นักกฎหมายมหาชน “ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม” วิเคราะห์คำร้องยุบพรรคภูมิใจไทย ชี้ต่างจากคดีก้าวไกล เหตุพฤติกรรมไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ย้ำจุดตัดอยู่ที่หลักฐานโยงกรรมการบริหารพรรคกับขบวนการเลือกตั้ง สว.
2 มิถุนายน 2568 จากกรณี นายณฐพร โตประยูร และ นางกุสุมาลตี ศิริโกมุท ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้มีการยุบพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างสิทธิตาม มาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญ และ มาตรา 92(1) ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560
ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชนคนดัง ได้ให้ความเห็นและอธิบายว่า หลายท่านสอบถามกันมาเยอะว่า เกมยุบพรรคภูมิใจไทย จะรอด-ร่วง มีทั้งกองเชียร์-กองแช่ง ทั้งสองฝ่ายต่างต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในภูมิรัฐศาสตร์ พรรคการเมือง เป็นสถาบันทางการเมือง แต่ในมิติด้านกฏหมายมหาชน เป็นนิติบุคคล ตาม พรป.พรรคการเมือง มาตรา 20 วรรคหนึ่ง ภายใต้กำกับควบคุมพรรคการเมืองโดยนายทะเบียนพรรคการเมืองปัจจุบัน คือนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.
ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า เกมในการยุบพรรคภูมิใจมีความแตกต่างจากกรณียุบพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา ข้อเท็จจริงแตกต่างกัน โดยใช้เกมฮั้ว สว.มาบดขยี้ แล้วมาเขียนโยงเป็นขบวนการได้มาซึ่งอำนาจนิติบัญญัติ ในระบบรัฐสภา ขัดต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการล้มล้างการปกครองฯ พูดภาษาชาวบ้านว่าเข้าเกณฑ์ล้มล้างการปกครองและยุบพรรค
นายณฐพร โตประยูร ผู้ร้อง จึงใช้ช่องทางนี้ ขย่ม บดขยี้ ในช่วงศึก กลุ่มสว.สีน้ำเงิน-กรมสอบสวนคดีพิเศษ-กกต. กำลังชุลมุน
ดร.ณัฏฐ์ ระบุว่า แต่ช้าก่อนการที่จะเป็นกรณีการใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการล้มล้าง ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานว่า ล้มล้างหมายถึง “ทำให้สิ้นสลายไป สูญหายไป” ส่วนข้อเท็จจริง ต้องไม่“ห่างไกล”และ“ยังไม่สิ้นสุดลง”
ดร.ณัฏฐ์ ระบุว่า หากไล่เรียงลำดับการเลือก ส.ว. ในระดับต่าง ๆ จนถึงระดับประเทศจะพบว่าทุกขั้นตอนสิ้นสุดไปแล้วในวันที่ 26 มิ.ย. 2567 โดย กกต.รับรองผลในวันที่ 10 ก.ค. 2567 ซึ่งถือว่า ข้อเท็จจริงได้สิ้นสุดไปแล้ว
ดังนั้น การจะโยงว่ามีขบวนการล้มล้างการปกครองอาจ “ไม่เข้าเกณฑ์” เพราะ ส.ว.ที่ได้รับเลือกเข้าสู่อำนาจโดยรัฐธรรมนูญ แม้จะมีข้อครหาทุจริตเลือกตั้ง แต่เป็นคนละขั้นตอนกัน อีกทั้งแม้ นายณฐพร จะใช้ช่องตาม มาตรา 49 วรรคสาม ยื่นต่ออัยการสูงสุดเพื่อให้ส่งศาลโดยตรง ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในขั้นต้นอีก
ดร.ณัฏฐ์ จึงประเมินว่า โอกาสที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องตามแนวทางนี้ค่อนข้างน้อย และการใช้โมเดล “พรรคก้าวไกล” มาเปรียบเทียบในกรณีพรรคภูมิใจไทยจึงเป็นเพียง การคาดหวังเกินจริง
ส่วนกรณี นายณฐพร โตประยูร และนางกุสุมาลตี ศิริโกมุท ร้องต่อ กกต.ขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างความเป็นพลเมืองมาตรา 50 แห่งรัฐธรรมนูญและข้อเท็จจริงเข้าเกณฑ์มาตรา 92(1) แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 เป็นขั้นตอนตรวจสอบภายใน กกต. เป็นอำนาจเด็ดขาดของ กกต.
