25 ม.ค.2568 - นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดให้ วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยกระทรวงแรงงาน ได้ออกประกาศ ขอความร่วมมือนายจ้างสถานประกอบกิจการ อนุญาตให้ลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบกิจการ ซึ่งมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งฯ เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ณ หน่วยเลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีชื่ออยู่ โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด เพื่อให้นายจ้างอำนวยความสะดวกแก่ลูกจ้างในการไปใช้สิทธิ โดยกำหนดให้ลูกจ้างสามารถหยุดงานหรือปรับเวลาทำงานเพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ตามกฎหมายเลือกตั้ง
สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ สามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน (วันที่ 25 – 31 ม.ค. 68) และหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน (วันที่ 2 – 8 ก.พ.68) ตามแบบฟอร์มแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น (ส.ถ./ผ.ถ. 1/8) หรือทำเป็นหนังสือซึ่งอย่างน้อยต้องระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้านให้ชัดเจน พร้อมทั้งแจ้งเหตุอันสมควร โดยผ่านช่องทาง ดังนี้
1. ยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยตนเอง 2. ทำเป็นหนังสือมอบหมายให้บุคคลอื่นไปยื่นแทน 3. จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน 4. แจ้งเหตุผ่านเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือแอปพลิเคชัน Smart Vote 5. แจ้งเหตุผ่านเว็บไซต์ของสำนักบริหารการทะเบียน มท. https://stat.bora.dopa.go.th/Election/abscause/#/main
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ทำงานนอกพื้นที่ทะเบียนบ้านของตน สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้โดยสะดวก และเพื่อให้การออกเสียงลงคะแนนเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 117 ที่กำหนดบทลงโทษ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างหากขัดขวาง หน่วงเหนี่ยว หรือไม่ให้ความสะดวกผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกจ้างให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยไม่มีเหตุอันสมควร มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมการเลือกตั้งท้องถิ่นรูปแบบอื่นด้วย หากนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาไม่อำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่มีเหตุจำเป็น อาจเข้าข่ายกระทำความผิดและมีโทษทางกฎหมายนี้เช่นกัน
“การใช้กฎหมายบังคับนายจ้างให้หยุดงาน ไม่สามารถทำได้ เพราะจะกระทบต่อระบบการผลิตและการดำเนินธุรกิจของนายจ้าง ดังนั้น การจัดสรรเวลาให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้งขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละสถานประกอบการ โดยขอให้นายจ้างพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ"
นายคารม ย้ำว่า กฎหมายมีบทลงโทษ สำหรับนายจ้างที่ขัดขวาง หรือไม่อำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร 10 พื้นที่ หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสายด่วน 1506 กด 3 หรือ 1546
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดนิยาม ผู้สมัคร อบต. ต้องนับตั้งแต่ ‘เสนอตัว’ ไม่ใช่วันได้สมัครต่อ กกต.
“ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม” ผ่าปมกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น หลังนักการเมือง อบต.ฮือฮาแจกของช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ระบุชัด สถานะ ผู้สมัคร เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ประกาศตัวลงสนาม ไม่ใช่วันที่ยื่นใบสมัครต่อ กกต. พร้อมเตือ
กกต. ไม่มีปัญหาถ้าพรุ่งนี้ยุบสภา ก็พร้อมจัดการเลือกตั้ง-ทำประชามติ
เลขาฯกกต. กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งอบต. 11 ม.ค.2569 ว่า เราได้ตื่นตัวและสื่อสารไปยังพื้นที่ และหน่วยงานองค์การบริหารส่วนตำบลที่จะทำการเลือกตั้ง รวมทั้งถ้าจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน
กกต. ฟันอาญา 2 กรณี ขัดขวาง-ทำร้ายเจ้าหน้าที่ โทษหนักทั้งจำทั้งปรับ
กกต.มีมติสั่งดำเนินคดีอาญาอดีตสจ.กอล์ฟ -หญิงใช้รองเท้าตบหน้าปลัดอบต.โคกกระเทียม ฐานขัดขวาง-ทำร้ายจนท.โทษหนักทั้งจำทั้งปรับ
ดร.ณัฏฐ์ ชำแหละปมกฎหมายท้องถิ่น ถอยหลังลงคลอง เปิดทางผูกขาดอำนาจ
“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชำแหละ ปมแก้ไขกฎหมายท้องถิ่น กรณีผู้บริหารท้องถิ่น “ลดอายุ” และ “ไม่จำกัดวาระ” ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ผูกขาดอำนาจท้องถิ่น
‘คารม’ สวนสื่อนอก ปมพาดหัว ‘ราชากัญชาไทย’
นายคารมยืนยันคำว่า “ราชากัญชา” ไม่เป็นความจริง ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่า นโยบายกัญชาเสรี เป็นเรื่องที่มีเจตนาดีในการทำให้กัญชามาใช้โดยมีกฎหมายควบคุม
ย้อนเกล็ดหมออ๋อง! 'คารม' ยัน 'อนุทิน' ไม่ยึดติดอำนาจ ไม่เหมือนคนกระสันเก้าอี้รองปธ.สภาฯ
นายคารม พลพรกลาง สมาชิกพรรคภูมิใจไทย อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวพาดพิงนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ในทำนองที่ว่า “นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอยู่ในลิสต์ของนายกรัฐมนตรี


