'หมอเปรม' นำ สว.สีขาว ยื่นญัตติ 'วันนอร์'ส่งศาล รธน.ตีความทำประชามติกี่ครั้ง ก่อนแก้รัฐธรรมนูญ แฉพรรคการเมืองให้ สว.ถอนชื่อออก ซัดเลิกโยนบาปคนเห็นต่าง ชี้เป็นการเมืองเก่า เด็กอนุบาลเขารู้ทัน
13 ก.พ.2568 - นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สมาชิกวุฒิสภา กลุ่มสว.สีขาว ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเวลา 08.30 น. ได้ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2)ต่อนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ร่วมลงชื่อทั้ง สส.และสว. กว่า 40 คน จึงถือว่าเป็นญัตติร่วมกันของสมาชิกทั้ง 2 สภา เพราะวันนี้ที่ประชุมรัฐสภาวันนี้จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และ เพิ่มหมวด 15/1 ของนายพริษฐ์ วัชระสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งพวกตนได้ฟังเสียงของสมาชิกรัฐสภา เห็นว่า มีความเห็นที่แตกต่างกันมากมายที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะการยื่นเพื่อขอให้รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเคยมีมาหลายครั้ง แต่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2564 ระบุชัดเจนว่า การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องมีการทำประชามติก่อน ซึ่งการยื่นแก้ไขในครั้งนี้เราเห็นว่า เป็นการข้ามขั้นตอน ยังไม่มีการทำประชามติ จึงขอให้รัฐสภามีมติให้ไปทำประชามติก่อน ส่วนประชามติจะต้องทำกี่ครั้งก็ยังเป็นความสับสนอยู่ ทำให้เราต้องยื่นญัตติในวันนี้เช่นกัน เพราะยังไม่มีข้อสรุปที่เป็นทางการว่าต้องทำกี่ครั้ง ดังนั้นองค์กรที่จะชี้ขาดว่าจะทำ 2 หรือ 3 ครั้ง คือศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีคำวินิจฉัยแล้วก็จะต้องผูกพันทุกองค์กร และเมื่อมีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตตินี้ ตนจะขออภิปรายถึงเหตุผลในการยื่นต่อไป
เมื่อถามว่า มีการมองว่า การยื่นญัตติครั้งนี้เป็นการขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2564 ได้วินิจฉัยไปแล้วว่าเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อปี 2564 เป็นการวินิจฉัยว่า จะต้องให้ประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเห็นชอบเสียก่อน ในการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ขั้นตอนเห็นชอบ คือการทำประชามติ ยังไม่มีข้อสรุปว่า ต้องทำกี่ครั้ง ตนจึงต้องยื่นญัตติดังกล่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราอะไรที่เป็นความคลุมเครือก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ยืนยันว่าการยื่นครั้งนี้ไม่ซ้ำซ้อนกับการยื่นครั้งก่อน และแตกต่างกัน เพราะครั้งก่อน เป็นการยื่นโดยที่ยังไม่มีการบรรจุญัตติในที่ประชุมัฐสภา แต่ครั้งนี้ยื่นหลังจากประธานสภารับญัตติของนายพริษฐ์ และนายวิสุทธิ์ไปแล้ว
“ยืนยันว่า การยื่นครั้งนี้ไม่ใช่เกมสกัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะพวกผมเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธณรมนูญ สมาชิกสว. กลุ่มสีขาวไมมีใครต่อต้าน แต่อยากให้ทำถูกตามขั้นตอน เข้าตามตรอกออกตามประตู เพื่อที่จะไม่เกิดปัญหาภายหลัง การที่บุ่มบ่ามกระทำการใดๆ โดยไม่คำนึงถึงขั้นตอน ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ เราเป็นวุฒิสภา