26 พฤษภาคม 2568 - ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของฝ่ายค้านในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า เราได้มีการพูดคุยกันและแบ่งเวลากันเรียบร้อยแล้ว โดยพรรคพลังประชารัฐได้ 3 ชั่วโมง พรรคไทยสร้างไทยและพรรคเป็นธรรม ได้ไปพรรคละครึ่งชั่วโมง โดยที่เหลือจะเป็นของพรรคประชาชน 16 ชั่วโมง ซึ่งในส่วนของพรรคประชาชนมีผู้ที่จะอภิปรายคร่าวๆประมาณเกือบ 50 คน โดยที่แต่ละคนจะไม่อภิปรายซ้ำประเด็นกัน และในปีนี้เราพยายามที่จะละเอียดมากและให้มีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมา ทั้งในชั้นของการอภิปรายและชั้นกรรมาธิการ
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เนื่องจากตอนนี้ประเทศกำลังประสบปัญหากับวิกฤตเศรษกิจทุกคนน่าจะทราบและรู้กันดีว่าเศรษฐกิจขณะนี้แย่ ดังนั้น การใช้งบประมาณของรัฐบาลถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ เราจึงมีการจัดผู้อภิปรายจำนวนมากเพื่อให้ลงรายละเอียดครบทุกกระทรวงครบทุกประเด็นว่ามีงบประมาณอะไรที่รัฐบาลตั้งมาแล้วเราเห็นว่าไม่จำเป็นในปัจจุบัน ทั้งนี้ การทำงานในชั้นกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ เราได้มีการกำชับเรียบร้อยว่าคนที่เข้าไปทำหน้าที่ต้องทำงานอย่างละเอียดมากๆ และต้องจดทุกไอเท็มที่มองว่าไม่มีประโยชน์และพยายามตัดให้ได้เพื่อนำมาใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้
“สิ่งที่อยากให้ประชาชนจับตา ในตอนนี้นอกจากการอภิปรายในวาระ 1 ในชั้นกรรมาธิการที่จะใช้เวลาในการพิจารณาอีก 3 เดือนในช่วงท้ายงบทั้งหมดที่เราตัดได้ สุดท้ายจะถูกแปรโดยกรรมาธิการ ฉะนั้น จึงขอให้ช่วยกันจับตาดูเพราะต่อให้เราตัดได้มากเท่าไหร่ และรายการที่ถูกแปรไปก็เป็นโครงการที่ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี เช่น งบดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกทบทวนและบอกว่าจะนำไปใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เราก็พบว่ามีคำสั่งที่ให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เสนอโครงการเข้าไปแต่ให้เวลา 3 วัน แต่สุดท้ายแล้วงบก้อนมโหฬารที่บอกว่าจะนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เราก็มองไม่ออกว่าเราจะได้โครงการหน้าตาประมาณไหน และจะกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจประเทศได้หรือไม่ ยืนยันว่าพรรคประชาชนจะทำงานอย่างละเอียดมากๆเพื่อช่วยรัฐบาลในการหางบไปกระตุ้นเศรษกิจ แต่เราจะช่วยหางบอย่างเดียวไม่พอรัฐบาลต้องใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดด้วย“ นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข้อสังเกตว่าการตั้งงบประมาณเช่นนี้อาจจะเปิดช่องให้มีเงินทอนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า อาจจะตั้งข้อสังเกตได้ว่าบางครั้งคนที่ได้ประโยชน์อาจจะเป็นคนที่รู้ก่อน ว่าจะเสนอโครงการอะไรมา หรือมีเจ้าภาพอยู่แล้วหรือไม่ จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นช่องทางในการกอบโกยผลประโยชน์ หรือเงินทอนที่มหาศาลจากเงินก้อนนี้
ถามว่าสามารถเปิดเผยได้หรือไม่ว่าผู้อภิปรายในส่วนของพรรคประชาชนมีใครบ้าง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในภาพรวม จะมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งเราจะมีไฮไลท์ให้กับผู้ที่สนใจติดตามในแต่ละประเด็น เช่น ด้านการเกษตร ด้านการศึกษาการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น แต่คงไม่ได้มีไฮไลท์เป็นพิเศษ แต่จะเน้นไปที่การตัดงบที่ไม่จำเป็นเพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจให้ตรงโจทย์ของประเทศ