ดร.ณัฏฐ์ชี้ว่า ปัจจุบัน กกต.มีระเบียบใหม่สำหรับการพิจารณาคำร้องยุบพรรคอย่างรวดเร็วภายใน 67 วัน โดยเริ่มนับจากวันที่ยื่นคำร้อง ภายใต้ “ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียน พ.ศ.2566” ซึ่งประธาน กกต.สามารถขยายระยะเวลาได้
หากนายทะเบียนเห็นว่าคำร้องมีมูล จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องชี้แจงตามสิทธิ ตาม มาตรา 93 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ประกอบระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนหรือการไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3)พ.ศ.256 และเข้ากระบวนการไต่สวนตามระเบียบ กกต.
โดยสาระสำคัญในคำร้องนั้น เชื่อมโยงพฤติกรรมของ เจ้าของพรรค -แกนนำ-กรรมการบริหาร-สส.-และรัฐมนตรี กับกระบวนการได้มาซึ่ง สว.สีน้ำเงิน 138 คน เพื่ออ้างว่าเข้าข่ายตาม มาตรา 92(1)
อย่างไรก็ตาม ดร.ณัฏฐ์เตือนว่า จุดอ่อนใหญ่คือ “พยานหลักฐาน” ซึ่งหลายชิ้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2567 แต่เพิ่งถูกหยิบขึ้นมาช่วงสถานการณ์วุ่นวาย และมีประเด็นว่า ข้อมูลที่เป็น AI หรือปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถรับฟังได้ในชั้นพิจารณา
“จุดตัดสำคัญคือ เส้นทางการเงิน ว่าเชื่อมโยงกับกรรมการบริหารพรรคหรือไม่” หากเชื่อมโยงไม่ได้ ก็จะตีความได้ว่าเป็นการกระทำของบุคคลเฉพาะ ไม่ใช่พรรคการเมือง และยากที่จะเข้าเกณฑ์ยุบพรรค
แต่ช้าก่อน กฎหมายให้อำนาจนายทะเบียนพรรคการเมืองรวมรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ภายใน 7 วันนับแต่วันยื่นคำร้อง ตามคำร้องมีมูลหรือไม่ หากมีมูล ให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ให้ดำเนินการภายใน 30 วัน และ กกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เท่ากับ 67 วัน หากไม่มีมูลให้ยกคำร้อง
อย่างไรก็ตาม ดร.ณัฏฐ์ เตือนว่า จุดอ่อนใหญ่ คือ “พยานหลักฐาน” ซึ่งหลายชิ้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2567 แต่เพิ่งถูกหยิบขึ้นมาช่วงสถานการณ์วุ่นวาย และมีประเด็นว่า ข้อมูลที่เป็น AI หรือปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถรับฟังได้ในชั้นพิจารณา
“จุดตัดสำคัญคือ เส้นทางการเงิน ว่าเชื่อมโยงกับกรรมการบริหารพรรคหรือไม่” หากเชื่อมโยงไม่ได้ ก็จะตีความได้ว่าเป็นการกระทำของบุคคลเฉพาะ ไม่ใช่พรรคการเมือง และยากที่จะเข้าเกณฑ์ยุบพรรค
ดร.ณัฏฐ์ยกตัวอย่างว่า พรรคภูมิใจไทย โดยหัวหน้าพรรค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ออกหนังสือชี้แจงตั้งแต่ 30 เม.ย. 2567 ว่า พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับกระบวนการ สว. ซึ่งสอดคล้องกับ มติ กกต.ก่อนหน้านี้ ที่ยกคำร้องกรณีบุรีรัมย์ โดยระบุว่า ผู้สมัคร สว.จ่ายค่าสมัครเอง พรรคไม่เกี่ยว
ทั้งยังเปิดช่องให้นายทะเบียนยกข้ออ้างว่า กระบวนการภายใน กกต.ยังไม่เสร็จสิ้น ไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอ ไม่มีแกนนำพรรคถูกกล่าวหาโดยตรง หากไม่พบหลักฐานว่า กรรมการบริหารมีส่วนร่วม ก็จะเรียกว่า “รอด”
แต่ถ้า เส้นทางเงินสามารถเชื่อมโยงถึงกรรมการบริหารพรรค และพิสูจน์ได้ว่าแม้ สว.จะจ่ายเอง แต่เป็นเงินจากขบวนการพรรค หรือมีมติพรรคที่รู้เห็นร่วม ก็จะทำให้คำชี้แจงของนายอนุทิน “ฟังไม่ขึ้น” และอาจเข้าข่าย ยุบพรรคตามมาตรา 92(1)
ดร.ณัฏฐ์จึงสรุปว่า เส้นบาง ๆ ระหว่าง “รอด” หรือ “ร่วง” อยู่ที่หลักฐานทางการเงินและการมีส่วนร่วมของพรรค หากพบความเชื่อมโยงโดยตรงกับกรรมการบริหารพรรค ภูมิใจไทยอาจถูกลบออกจากสารบบพรรคการเมืองไทย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี


