัยหาเสียงก็จะรู้ว่ามันไม่สอดคล้องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทยถอนร่างดังกล่าว พรรคประชาชนจะแก้เกมอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า อย่างไรวาระนี้ก็ต้องเข้าสู่สภาอยู่แเล้ว เพราะเป็นร่างที่ยื่นตั้งแต่พรรคก้าวไกล และจะถูกบรรจุเป็นเรื่องด่วนในสภาฯ อยู่แล้ว ซึ่งในวันที่ 18 ธ.ค. หากไม่มีกฎหมายใดที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว หรือมีไม่มาก เรื่องนี้ก็จะอยู่ในเรื่องด่วน และเป็นไปได้ว่าจะเข้าที่ประชุมสภาในสัปดาห์หน้า และเราก็โหวตรับหลักการอยู่แล้ว แต่ก่อนที่จะเข้าสภา เราก็คงต้องสื่อสารประเด็นที่เราอยากจะแก้ให้ทหารอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนอย่างชัดเจนมากขึ้น และการป้องกันการรัฐประหารอาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่สามารถไปแก้ที่จุดอื่นได้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปกองทัพตามที่หลายพรรคการเมืองได้หาเสียงไว้มากกว่า
ส่วนเหตุผลที่หลายพรรคออกมาค้านร่างกฎหมายดังกล่าว ทั้งๆ ที่เป็นประโยชน์กับนักการเมืองนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การที่หลายพรรคออกมาบอกว่า ร่างกฎหมายนี้ต้านไม่ได้ หากเขาจะทำรัฐประหาร เขาก็ฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ตน มองว่าการแก้ สามารถลองดูก่อนได้ ซึ่งการแก้เพื่อมีช่องทางในการป้องกันเอาไว้ ก็ไม่ได้มีใครเสีย หากใช้ไม่ได้ผลก็ไม่ได้ผล แต่ถึงเวลานั้นก็อาจจะได้ผลก็ได้ เพราะหากเกิดขึ้นจริง เราก็ไม่สามารถต้านได้อยู่แล้ว หากลองก็เผื่อจะได้ผล และคงไม่มีนักการเมืองพรรคการเมืองใดออกมาบอกว่าเห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร ไม่เช่นนั้นคงไม่มาตั้งพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นเราพิสูจน์ได้โดยการลองสร้างกลไกบางอย่างให้อำนาจของประชาชนสามารถต่อต้านอำนาจนอกระบบของระบอบประชาธิปไตยได้ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ ที่มีกลไกให้รัฐสภาทำงาน
“ถ้าเราลองสร้างกลไกเอาไว้ มันได้ผลหรือไม่ได้ผลไม่รู้ แต่มันมีกลไกที่ถ้าทำสำเร็จ มันอาจจะต่อต้านอำนาจนอกระบบได้สำเร็จก็ได้” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชน. ค้านนัดโหวตแก้ รธน. วาระ 3 หลังปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ
"ณัฐวุติ" ย้ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ต้องเสร็จก่อนปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ เสี่ยงผิด MOA เชื่อไม่มีเงื่อนไขให้ สว. ควํ่าวาระ 3 เผย หลังโหวตเสร็จ ปชน. เตรียมชง 2 คำถามประชามติให้สภาฯ เคาะทันที
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
สส.ปชน. เรียกร้องรัฐบาลเยียวยาน้ำท่วมภาคกลางให้มีมาตรฐานเดียวกับภาคใต้
"เต้ ทวิวงศ์" จี้รัฐบาลอย่า 2 มาตรฐาน ช่วยน้ำท่วมใต้แล้ว หันมาช่วยน้ำท่วมภาคกลางด้วย บอก "ภราดร" ลองกลับมาถามคนอ่างทอง หากรอการเยียวยาเป็นลำดับถัดไปไหวหรือไม่ เหตุอยุธยาจมน้ำมา 4-5 เดือนแล้ว คนเสียชีวิตไปกว่า 20 ราย ชี้ ชาวบ้านต้องทำมาหากิน ควรมีมาตรการชดเชย-ช่วยเหลือเต็มรูปแบบเหมือนกัน
บก.ลายจุด อวยว่าที่นายกฯ ฝึกงานล้างบ้าน เก็บขยะ มีพัฒนาการที่ดี ลงท้ายแขวะ 'อภิสิทธิ์'
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด โพสต์ภาพนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กำลังล้างบ้านน้ำท่วมที่หาดใหญ่ พร้อมข้อความระบุว่า ใครทนอ่านเรื่องส้มไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน
อึ้ง! คลิปผู้ช่วยสส.พท. สร้างจากเอไอ ยืนแช่น้ำท่วมที่หาดใหญ่ เรียกร้อง ปชน.ตรวจสอบรัฐบาล
เพจเฟซบุ๊ก Cofact โคแฟค โพสต์ข้อความ เรื่อง เนื้อหาที่ตรวจสอบ : คลิปผู้ช่วย สส. ยืนแช่น้ำท่วมที่หาดใหญ่เรียกร้องพรรคประชาชนตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน ระบุว่า
ตาสว่างกันได้หรือยัง ’รักชนก‘ ประจานเพื่อไทยโหนเสื้อแดงหากินไปวัน ๆ
นางสาวรักชนก ศรีนอก หรือ “ไอซ์” สส.กรุงเทพฯ พรรค ประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ตาสว่างกันได้หรือยัง ว่าใครที่ตั้งใจอยากคืนความยุติธรรมให้คนเสื้อแดง ใครแค่