ผู่สื่อข่าวถามว่ามีผู้อภิปรายคนไหนที่น่าสนใจบ้าง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ”ว้าวทุกคน“ เมื่อถามว่า ในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.ในการอภิปรายครั้งนี้เหมือนเปิดโอกาสให้สส.หน้าใหม่มีส่วนร่วมมากขึ้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้คงไม่ได้แบ่งเป็น สส. หน้าใหม่หรือหน้าเก่า เพราะทุกคนเป็น สส. มาแล้วสองปี ทำงานละเอียดมีประสบการณ์เยอะ บางคนแม้ไม่ได้อภิปรายแต่ก็เคยทำงานในกรรมาธิการ และอนุกรรมาธิการพิจารณางบประมาณมาแล้ว ทั้งนี้ เชื่อว่าในการอภิปรายคงไม่มีการประท้วงกันเยอะ และหวังว่ารัฐบาลคงไม่จ้องจะประท้วงกันให้เสียเวลา
เมื่อถามว่า ในส่วนของฝ่ายค้านจะโหวตอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเราจะมีการพูดคุยกันในวันที่ 27 พ.ค. เช่นเดียวกับที่พรรคประชาชนจะมีการประชุมสส.กันโดยจะมีมติหลังการประชุม ซึ่งหากเห็นว่ารัฐบาลจัดงบมาไม่ตอบโจทย์จริงๆ และไม่สามารถเห็นชอบได้จริงๆ เราก็จะไม่เห็นชอบ
ถามว่ารอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยได้มีการมากระซิบบอกฝ่ายค้าน ให้เตรียมอภิปรายในประเด็นใดหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ส่วนตัวตนยังไม่มี แต่สส. คนอื่น ก็ยังไม่ทราบ
เมื่อถามถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยมองว่าเป็นผลดีหรือผลเสียต่อการผ่านงบประมาณ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองว่าเป็นผลดี หรือผลเสียในการผ่านงบประมาณที่จะนำไปใช้ในการบริหาร แต่มองที่ผลดีหรือผลเสียต่อประเทศมากกว่าว่าสุดท้ายแล้วนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำลังตัดสินใจอยู่บนผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน หรืออยู่บนอำนาจต่อรองที่กำลังคานกันระหว่างสองพรรคใหญ่มากกว่า ต่อข้อถามว่า มองย่างไรที่มีการประเมินว่าจะมีความขัดแย้งจนทำให้มีการต้องยุบสภาหลังงบฯ 69 โหวตผ่าน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ส่วนตัวตนคิดว่าคงไม่มีรัฐบาลไหนอยากยุบสภาก่อนหมดวาระ ถ้าไม่จำเป็น แต่พรรคประชาชนพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง หากความขัดแย้งรุนแรงจนรัฐบาลไม่สามารถตัดสินใจบนประโยชน์สูงสุดของประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าได้มีการประเมินหรือไม่ว่าในเร็วๆนี้ อาจจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือเหตุการณ์ในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราประเมินว่าอาจมีอุบัติเหตุทางการเมืองได้ตลอดเวลา เราจึงเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งเสมอ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และยืนยันว่ามีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไว้อยู่แล้วนั่นคือหัวหน้า ส่วนจะมีแค่ 1 คนหรือไม่ เป็นรายละเอียดที่ยังไม่ได้พูดคุยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
ปชน. ค้านนัดโหวตแก้ รธน. วาระ 3 หลังปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ
"ณัฐวุติ" ย้ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ต้องเสร็จก่อนปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ เสี่ยงผิด MOA เชื่อไม่มีเงื่อนไขให้ สว. ควํ่าวาระ 3 เผย หลังโหวตเสร็จ ปชน. เตรียมชง 2 คำถามประชามติให้สภาฯ เคาะทันที
🛑LIVE ร้องข้ามกำแพงคุก!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ร้องข้ามกำแพงคุก!! ห้องข่าวไทยโพสต์ : ประจำวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
สส.ปชน. เรียกร้องรัฐบาลเยียวยาน้ำท่วมภาคกลางให้มีมาตรฐานเดียวกับภาคใต้
"เต้ ทวิวงศ์" จี้รัฐบาลอย่า 2 มาตรฐาน ช่วยน้ำท่วมใต้แล้ว หันมาช่วยน้ำท่วมภาคกลางด้วย บอก "ภราดร" ลองกลับมาถามคนอ่างทอง หากรอการเยียวยาเป็นลำดับถัดไปไหวหรือไม่ เหตุอยุธยาจมน้ำมา 4-5 เดือนแล้ว คนเสียชีวิตไปกว่า 20 ราย ชี้ ชาวบ้านต้องทำมาหากิน ควรมีมาตรการชดเชย-ช่วยเหลือเต็มรูปแบบเหมือนกัน
🛑LIVE คิด - วิเคราะห์ - แยกแยะ!! ภาพร่วมเฟรม 'เจ้าพ่อสแกม' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ :วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568


