
20 พ.ค.2568- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีการแก้ปัญหาเครื่องยนต์เรือดำน้ำหลังได้คำตอบจากเยอรมนีแล้ว ว่า จะตัดสินใจในเร็วๆนี้ ซึ่งที่ผ่านมาตนพยายามหาข้อมูล เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ทั้งการทำจดหมายสอบถามไป 2 ฉบับ ฉบับแรก ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)ไทย ลงนามสอบถามไปยัง ผบ.ทร.เยอรมนี ซึ่งได้รับคำตอบมาแล้วว่าเป็นเรื่องของฝ่ายนโยบาย และ ผบ.ทร.เยอรมนี ก็บอกว่ายากเพราะมีเรื่องของนาโต และสภาสหภาพยุโรปเข้ามาเกี่ยวข้อง สอดคล้องกับที่ตนได้สอบถาม รมว.กลาโหมเยอรมนี หรือแม้แต่เจรจาขอให้เยอรมนีขายเครื่องยนต์ตรงกับไทย แล้วมาติดตั้งเองก็สามารถทำได้ ดังนั้นเรื่องที่ขอซื้อเครื่องยนต์จากเยอรมนีก็คงเป็นไปไม่ได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนได้มีการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย โดยฝากข้อความถึงกรมการเมืองภายในของจีน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีอำนาจในการตัดสินใจ และเขาระบุว่า เป็นเรื่องของภาคเอกชนจีน ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้มากกว่านี้ โดยได้พยายามเจรจาหลายส่วนแล้ว และคงเป็นไปไม่ได้ที่ทางจีนจะยอม เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน จีนถึงพยายามหาทางออกในเรื่องการชดเชยต่างๆ แต่ถ้าไทยยกเลิกจีนก็คงไม่คืนเงิน เพราะเขาถือว่าไม่ได้ผิดเงื่อนไขในสัญญา แต่มันเกิดจากเรื่องเครื่องยนต์ ซึ่งจีนได้หาเครื่องยนต์มาทดแทนแล้ว และมีคุณสมบัติใกล้เคียง
เขา กล่าวว่าได้พบกับทูตปากีสถาน ทราบว่ากองทัพเรือปากีสถานซื้อเรือดำน้ำจากจีนแบบเดียวกับไทย โดยได้ทำการทดลองใช้แล้วจาก 1 ใน 8 ลำ ผลสรุปคือไม่มีปัญหาใช้ได้ดี และมีการรับรองจากหน่วยงานว่ามีมาตรฐาน ดังนั้นชัดเจนว่าตอนนี้มีเพียง 2 ทางเลือก คือ ยกเลิก แต่จะเสียเงินที่จ่ายไปแล้ว 80% ซึ่งเป็นเงิน 7,000-8,000 ล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่จะต้องคิดถึงความเหมาะสมว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนอีกทางก็คือเดินหน้าต่อ ซึ่งสามารถมั่นใจในหลายเรื่องได้ในเรื่องความปลอดภัย แต่มีเรื่องสัญญาที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจน ซึ่งตนจะสอบถามทางกฤษฎีกาอีกครั้ง แม้ในยุคของนายสุทิน คลังแสง อดีตรมว.กลาโหม จะเคยสอบถามไปแล้วก็ตาม พร้อมกันนี้จะชี้แจงให้ประชาชนรับฟังแนวทางทั้งหมดที่ได้ดำเนินการมา และจะเสนอนายกรัฐมนตรี รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ และเตรียมนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
“ถ้าไม่ไปต่อ ก็เสียเงินทั้งหมด แต่ถ้าไปต่อ ก็ไม่มีปัญหา ได้เครื่องยนต์ที่มีมาตรฐานที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งผ่านการวิจัยแล้วว่าเทียบเท่าเครื่องยนต์เดิม ก็สามารถไปได้ ในส่วนตัวของผม ผมก็มีความเห็นอยู่ในใจแล้ว“
เมื่อถามว่า ดูแนวโน้มแล้วการเดินหน้าต่อจะส่งผลดีกว่าการยกเลิกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็อยากให้ช่วยกันคิดเพื่อเป็นแนวทางให้ตนตัดสินใจ โดยตนต้องเป็นผู้ตัดสินใจสุดท้ายก่อนเสนอ
ครม.
