ประธานวิปฝ่ายค้าน ไม่เห็นด้วยรัฐบาลเร่งรีบผลักดันร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสภาฯ ชี้ ครม. สั่งเร่งเคลียร์กฎหมาย ต่อให้ดันทุรัง-ลุยไฟ ก็ต้องทำ อ้างยังไม่เห็นตัวร่างรายละเอียด ปัดตอบเห็นด้วยหรือไม่ ย้อนศร "วิสุทธิ์" ไหนบอกเรื่องวันเวลาต้องนัดกันในวิป แต่คราวนี้กลับเพิ่มวันประชุมเอง
1 เมษายน 2568 - ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ประชุมเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex โดยระบุว่า ตอนนี้ปัญหาคือตอนนี้เราไม่รู้จะคุยอะไร เพราะเพิ่งมีการประชุมวิปรัฐบาลไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา และเรายังไม่มีโอกาสเรียกหน่วยงานเข้ามาชี้แจง และยังไม่ได้รับเอกสารตัวร่างล่าสุด เพราะมีตัวร่างที่ยื่นเข้ามาตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งก็ไม่เหมือนกัน เนื่องจากมีการแก้ไขทั้งหลักการและเหตุผล ยังไม่รู้ว่าตัวร่างสุดท้ายจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่วิปฝ่ายค้านจะมาพูดคุยกันว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ต้องรอหน่วยงานเข้ามาชี้แจงและรอเอกสาร ซึ่งก็ได้มีการทำหนังสือประสานขอร่างดังกล่าวมาแล้ว
เมื่อถามว่าเหมือนทางวิปรัฐบาลอยากให้บรรจุเข้าสู่การพิจารณาเร็ว แต่เหลืออีก 2 สัปดาห์ก็จะปิดสมัยการประชุม นายปกรณ์วุฒิระบุว่า ตั้งแต่ที่มีการเลือกตั้งเสร็จ และเปิดประชุมสภาฯ มา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้เสนอในสภาว่า เราควรจะพิจารณากฎหมายสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งอาจเป็นแค่บางสัปดาห์ก็ได้ หรือบางสัปดาห์อาจมีการนัดประชุม 3 วัน โดยที่ 2 วันจะเป็นการพิจารณากฎหมาย และอีก 1 วันเป็นกระทู้ถาม แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด เมื่อขอประชุมเพิ่มก็ตกลงว่าเป็นการพิจารณาญัตติ ไม่เคยรับว่าจะเป็นการพิจารณากฎหมาย ที่ผ่านมาก็ไม่มีการพิจารณากฎหมายสัปดาห์ละ 2 วันเลย
“แต่ถ้าให้เดา เขาคงไม่สามารถจะรักษาองค์ประชุมตัวเองได้ในวันอื่นที่ไม่ใช่วันพุธ จึงไม่ยอมพิจารณากฎหมาย 2 วันเลย แต่จู่ๆ เมื่อมีร่างกฎหมายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ค้างอยู่มาก และเข้าใจว่า ครม. คงประสงค์ และสั่งมาว่า ให้เคลียร์ร่างกฎหมายทั้งหมด โดยเฉพาะร่างกฎหมาย Entertainment Complex อย่างไรก็ต้องทำให้เสร็จให้ได้ จะลุยไฟหรือจะดันทุรังแค่ไหน ก็ต้องไปให้ได้ ซึ่งผมไม่เห็นด้วย”
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อไปว่า เราไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหา แต่เราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการที่จะมาเร่งรัดกันเช่นนี้ ในสถานการณ์ที่ผมมองว่าไม่เหมาะสมด้วยซ้ำ และไม่ได้เร่งด่วนด้วย มันจะเร่งด่วนได้อย่างไร ในเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังไม่ได้ทำผลการศึกษาความเป็นไปได้เลย รอให้กฎหมายผ่านแล้วค่อยทำ ซึ่งหากกฎหมายผ่านและจึงทำผลการศึกษาความเป็นไปได้แล้วพบว่า ไม่ควรทำ แล้วจะว่าอย่างไร จะรับผิดชอบอย่างไร และหากดันทุรังทำหลังจากผลการศึกษาออกมาแล้ว และบอกว่าไม่คุ้มค่า แล้วทำต่อ ก็จะอยู่กับเราอีกนาน นี่คือการเร่งรัดและไม่รอบคอบ รัฐบาลที่มีงบประมาณยังประเมินโครงการไม่เสร็จเลย แล้วจะรีบทำกฎหมายไปทำไม
“ผมว่าเราปล่อยตามธรรมชาติ ในเมื่อเราเคยเสนอแล้วว่าให้พิจารณากฎหมายเยอะหน่อย เพื่อให้สามารถพิจารณากฎหมายของ สส. ด้วย แต่ก็ไม่เคยมีการตอบรับเลย แล้วอยู่ดีๆ จะมาเร่งรัดเอาโดยที่ทุกฝ่ายไม่พร้อม เราเองก็ยังไม่ทราบรายละเอียดอะไรเลย จึงคิดว่า ไม่เห็นด้วย หากไม่ทันปิดสมัยประชุมนี้ แล้วคิดว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนจริงๆ จะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญก็ให้มาเจรจากัน และ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่านก็บอกว่า เรื่องการนัดประชุมทั้งวันและเวลา เป็นเรื่องในวิป ไม่ใช่มาพูดเองแล้วจะเอาเช่นนั้นเช่นนี้ นี่ก็เหมือนกัน ผมไม่เห็นด้วย แล้ววิปรัฐบาลว่าอย่างไร หรือสุดท้ายแล้วไม่ต้องเรียกประชุมวิปก็ได้ เมื่อสุดท้ายวิปรัฐบาลจะเอาอย่างไรก็จะเอาอย่างนั้น ผมคิดว่าไม่สมเหตุสมผลเลย”
เมื่อถามถึงท่าทีของฝ่ายค้านหากรัฐบาลยืนยันจะนำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์นี้ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในการจะดัน ขอแยกเรื่องออก คือ เรื่องกระบวนการ แน่นอนว่าเราต้องคัดค้านอย่างเต็มที่ทุกวิถีทางที่เราทำได้ ซึ่งหลายเรื่องอาจเป็นอำนาจของประธานสภา อาจจะไม่ใช่อำนาจของเราโดยตรง และต้องยอมรับว่าเราเป็นเสียงข้างน้อย ลงมติอย่างไรเราก็แพ้ แต่อย่างน้อยสังคมต้องได้รับรู้ ว่าเรื่องนี้ไม่ปกติแน่นอน เราจะพยายามคัดค้านเท่าที่อำนาจเราจะสามารถทำได้ และทุกครั้งที่ประธานสภาจะนัดประชุมเพิ่ม หรือจะให้วันเวลาเท่าไรนั้น ประธานสภาจะใช้หลังพิงวิป 2 ฝ่ายเสมอ แต่หากครั้งนี้ประธานสภาจะใช้อำนาจของตัวเองโดยที่วิปฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย ก็ต้องตั้งคำถามดังๆ อีกครั้ง และขอแจ้งประธานสภาผ่านสื่อตรงนี้ว่า ฝ่ายค้านมีมติไม่เห็นด้วยที่จะนัดประชุมเพิ่ม เนื่องจากเรายังไม่มีรายละเอียดของร่างกฎหมายฉบับนี้
เมื่อถามว่าจะถึงขั้นวอล์กเอาท์ ไม่เป็นองค์ประชุมเลยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องหารือกันอีกครั้งเพราะมีหลายวิธี พร้อมย้ำว่า ตอนนี้เรายังไม่ได้เอกสารอย่างเป็นทางการ ตอนนี้อยู่ที่ไหน จะบรรจุวันที่ 3 เม.ย. แล้วจะให้เราพิจารณาวันที่ 4 เม.ย. เลยหรือ ทั้งที่เรายังไม่เห็นความเห็นของหน่วยงานต่างๆ เลย
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้มีรายละเอียดอยู่ เราจะมองแค่ว่าเราเห็นด้วยกับกาสิโน หรือเห็นด้วยกับ Entertainment Complex หรือไม่นั้น ไม่เพียงพอ เพราะในรายละเอียดต้องมีเนื้อหาว่าป้องกันการทุจริตด้วยหรือไม่ ป้องกันความเสียหายได้ดีพอหรือยัง จุดประสงค์หลักจริงๆ เป็นไปเพื่ออะไร ดังนั้น จำเป็นที่เราจะต้องเห็นร่างทั้งหมดก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูวิทย์ ฟันธงเลือกตั้งครั้งหน้าคนเท ‘พรรคส้ม’
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสส. หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ
'อนุทิน' ยังนิ่ง! ไม่ตอบโต้ 'เท้ง' ปิดประตูร่วมรัฐบาลกับภูมิใจไทย
"อนุทิน" บอกหลังเลือกตั้งพร้อมจับมือกับพรรคที่สร้างประโยชน์ให้บ้านเมือง ไม่อยากพูดก่อน ผลลต.ออก เดี๋ยวทำไม่ได้ใครพูดก่อนต้องกลืนน้ำลาย
ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)
'โรม' โวยโดนปั่นกระแส 'ทหารมีไว้ทำไม' หวังดิสเครดิตเลือดตั้ง ลั่น ปชน.แค่อยากเห็นทหารอาชีพ
'โรม' เดือดซัด 'นักการเมือง' ฝั่งตรงข้าม ใช้เหตุปะทะชายแดนมาโจมตีพรรคส้ม กล่าวหา 'ปชน.' เกลียดทหาร ฉะ นักการเมือง-ข้าราชการสีเทา เอื้อประโยชน์แก๊งสแกมเมอร์-กินเงินเดือนจาก 'ฮุน เซน'
ปชน. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. 5 เขตจังหวัดพิษณุโลก ส่ง 'ณฐชนน' แก้มือเขต 1 อีกรอบ
พรรคประชาชนจังหวัดพิษณุโลกจัดการประชุมไพรมารีโหวต (Primary Vote) เพื่อรับรองว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค
รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม
พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า