ต้องมีวุฒิภาวะในการแก้ปัญหา” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าอย่างนี้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทันสมัยการประชุมนี้หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องไปบอกว่าให้ทันการเลือกตั้งปี 2570 คนที่จะกำหนดว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทันปี 2570 ตนคิดว่าน่าจะมีความคิดเผด็จการมากกว่า จะไปทึกทักเอาตามใจได้อย่างไร รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด จะทำแบบเล่นขายของ แก้กฎหมายเล็กๆ ไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องบอกว่าให้ทันการเลือกตั้ง เพราะประชาชนไม่ได้มีผลประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง มีแต่พรรคการเมืองที่พยายามกำหนดให้ได้ตามใจของตนเอง ให้ทันการเลือกตั้งปี 2570
ต่อข้อถามว่า มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความครั้งนี้ เหมือนเป็นการแบ่งกลุ่มออกมาจากสว.สีน้ำเงิน นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า สว.สีน้ำเงินเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าตนมีความคิดอิสระ และไม่มีใครมาควบคุมการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ ส่วนสว.สีน้ำเงิน ท่านจะทำอย่างไรก็สุดแล้วแต่ท่าน ตนไม่ก้าวล่วง มีแต่สว.สีน้ำเงินที่มาก้าวล่วงพวกตน
“รู้หรือไม่ครับ มีการบีบให้สมาชิกวุฒิสภาถอนตัวจากญัตตินี้ แต่มีจำนวนหนึ่งที่ถอนตัว ผมก็ไม่ว่า ท่านอาจจะเข้าใจผิด โดยอาจจะเข้าใจถึงขั้นว่าลงชื่อประชุมก็มีความผิด ตรงนี้ผมคิดว่า เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง เพราะการลงชื่อเข้าประชุม เป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน และการลงมติในสภา ก็เป็นสิทธิของทุกท่าน ไม่ใช่ว่าลงมติแล้วจะถูกถอดถอน หรือมีความเสี่ยง ผมอยากเตือนคนให้ข้อมูลที่ผิดนี้ ผมขอให้กลับไปอ่านหนังสือเสียใหม่ เพราะมันไม่ใช่ ถ้าคุณไม่เข้าประชุมถือเป็นการไม่รับผิดชอบทางการเมืองต่อประชาชน ประชาชนเขาให้มาทำงาน และการทำงานของนักการเมืองคือการเข้าประชุม แล้วจะมีความผิดได้อย่างไร ถ้าไม่เข้าประชุมถือว่าผิด หากไม่ลงมติ ก็ต้องถามว่าทำไม เพราะสามารถลงมติได้ทั้ง 3 แบบ คือ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย การที่มาโยนพวกตนให้เข้ากับพรรคการเมือง เป็นการกระทำแบบเก่าๆ ขอให้เลิกทำเสียเถอะ ลูกไม้ทางการเมืองแบบนี้ เด็กอนุบาลก้าวตามทันแล้ว ใครคิดไม่ตรงกับตัวเอง ก็หาว่ามีเบื้องหลัง คนที่กล่าวว่าการประชุมแก้ไขรัฐธรมนูญเป็นการกระทำที่หมิ่นเหม่ ผมคิดว่า นั่นแหละที่เป็นการกระทำน่าละอายมากกว่า”นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
ดุเดือด ‘ปิยบุตร’ จัดเต็มพวกชั่ว จิตใจต่ำ หาพรรคส้มรับ 2 พันล้านแลกโหวตอนุทิน!
เดือดพลั่ก “ปิยบุตร” จัดหนักจัดเต็มโต้กระแสลือเงิน 2,000 ล้านบาทแลกโหวตนายอนุทินเป็นนายกฯ ชี้เป็นพฤติกรรมของพวกชั่ว จิตใจต่ำที่ใช้มาตรฐานมืดของตัวเองไปตัดสินคนอื่น ย้ำพรรคประชาชนรู้ว่าจะเสียคะแนนแต่ยอมแลกเพื่อปลดล็อกแก้รัฐธรรมนูญ
คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี
อย่าประมาท 'บุรีรัมย์โมเดล' หลังพยานกลับคำ 'คดีฮั้ว สว.'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า คดีฮั้ว สว. อย่าประมาท กรณีพยานกลับคำ
มท.ถอนสัญชาติไทยก๊อกอันพร้อมลูก 3 คน!
มท.เดินหน้าถอนสัญชาติไทย 'ก๊อกอัน' สว.เขมร พร้อมลูก 3 คน หลังพบโยงธุรกิจสีเทา สแกมเมอร์ - กาสิโน - ค้ามนุษย์ และฟอกเงิน


