สว.สำรองให้กำกำลังใจประธาน กกต.อยู่ครบวาระ!

'สว.สำรอง' ให้กำลังใจประธาน กกต. หลังมีข่าวลาออกจากตำแหน่ง เหตุถูกบุคคลที่มองไม่เห็นกดดัน โดยขอให้ทำงานอย่างสุจริต จี้ทบทวนพักงาน 'แสวง' ให้เวลา 7 วัน หากไม่ทำเตรียมโดนอาญา 157

05 มิ.ย.2568 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะสว.สำรองนำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อเรียกร้องความสุจริตและโปร่งใสในการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 โดยยก 4 ประเด็น โดยพล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ประเด็นแรก มีข่าวว่านายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. จะลาออกก่อนกำหนด จึงมีข้อห่วงใยว่าท่านอาจถูกกดดันด้วยมือที่มองไม่เห็นหรือไม่ หรือเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวของท่านกับใครบางคนที่ทำให้ท่านอึดอัด อยากให้ท่านเข้มแข็งดูแลการตรวจสอบการเลือกสว.ที่ไม่สุจริตและ เที่ยงธรรมให้เรียบร้อยสะเด็ดน้ำ โดยไม่หวั่นไหวต่อแรงกดดันใดๆ ขอให้คำนึงถึงประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก เหลืออีกนิดเดียว อยากขอเป็นกำลังใจให้ประธาน กกต. รวมทั้ง กกต. ทุกคนได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาและเต็มความสามารถจนครบวาระ อีกทั้งขอประณามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลรวมทั้งมือที่มองไม่เห็น โดยที่ตอนนี้คนทั่วบ้านทั่วเมืองคงพอมองเห็นแล้วว่าเป็นใครบ้าง ขอได้โปรดยุติการดำเนินการที่เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบบและสิ่งต่างๆ ที่เป็นหลักของบ้านเมือง ขอให้ปลดปล่อย อย่าพันธนาการประเทศชาติต่อไปอีก

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า ประเด็นที่2 กรณีที่สว. จำนวน 22 คน ยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2568 ขอให้ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หยุดปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการสืบสวน สอบสวนการเลือกสว. และขอให้คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนกลางของ กกต. คณะที่ 26 หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น เรียนว่าคณะสว.ดังกล่าว ได้กระทำการละเมิดต่อประมวลจริยธรรม หลายกรรมหลายวาระต่อเนื่องกันในความผิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับตนเอง หรือผู้อื่น คุกคามข่มขู่การดำเนินการของฝ่ายข้าราชการประจำ และถือเป็นการใช้อำนาจ สถานะหน้าที่ของตน ก้าวก่ายข้าราชการประจำอันเป็นความผิด ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (1) อย่างชัดแจ้ง โดยที่ สมาชิกวุฒิสภากลุ่มดังกล่าวนี้ มีพฤติการณ์ที่ไม่สุจริตในการได้มาเป็นสมาชิกวุฒิสภา และอยู่ระหว่างถูก ตรวจสอบ ซึ่งในประเทศไทยทุกคนควรอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน และต้องเสมอกัน ไม่ควรมีใครผู้หนึ่ง ผู้ใดที่จะมีอภิสิทธิได้รับการยกเว้นในการถูกตรวจสอบ

โดยปัจจุบันเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นการดำเนินการใดๆ ต้องมีความโปร่งใส โดยหน่วยงานหรือองค์กรอิสระทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการบนหลักธรรมาภิบาล และหลักนิติธรรม ไม่เอนเอียงหรือตกอยู่ภายใต้อิทธิพลใดๆ จึงขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการบนหลักนิติธรรม ปราศจากการแทรกแซงหรือคุกคามจากอิทธิพลใดๆ

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นที่ 3 ขอให้ทบทวนคำวินิจฉัยของกกต.ที่ 5/2568 ลงวันที่ 6 ม.ค.2568 กรณี ยกคำร้องไม่เอาผิด นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ที่ถูกกล่าวหาว่าละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ป้องกัน การนำโพยจัดตั้งเข้ามาในที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 และยืนยันขอให้มี การดำเนินการตั้งคณะกรรมการทางคดีวินัยแก่ นายแสวง ตามที่ พ.ต.อ. มนัส นครศรี อดีตผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรปราการ

กล่าวหา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มาตรา 53 รวมทั้งพักงาน นายแสวง ระหว่างนี้และเรียกร้องขอให้ นายแสวง ได้พิจารณาตัวเอง โดยลาออก หรือเว้นวรรคในการปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ กกต. จนกว่าการพิจารณาเรื่องตรวจสอบการเลือก สว. ปี 2567 จะแล้วเสร็จ

และประเด็นสุดท้ายขอให้กำลังใจคณะกรรมการชุดสืบสวนไต่สวนกลาง คณะที่ 26 ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็ม ความสามารถ ไม่หวั่นไหวต่ออิทธิพล การข่มขู่ หรือคำติฉินนินทา หรือข้อร้องเรียนใดๆ เนื่องจากการปฏิบัติ หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้ ถือได้ว่ามีความตั้งใจ และมีประสิทธิภาพ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สามารถ รวบรวมพยานหลักฐานได้ จนมีหนังสือแจ้งผู้เกี่ยวข้องมารับทราบและแก้ข้อกล่าวหาได้จำนวนหลายราย จึงขอให้แน่วแน่ในการปฏิบัติหน้าที่บนความไว้วางใจ ความเชื่อถือ เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนชาวไทยต่อไป นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทั้งคณะ ตลอดจนศาลฎีกาและกระบวนการ ยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง ได้โปรดพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ด้วยความโปร่งใสยุติธรรมตามหลัก นิติธรรมและธรรมาภิบาล โดยไม่หวั่นไหว ไม่ยอมรับหรือคล้อยตามการแทรกแซง โดยกลุ่มคนที่หวังเฉพาะ ประโยชน์ส่วนตน โดยขอให้ยึดถือเอาผลประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน และประเทศชาติเป็นที่ตั้ง เพื่อผดุง ไว้ซึ่งความ สุจริตและเที่ยงธรรมตลอดไป

