ดร.ณัฏฐ์ ชี้ ปม "สส.กฤษฎิ์" แถลงยุติบทบาท เนื้อหาเจตนารมณ์ มิใช่หนังสือลาออก ยังไม่ขาดจากเป็น สส.
14 พฤษภาคม 2568 - สืบเนื่องจาก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงถึงการยุติบทบาทของน.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ถึงความเคลือบแคลงสงสัยในหนังสือที่ยุติบทบาทกับพรรคประชาชนกับคำแถลงต่อสาธารณะมีความขัดกัน ว่าเป็นการลลาออกจากสมาชิกพรรคประชาชนหรือไม่ นั้น
ล่าสุด ดร.ณัฏฐ์ ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้อธิบายให้ความเข้าใจทางด้านกฎหมายมหาชน โดยระบุว่า (1)เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมาตรา 97(3) ประกอบ มาตรา 41(3) แห่ง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.พ.ศ.2561 ให้ผู้สมัคร สส.สังกัดพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง แต่เพียงพรรคการเมืองเดียว
(2)สมาชิกภาพ สส.สิ้นสุดลง ได้บัญญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (3)กรณีลาออก (5)ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 97 (8)ลาออกจากพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก
(3)ระหว่างดำรงตำแหน่ง สส.ห้ามทำการย้ายพรรค เว้นแต่พ้นจากเป็นสมาชิกการเมืองโดยมติพรรคขับออก ด้วยคะแนน 3 ใน 4 ของที่ประชุม กก.บห.และ สส.ที่สังกัด ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(9) หรือคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมืองนั้น มาตรา 101(10)
(4)การลาออกจากสมาชิกพรรค อาจเกิดกรณีประกาศหรือแถลงลาออกต่อสาธารณะ หรืออีกกรณีหนึ่ง ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคที่สังกัดโดยยื่นต่อพรรค หรือนายทะเบียนพรรคการเมือง กกต.
(5)หนังสือแจ้งยุติบทบาทกับพรรคโดยยื่นต่อหัวหน้าและ กก.บห.ก่อนแล้วไปแถลงให้สาธารณชนทราบ ยังไม่ถือว่า เป็นการลาออกจากสมาชิกพรรค เพราะต้องดูรายละเอียดหนังสือทั้งฉบับและเจตจำนงแท้จริง ประกอบการพิจารณา
(6)แม้เจตนารมณ์ของผู้นั้นขอให้ขับออก จากสมาชิกพรรคเพื่อไปสังกัดพรรคการเมืองเป้าหมายใหม่ อาจเกิดตัวแปรใดก็ตาม
พรรคการเมืองนั้นจะไม่ปฎิบัติตามก็ได้ เพราะเป็นดุลพินิจของ กก.บห.ที่จะเรียกประชุม เพื่อขับออกหรือไม่ก็ได้
อาจใช้วิธีดองเค็ม ห้ามทำกิจกรรมในนามพรรค หรือใช้โลโก้และชื่อพรรคก็ได้
(7)กรณีแถลงยุติบทบาทกับพรรคการเมืองเดิม และไปร่วมทำกิจกรรมในพรรคการเมืองใหม่ เป้าหมายที่จะไปสังกัด
หรือในการประชุมสภา นั่งในฝั่งพรรคการเมืองนั้น หรือสมาชิกท่านนั้นโหวดสวนมติพรรคเดิม
ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้ สามารถกระทำได้ และเป็นอิสระในการทำหน้าที่ของ สส. สามารถกระทำได้ในทางพฤตินัย
แต่ในการโหวตสวนมติพรรค ผิดวินัยหรือจริยธรรมร้ายแรงตามข้อบังคับพรรค นำไปสู่การขับออกจากพรรคได้
(8)การส่งตีความในหนังสือยุติบทบาท
เป็นเพียงเทคนิคทางการเมืองเพื่อเอาใจสมาชิกที่สนับสนุนพรรค
แต่ในมิติทางกฎหมาย อำนาจชี้ขาด เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยชี้ขาด มิใช่ กกต.
หาก กกต.สงสัยว่าสมาชิกสภาพ สส.คนดังกล่าวสิ้นสุด ใช้ช่องรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสาม ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดและขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ได้
ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า รัฐธรรมนูญห้ามเด็ดขาดในการย้ายพรรค เพราะเจตนารมณ์ให้สังกัดพรรคการเมืองเดียว กรณี สส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 ชลบุรี เพียงแจ้งยุติบทบาทกับพรรค ไม่ใช่หนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคประชาชน ส่วนคำแถลงชี้แจงเหตุผลในการยุติบทบาท อาจพูดสับสนว่า ลาออกบ้าง ยุติบทบาทบ้าง ยังไม่เป็นพฤติการณ์เจตนารมณ์ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาชน อาจยื่นให้ กกต.วินิจฉัยเบื้องต้นได้ เพียงเอาใจผู้สนับสนุนเท่านั้น แต่อำนาจเด็ดขาดเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นกระบวนการตรวจสอบ 2 ชั้น
เพราะต้องการให้ สส.กฤษฎิ์ฯ ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาชน เพราะใช้ฐานคะแนนจากพรรคเพื่อต้องการเลือกตั้งในเขตนี้ใหม่ ทำให้เกิดกระแสย้ายพรรค ค่าตัวสูง 55 ล้านบาท จ่ายรายเดือน 250,000 บาท และรถตู้หรู 1 คัน ย่อมถูกปล่อยออกมาเพื่อให้ทำลายน้ำหนักว่า เป็นงูเห่า มากกว่า ความอึดอั้นตันใจ รวมทั้งกระแสต่อต้านจากสมาชิกที่สนับสนุนพรรคประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ร้องข้ามกำแพงคุก!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ร้องข้ามกำแพงคุก!! ห้องข่าวไทยโพสต์ : ประจำวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เทนนิสตั้งเป้า4เหรียญทองซีเกมส์ 'ดร.ณัฏฐ์'ชื่นชมการบริหารงานสมาคมฯ
ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา มอบกำลังใจทีมเทนนิสซีเกมส์ของไทย หลังชมการฝึกซ้อม ที่ทางสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ตั้งเป้าหมายไว้ 4 เหรียญทอง ชมเปาะสมาคมฯ มีการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม พร้อมแนะแนวทางในการประชาสัมพันธ์ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ควรเร่งเครื่องให้คนไทยได้ร่วมรับรู้ เพื่อมาชมและเชียร์ เป็นการให้กำลังใจนักกีฬามากกว่านี้
🛑LIVE คิด - วิเคราะห์ - แยกแยะ!! ภาพร่วมเฟรม 'เจ้าพ่อสแกม' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ :วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'กัณวีร์' โร่แจงโดนปลดพ้นเลขาฯพรรคเป็นธรรม
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่พรรคเป็นธรรมได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งภายในพรรค และมีมติปลดผมออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ผมขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและพี่น้องประชาชนดังต่อไปนี้


