“ดร.ณัฏฐ์” เผยปมฮั้ว สว. คดีเพิกถอนสิทธิ หาก ”กกต.” เรียกให้มาชี้แจง หากไม่มา ถือว่าสละสิทธิ์ต่อสู้ ออก ”หมายจับ“ ไม่ได้ ส่วนกรอบเวลา ต้องสืบสวน-ไต่สวน ภายใน 1-ปีนับแต่ประกาศผลการเลือก สว.
13 พฤษภาคม 2568 - สืบเนื่องจาก ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. ประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ได้แจ้งให้ สว.ตัวตึง จำนวน 6 ราย และบุคคลอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36 มาตรา 77(1) และมาตรา 62 ต่อมา จนท.สืบสวนฯ กกต.พร้อม DSI เปิดปฎิบัติการพิเศษพร้อมสื่อมวลชน เล่นใหญ่ นำหนังสือแจ้งให้รับทราบข้อกล่าวหาไปส่งให้ตามภูมิลำเนาของสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกกล่าวหา ตามที่สื่อนำเสนอ ทั้ง นาย อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์ว่า ระยะเวลาในการสืบสวน-ไต่สวน วินิจฉัยชี้ขาดของ กกต. สามารถขยายเวลาได้แม้พ้นระยะเวลา 1 ปี นั้น
ล่าสุด ”ดร.ณัฏฐ์“ ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ให้ความเห็น เพื่อประโยชน์สาธารณะ ว่า (1)ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน หรือการไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 ได้กำหนดวิธีการแจ้งข้อเท็จจริงให้แก่ สว.ผู้ถูกกล่าวหาตาม ข้อ 54 วรรคสาม ได้ กำหนดวิธีการแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหา 3\วิธีการ คือ (1)ส่งไปรษณีย์ตอบรับ (2)ส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ และ (3)แจ้งวิธีการปิดหมาย
วิธีการปิดหมาย ให้ปิดบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาและหนังสือเชิญมาให้ถ้อยคำไว้ในที่มองเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนา โดยให้มีเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองในท้องถิ่น หรือเจ้าพนักงานตำรวจเป็นพยานร่วมด้วยอย่างน้อย 1 คน และให้ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหาและกำหนดนัดดังกล่าวนับแต่ได้ดำเนินการปิดหมายแล้ว
แต่กรณีที่ปรากฏตามข่าว ในการปิดหมายหนังสือเชิญมาชี้แจง กลับกระทำเล่นใหญ่ ลักษณะเชิงปฏิบัติการ นำเสนอผ่านสื่ออย่างครึกโครม โดยระเบียบให้มีเจ้าพนักงานร่วมอย่างน้อย 1 คน กลับยกกันไปเป็นขโยงเป็นกองทัพทั้ง จนท.กกต.และ DSI เยี่ยงผู้ร้ายสำคัญ ถามว่า เจตนาประจานผู้ถูกกล่าวหา ก่อให้เกิดความเสียหายกระทบต่อชื่อเสียง หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา จะส่งทางไปรษณีย์ ตอบ-รับ
(2)ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหา ไม่มารับทราบและชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหาและไม่ประสงค์ที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
ให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนบันทึกเหตุดังกล่าวไว้ในสำนวนการไต่สวน แล้วดำเนินการต่อไป ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา แต่ไม่ยอมลงลายมือชื่อรับทราบข้อกล่าวหาให้บันทึกเหตุดังกล่าวไว้ในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาด้วย และให้รวมไว้ในสำนวนการไต่สวน เป็นไปตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน หรือการไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 ข้อ 56
คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ไม่ต้องแจ้งซ้ำอีกครั้งเพราะถือว่าปิดหมาย ตามระเบียบฯให้ถือว่า รับทราบโดยชอบ