ด้านพ.ต.อ.มนัส นครศรี อดีตผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอ้างว่าเป็นบุคคลที่แจ้งให้นายแสวง ทราบถึงเบาะแสการฮั้วเลือกสว.ในวันเลือกสว.ระดับประเทศ แต่นายแสวง กลับไม่มีการดำเนินการและไม่มีการรายงานให้กกต.ทราบ โดยกล่าวว่า การที่กกต. ตั้งคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 และทำการสืบสวนจนได้พบพยานหลักฐานว่าเป็นไปตามเบาะแสที่ตนได้เคยแจ้งต่อนายแสวง จึงเห็นว่าถือเป็นความปรากฏต่อกกต.แล้วว่า การที่นายแสวง ไม่แจ้งเบาะแสการฮั้วเลือกสว.ในวันเลือกระดับประเทศให้กกต.ทราบ ถือเป็นกรณีความปรากฏว่านายแสวง กระทำผิดทางวินัยจึงจะยื่นหนังสือดำเนินการทางวินัยกับนายแสวง และมีคำสั่งให้นายแสวง หยุดปฏิบัติหน้าที่เสียก่อน โดยขอให้ดำเนินการภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการตนจะนำข้อมูลนี้ให้กับผู้ที่มาขอเพื่อไปดำเนินการเอาผิดกกต.ตามมาตรา 157 ของกฎหมายอาญา

ด้านนายอัครวัฒน์ พงษ์ธนาชลิตกุล หนึ่งในคณะสว.สำรอง ยังตั้งขอสังเกตว่าเหตุใดนายแสวง ถึงหายไปในช่วงนี้ ว่า นายแสวง กำลังทำอะไรอยู่เงียบหายไปจากวงจรแต่พวกเราทราบ แอบส่งหนังสือสกัดเรื่องนั้นเรื่องนี้จริงหรือไม่ รวมทั้งคนใกล้ตัวยังส่งหนังสือมาประชาสัมพันธ์แบบหลับหูหลับตาแถลงการณ์ไปทั่ว ความผิดต้องเป็นกระบวนการ บ้านเมืองกำลังต้องการความสุจริตโปร่งใส เที่ยงธรรม ปราศจากการทุจริตคดโกง แต่นายแสวง ต้องยุติอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้ ตามหน้าที่ของคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 ที่เขากำลังทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพราะท่านถูกข้อครหาจากคนไทยทั้งประเทศว่ามีมลทิน อยากบอกว่าสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ขณะนี้ไม่ถูก สายสัมพันธ์ต่างๆที่เป็นมาในอดีต ท่านจะสนิทสนมกับผู้หลักผู้ใหญ่แถวจ.บุรีรัมย์มาอย่างไรไม่ทราบ ไปรับปากรับคำใครมาไม่ทราบ แต่มันกำลังเกิดปัญหาขึ้น นายแสวง ต้องเอาไปนอนคิดให้ดี นั่นคือกตัญญูวิบัติ ซื่อสัตย์วิบัติ ความกตัญญูที่ไปเอื้อต่อประโยชน์ แก่ขบวนการใดกระบวนการหนึ่งเพียงไม่กี่คน แต่มันทำความชิบหายให้กับประเทศชาติบ้านเมืองนับ 60 ล้านคน ซึ่งความกตัญญู และความซื่อสัตย์ของท่าน ไปปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาหรือไม่อย่างไรท่านรู้อยู่แก่ใจขอให้ยุติกลับเนื้อกับตัวเป็นคนดี อย่าใช้ความกตัญญูซื่อสัตย์วิบัติโดยไม่ถูกต้อง ถ้านายแสวง เห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติบ้านเมืองเห็นแก่ประชาชน ขอให้ยุติการทำหน้าที่เลขาธิการกกต.ที่จะมายุ่งกับการสอบฮั้วเลือกสว. ให้เจ้าหน้าที่เขาดำเนินการไปอย่างตรงไปตรงมา มันก็จะจบแล้ว หรือจะบอกว่ามันจบแล้วครับเน มันตอบได้ทั้งนั้น พรุ่งนี้มันกำลังจะจบแล้ว ประชาชนให้กำลังใจท่าน เป็นผนังที่สำคัญที่ป้องกันให้ท่านไม่ต้องรับโทษ ฉะนั้นนายแสวง ต้องหยุด

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สว.สำรองชง กกต.ฟันอาญาพยานกลับคำให้การ! ในคดีฮั้ว สว.

เจ้าเก่า 'สว.สำรอง' จี้ กกต.เอาผิดพยานคดีฮั้วอักษรย่อ 'อ' กลับคำให้การ พ่วงคนข่มขู่ พร้อมขอคำตอบปม 2 ว่าที่ กกต.ร่วมโหวตเลือก ปธ.ใหม่

กกต.รับข้อเสนอ 'ไอติม' ชง กกต.ออกระเบียบรองรับ การทำประชามติล่วงหน้านอกเขต

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ข่าวเลขที่ 434/2568 วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 กกต. ยืนยันจะมีการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน สำหรับการไปใช้สิทธิออกเสียงประชามตินอกเขต

ศาลฎีกายกคำร้อง สว.สำรอง ไม่มีอำนาจยื่นให้สว.ในสภาทั้ง 136 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งนัดฟังคำสั่ง ที่พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว พร้อมตัวแทน สว.