เมื่อถามย้ำว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นแบบจีทูจี หากมีการยกเลิกจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่ตนต้องคิดคือเงินจ่ายไปแล้ว และมีการตั้งกองเรือดำน้ำ มีการฝึกและส่งกำลังพลไปศึกษา มีการตั้งหน่วย รวมถึงมีการก่อสร้างอู่จอดเรือดำน้ำ 80% แล้ว ในหลายเรื่องเกิดขึ้นแล้ว หากตัดสินใจไม่เอาสิ่งเหล่านี้ก็จะเสียทั้งหมด ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ตนคิดมาก และถ้าเอา ก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ทางไหนที่รักษาประโยชน์ของประเทศได้ ตนจะใช้สิ่งเหล่านี้ตัดสินใจ
ถามว่าทางจีนขีดเส้นหรือไม่ ว่าอยากได้คำตอบเมื่อไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า จีนอยากได้คำตอบมานานแล้วตนโดนบริษัทจากจีน กองทัพเรือ นำเสนอเงื่อนไขมาให้ เพื่อให้ตนตัดสินใจ ซึ่งกองทัพเรือตัดสินใจแล้ว แต่สำหรับตนถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจะกระทบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งทางจีนเองไม่อยากแทรกแซงประเทศไทย มากำหนดให้ต้องตัดสินใจ และทางจีนเองก็มีหน้าที่รักษาให้เป็นไปตามข้อสัญญาที่พลเรือนทำไว้
ทั้งนี้ ยืนยันว่า เรื่องเรือดำน้ำจะจบภายในยุคของตน ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายนนี้ จะได้คำตอบที่ชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ทำทุกขั้นตอนแล้วที่กังวล และมีคำตอบที่ชัดเจนออกมา โดยมีข้อดีอย่างหนึ่งคือ ไม่ใช่เรื่องที่ตนไปเซ็นสัญญาและก่อขึ้น แต่เป็นเรื่องที่เราเข้ามาแก้ไขปัญหา ความจริงตนสามารถปล่อยเรื่องนี้ไปเรื่อยๆก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ไม่ใช่วิสัยของผู้บริหาร ก็สมควรที่ต้องตัดสินใจ
เมื่อถามว่า หากเดินหน้าโครงการเป็นกังวลเรื่องไหนมากที่สุด นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องความเข้าใจของประชาชนไม่อยากให้มีดรามา เมื่อตัดสินใจไป ส่วนสังคมจะเข้าใจหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบ แม้จะเป็นโครงการที่ไม่ได้ทำในยุคของตน แต่เรื่องดรามามันมีมาก ขนาดยังไม่ได้ตัดสินใจก็ยังมีเรื่องว่าจะยกเรือให้กัมพูชา เลอะเทอะ ซึ่งไม่เป็นความจริง เขากำลังเจรจาหาทางออกไม่มีใครเขาทำอะไรที่จะทำให้รู้สึกว่าจะมีปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ เขาก็เคารพเรา ดังนั้นอย่าดราม่า เพราะมันมีทั้งผลดีและผลเสีย รวมถึงกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และผลกระทบต่อคนที่ตั้งใจทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กเล็ก’ ลงพื้นที่หาดใหญ่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใต้ พร้อมประชุมครม.ผ่าน Conference รายงานตรงนายกฯ
เวลา 06.45 น.พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เพื่อเดินทา
‘บิ๊กเล็ก’ สบายใจ! ‘ฮุนเซน’ บอกร้อยปีไม่ต้องเปิดด่าน จะได้ไม่คุยเรื่องนี้อีก
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงการดำเนินงานบริเวณชายแดนไ
สมช. ไฟเขียว ปฏิบัติการทางทหารทำได้ตามสถานการณ์ ย้ำชัด ระงับปฏิญญา ไทย - กัมพูชา ยุติส่งเชลยศึก
ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
'ภูมิธรรม' แจงยิบ ปมมีคนสั่ง 'แม่ทัพกุ้ง' หยุดยิงเขมร
“ภูมิธรรม” ยันไม่มีคำสั่งหยุดยิงจากฝ่ายการเมือง มอบอำนาจให้กองทัพมีอิสระ ชี้ทุกการตัดสินใจในเวลานั้นมีจุดยืนเพียงหนึ่งเดียวเพื่อปกป้องอธิปไตยไทย เลี่ยงความรุนแรง ลดความสูญเสียของกำลังพล-ประชาชนตามแนวชายแดน
'บิ๊กเล็ก' เบรกด่วน! ยังไม่ส่งตัวเชลยศึกเขมร 'มทภ.2' คาดระเบิดใหม่
'บิ๊กเล็ก' สั่งเลื่อนส่งมอบตัวเชลยศึก พร้อมทำหนังสือประท้วง สั่งแม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจสอบระเบิดใหม่หรือเก่า ส่อของใหม่ ฮึ่มหากพบเจตนา ต้องดำเนินการมากกว่านี้แน่
'บิ๊กเล็ก' ชี้ปมปราสาทตาควาย หากเจรจาด้วยสันติวิธีไม่สำเร็จ อาจจำเป็นต้องใช้กำลัง
พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงปมปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ว่า ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และขอยืนยันอีกครั้งว่า ปราสาทตาควาย อยู่ในเขตอธิปไตยไทย

