'อิ๊งค์' ลุยสระแก้ว ล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 28 ก.พ. จ่อฟัน 'ขรก.' พัวพันอีกรอบ!

นายกฯ แพทองธารย้ำเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผยความร่วมมือจากจีน-เมียนมาคืบหน้า พร้อมลงพื้นที่สระแก้ว 28 ก.พ.นี้ ด้านภูมิธรรมรายงาน ครม. จ่อฟันข้าราชการพัวพันอีกระลอก ส่วนดีอีเร่งตัดสัญญาณผิดกฎหมายตามแนวชายแดนทุกจุด

25 ก.พ. 2568 – เวลา 11.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุมได้ข้อสรุปถึงมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะการปิดช่องทางตามแนวชายแดน 14 จังหวัด ซึ่งขณะนี้มีการจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมากและได้รับความร่วมมืออย่างดีจากรัฐบาลจีนและเมียนมา นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ยังได้รายงานความคืบหน้าในการรื้อถอนเสาสัญญาณบริเวณชายแดนที่ใช้เป็นช่องทางกระทำผิด พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจริงจังกับการจัดการปัญหานี้ทั้งในประเทศและร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ จีน เมียนมา และกัมพูชา โดยในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ตนจะลงพื้นที่จังหวัดสระแก้วเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ด้วยตนเอง พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาให้หมดไปโดยเร็ว ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าการปราบปรามครั้งนี้จะ “ไม่จบไม่เลิก” จนกว่าปัญหาจะหมดไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงจำนวนเครือข่ายที่ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เครือข่ายเหล่านี้มีอยู่ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาในประเทศและการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะหากไม่เริ่มจากจุดนี้จะไม่สามารถสืบหาต้นตอได้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหลายประเทศที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ รายงานสถานการณ์และมาตรการป้องกันปัญหาตามแนวชายแดน เนื่องจากขณะนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ขยายเครือข่ายจากฝั่งเมียนมาไปยังชายแดนลาวและกัมพูชา โดยในวันที่ 28 ก.พ.นี้ นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ใกล้ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย ของกัมพูชา เพื่อติดตามปัญหาและประสานความร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รายงานในที่ประชุมว่า การปราบปรามตามแนวชายแดนฝั่งตะวันตกที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะการดำเนินการกับข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีคำสั่งโยกย้ายและตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อเอาผิดไปแล้วหลายราย แต่การสืบสวนยังพบว่ามีข้าราชการอีกจำนวนไม่น้อยที่อาจพัวพันกับเครือข่ายเหล่านี้ โดยคณะทำงานกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อออกคำสั่งลงโทษในระลอกต่อไป

สำหรับการประสานงานกับรัฐบาลเมียนมาถือว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการส่งตัวผู้ต้องสงสัยจำนวนหลายพันคนที่ถูกจับกุมในฝั่งเมียนมา ซึ่งเป็นบุคคลหลายสัญชาติ แต่การส่งตัวกลับมีความล่าช้าเนื่องจากต้องคัดกรองและทำประวัติของผู้ต้องหาแตกต่างจากกรณีของจีน ที่เมื่อคัดกรองเสร็จจะสามารถส่งเครื่องบินมารับกลับประเทศได้ทันที อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยกำลังเร่งประสานงานเพื่อคัดกรองและแยกสัญชาติของผู้ต้องหาเหล่านี้เพื่อแจ้งต่อประเทศต้นทางต่อไป

นายภูมิธรรมยังรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้จะมีการติดตามการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคเหนือที่มีพรมแดนติดกับประเทศลาว เนื่องจากพบว่าเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์เริ่มขยายตัวเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น ส่วนกรณีของกัมพูชาได้รับการประสานความร่วมมือจากรัฐบาลกัมพูชาอย่างใกล้ชิดในการกวาดล้างและจับกุมเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งจะมีการรายงานความคืบหน้าในการประชุม ครม. ครั้งต่อไป

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ รายงานว่าขณะนี้ได้ดำเนินการตัดสัญญาณสื่อสารที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนทุกจุดที่มีการตรวจพบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์แล้ว นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งของรัฐและเอกชนร่วมกันตรวจสอบการส่งสัญญาณ พร้อมทั้งลดความสูงของเสาส่งสัญญาณและหันสายอากาศกลับเข้ามาในประเทศไทยเพื่อลดการแพร่สัญญาณข้ามพรมแดน นอกจากนี้ ยังมีการจัดรถสายตรวจเพื่อสแกนความถี่โทรศัพท์มือถือที่อาจใช้ในการกระทำผิด หากพบว่ามีสัญญาณจากต่างประเทศรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทยจะทำการบล็อกสัญญาณทันที เพื่อปิดช่องทางการสื่อสารของเครือข่ายเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาพเก่าถูกยกมาปั่น! เกมเบี่ยงศึกสแกมเมอร์หมื่นล้านในยุคอนุทิน

วันที่ภาพเก่าหลายเฟรมของ “เบน สมิธ” ถูกดันกลับขึ้นมาในโซเชียล คือวันเดียวกับที่ ปปง. แถลง ยึด-อายัดทรัพย์ 289 รายการ มูลค่ากว่า 10,165 ล้านบา

'อนุทิน' ขึงขังห้ามทำลายเกียรติภูมิ-รุกล้ำ!

นายกฯ กร้าว! ห้ามรุกล้ำ ห้ามย่ำยี ห้ามทำลายเกียรติภูมิและคนไทย ปมชายแดนบ้านหนองจาน ปัดขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาต้องย้ายออกก่อนยุบสภา ย้ำความมั่นคงไม่มีกรอบกำหนด

'เอม' เผยทักษิณ 'เสียใจ-เจ็บช้ำ' หลังอัยการอุทธรณ์คดี 112 ส่วน 'โอ๊ค' จิตตก!

"พินทองทา" เผยทักษิณเจ็บช้ำต่อกรณีอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดี 112  บอกต้องคุยวางแผนสู้คดี พร้อมห่วงสภาพจิตใจพ่อ เพราะอยู่ในเรือนจำตามลำพัง ขณะที่ "พานทองแท้" ยอมรับจิตตก แต่ขอบคุณกำลังใจจากประชาชน

'วุฒิภาวะผู้นำ' ที่เพื่อไทยเรียกหาวันนี้ คือสิ่งที่เคยทำหล่นในวันที่เป็นรัฐบาล

ทันทีที่สหรัฐฯ ประกาศ “ระงับ” การเจรจาภาษีการค้ากับไทย สิ่งที่ควรเป็นการตั้งสติและประเมินสถานการณ์ กลับถูกดึงไปเป็นเรื่องการเมืองในพริบตา