การไม่ปฎิบัติตามหนังสือแจ้งให้ทราบข้อกล่าวหาในคดีเพิกถอนสิทธิฯ ไม่สามารถออกหมายจับได้ เพราะหนังสือแจ้งให้ทราบข้อหา ไม่ใช่หมายเรียกผู้ต้องหาคดีอาญา
ส่วนข้อที่ถามว่า ระยะเวลาสืบสวนหรือไต่สวน คดีฮั้ว สว.ที่ถกเถียงกันมีระยะเวลาเท่าไหร่ ขยายได้หรือไม่
ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า ตาม พรป.ว่าด้วย กกต. พ.ศ.2560 และ พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ไม่ได้กำหนดวิธีพิจารณาคดีเลือก สว.ไว้ โดย กกต.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญและ พรป.ที่เกี่ยวข้อง ที่เรียกว่า ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน หรือการไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561
ปัจจุบัน กกต.ได้มีการออกระเบียบล่าสุด เป็น ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน หรือการไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 3)พ.ศ.2566 ซึ่งเป็นปัญหาว่า อายุความในการสืบสวนหรือไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด ในคดีฮั้ว สว.มีระยะเวลาเท่าไหร่กันแน่
ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า กระบวนพิจารณาไต่สวน ชั้น กกต. ไม่ว่าชั้น คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คดีอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้ง มีกรอบเวลาในการสืบสวน หรือไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด ของ กกต.ระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศผลการเลือก สว.ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน หรือการไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 3 )พ.ศ.2566 ข้อ 92
ที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์ว่า ระยะเวลาสามารถย่น-ขยายได้นั้น ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า ตนมองเห็นต่าง และยึดหลักกฎหมาย มิใช่ให้สัมภาษณ์ให้พ้นจากตนเอง เพราะอายุความในการไต่สวนระบุไว้ชัดในมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่ง พรป.กกต. ให้การไต่สวนและดำเนินคดีได้ตามระเบียบ กกต.ที่กำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการและขอบแห่งหน้าที่และอำนาจของผู้แต่งตั้งตามระดับไว้ให้ชัดเจน จึงต้องยึดเรื่องเวลาข้อ 92 ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน หรือการไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 3 )พ.ศ.2566 ระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศผล
ตามที่นักกฎหมายหลายฝ่ายนั้น อ้างว่า ไม่มีอายุความ นั้น น่าจะไม่ใช่ เพราะระยะเวลา อายุความ ที่มีโทษทางอาญา ย่อมกำหนดไว้ แต่คดีเลือกตั้ง หรือการเลือก สว มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากคดีอาญาทั่วไป
ที่กำหนดไว้ในระเบียบฯ เป็นการเพิกถอนสิทธิ สว. หรือผู้สมัคร สว. มีโทษทางอาญา มิใช่ทางแพ่ง “กรอบเวลา“เป็นการให้อำนาจ กกต. แต่ผู้ถูกกล่าวหา ย่อมถูกจำกัดสิทธิ และกระทบสิทธิผู้กล่าวหา เสมือน ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ตาม ป.วิอาญา
ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน หรือการไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 ข้อ 82 เดิม ไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้
แต่ ในระเบียบ ฉบับใหม่ (ฉบับที่ 3) 2566 ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ใน ข้อ 92 ที่กำหนดว่าเลขาธิการ กกต.เสนอสำนวนการสืบสวน หรือไต่สวน ที่ให้ดำเนินการตามระเบียบนี้ต่อ กกต.โดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง
กระอำนวยความยุติธรรมในคดีเลือกตั้งหรือการเลือก สว.ใช้ระเบียบฉบับเดียวกัน ประหนึ่ง กฎหมายวิธีพิจารณา เพราะกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุล ในคดีที่ กกต.รับสืบสวนและไต่สวน มี 3 ชั้น ในชั้นคณะกรรมการวินิจฉัยและ กกต. มีอำนาจ ยืน ยก กลับ แก้ ในคำวินิจฉัยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้
ระยะเวลา ตามระเบียบข้อ 92 เป็นดั่งอายุความ หากพ้นกำหนดเวลา การขยายเวลา เปิดช่องให้ผู้ถูกกล่าวหายกเป็นข้อต่อสู้ได้ เพราะการขยายระยะเวลาไต่สวนเกินระยะเวลา เท่ากับเป็นการขยายเวลาที่เป็นโทษแก่ผู้กล่าวหา ไม่อาจย้อนหลังได้ เพราะ ปอ.มาตรา 2 วรรคหนึ่ง ไม่สามารถขยายระยะเวลา อันเป็นโทษย้อนหลังได้
ระเบียบฯ ข้อ 92 กกต.ต้องสืบสวนหรือไต่สวนไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง หากพิจารณาในแง่กฎหมายปกครองย่อมมีสถานะเป็น “กฎ”เพราะเป็นบทบัญญัติมีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายบังคับแก่บุคคลใดโดยเฉพาะ ทั้งสภาพกฎยังมีผลใช้บังคับอยู่ ตามบทนิยาม มาตรา 5 แห่ง พรบ.วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ประกอบ บทนิยาม คำว่า“กฎ”ตามมาตรา 3 แห่ง พรบ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาปกครอง พ.ศ.2542
หาก กกต.ไม่วินิจฉัยชี้ขาดภายใน 1 ปี เท่ากับปล่อยผู้กระทำความผิด เปิดช่องให้ผู้ถูกกล่าวหา ยกระยะเวลาขึ้นต่อสู้ได้
ศรนั้นจะกลับไปที่ กกต.เพราะเป็นการช่วยเหลือผู้ต้องหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบอันเป็นการกระทำผิดอาญามาตรา 157 ประกอบ พรป.ปปช.
เหตุเป็นเช่นนี้ เนื่องจากการกระทำฝ่าฝืนมาตรา 77(1) พรป.สว.มีโทษทางอาญา
ประกอบกับกฎหมายมหาชน แตกต่างจากกฎหมายเอกชน เพราะการใช้อำนาจรัฐ มิใช่ความเท่าเทียมดังกฎหมายเอกชน “ถ้าไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ ไม่สามารถทำได้”
ทั้งการที่จะขยายระยะเวลาได้ ต้องมีเหตุจำเป็นมิอาจก้าวล่วงได้ หรือเหตุสุดวิสัยตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งมิใช่เกิดจากกระบวนการไต่สวน ของเจ้าหน้าที่ เพราะความล่าช้า เป็นการปฎิเสธความยุติธรรม หาก กกต.อาศัยช่วงใกล้คดีขาดอายุความ ในคดีเพิกถอนสิทธิฯ แตกต่างอายุความใน ปอ.มาตรา 95 ย่อมเปิดช่องให้ สว.สีน้ำเงิน ผู้ถูกกล่าวหายกระเบียบฯต่อสู้ในชั้นพิจารณาของศาลฎีกาได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ร้องข้ามกำแพงคุก!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ร้องข้ามกำแพงคุก!! ห้องข่าวไทยโพสต์ : ประจำวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เทนนิสตั้งเป้า4เหรียญทองซีเกมส์ 'ดร.ณัฏฐ์'ชื่นชมการบริหารงานสมาคมฯ
ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา มอบกำลังใจทีมเทนนิสซีเกมส์ของไทย หลังชมการฝึกซ้อม ที่ทางสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ตั้งเป้าหมายไว้ 4 เหรียญทอง ชมเปาะสมาคมฯ มีการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม พร้อมแนะแนวทางในการประชาสัมพันธ์ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ควรเร่งเครื่องให้คนไทยได้ร่วมรับรู้ เพื่อมาชมและเชียร์ เป็นการให้กำลังใจนักกีฬามากกว่านี้
🛑LIVE คิด - วิเคราะห์ - แยกแยะ!! ภาพร่วมเฟรม 'เจ้าพ่อสแกม' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ :วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้


