
แฟ้มภาพ
‘สุดารัตน์’ เชื่อ ถ้า ‘นายกฯ’ ใช้ความกล้าหาญเป็นผู้นำเจรจายุติปัญหาชายแดน กับ ‘ผู้นำกัมพูชา’ ด้วยตัวเอง โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ใกล้ชิดพิเศษ จะมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดสงคราม หวัง เห็นประโยชน์ประเทศชาติ เหนือครอบครัว
8 มิ.ย. 2568 – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยภายหลังการกล่าวในเวทีสัมมนา “การสร้างการเมืองสุจริต เพื่อแก้วิกฤตชาติ” ให้สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ภาคกลาง ที่จังหวัดสมุทรปราการ ได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยการชื่นชม และให้กำลังใจกับกองทัพ ที่แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจในการรักษาอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยอย่างเข้มแข็ง แต่การจะแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ได้อย่างสันตินั้น นายกฯ ต้องกล้าที่จะเป็นผู้นำในการเจรจาด้วยตัวเอง เพื่อใช้กลไกของรัฐบาล และความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ลึกซึ้งกับผู้นำกัมพูชา ซึ่งจะทำให้การเจรจามีประสิทธิภาพ
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยเผชิญความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะกรณีข้อพิพาทบริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชานั้น ผู้นำต้องจริงใจในการแก้วิกฤตชายแดน โดยคนไทยหวังว่า ผู้นำจะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศ เหนือผลประโยชน์ของครอบครัว ตนเองเอาใจช่วย และอยากเห็นนายกฯ แก้ปัญหาสำคัญนี้ ด้วยความองอาจกล้าหาญ มีภาวะผู้นำ มีวิสัยทัศน์ และใช้ความสามารถอย่างเต็มที่
“ดิฉันเชื่อว่าถ้านายกฯ กล้า เป็นผู้นำในการ เจรจา ปัญหาข้อพิพาทกับกัมพูชา กับผู้นำกัมพูชาด้วยตัวเอง ปัญหาข้อพิพาทจะสามารถจบได้ จะเป็นการยุติปัญหา โดยที่ไม่ต้องนำประเทศไปเสี่ยงต่อการสูญเสียทั้งชีวิตของทหารกล้า และประชาชน รวมทั้งอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังเชื่อว่า ไม่มีใครในประเทศต้องการให้เกิดสงคราม ดังนั้น การจะยุติปัญหานี้ได้นายกต้องแสดงภาวะผู้นำ แสดงความสามารถ ในการเจรจาเพื่อยุติปัญหา เพราะหน้าที่การเจรจาเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ขณะที่ฝ่ายกองทัพมีหน้าที่รักษาอธิปไตย
“ถ้านายกฯ กล้านำการเจรจาด้วยตัวเอง ดิฉันเชื่อว่าจะสามารถใช้กลไกของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะสามารถลดภาระของกองทัพไทย ซึ่งกองทัพพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยไทยอย่างเต็มที่ แต่ถ้ายุตติได้ด้วยการเจรจาก็ย่อมดีกว่า การเกิดสงคราม ในยามที่ประเทศเจอภาวะวิกฤตทั้งทางด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจ เป็นเวลาที่นายกต้องกล้าที่จะแสดงภาวะผู้นำ ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่าย แก้ไขปัญหาวิกฤตินี้ ให้กับประชาชนและประเทศชาติได้สำเร็จ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวทิ้งท้าย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองทัพภาคที่ 2 แจ้ง ไร้ปะทะหนัก แต่ เขมรยัง ส่งกำลังบำรุง–ปล่อยโดรนถี่ยิบตามแนวชายแดน
องทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา วานนี้ (29 ธ.ค. 68 ) พบว่า ภาพรวมยังไม่มีการปะทะด้วยอาวุธหนัก อย่างไรก็ตาม ยังคงตรวจพบความเคลื่อนไหวทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งกำลังบำรุงและการใช้อา
ครบ 72 ชั่วโมงเที่ยงนี้! ‘นันทิวัฒน์’ จับตารอบ 3 หากเขมรกล้าเปิด ไทยต้องจัดหนักจัดเต็ม
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์
เปิดคลิป คุณปู่ม้าเหล็ก M48 ของไทย ดวล T-55 เขมร 4 ต่อ 4 หวานเจี๊ยบระเบิดยับ
เพจ Army Military Force เปิดคลิประทึกสมรภูมิ! ทหารม้าแห่งกองพันทหารม้าที่ 8 ( ม.พัน.8 )นำคุณปู่ม้าเหล็ก M48A5PI Patton เ
'สีหศักดิ์' ถึงยูนนาน ถกจนท.-ทหารไทย พร้อมหารือไตรภาคี
'สีหศักดิ์' ถึง 'ยูนนาน' ประชุมร่วมเจ้าหน้าที่-ทหารฝ่ายไทย เตรียมพร้อมก่อนหารือไตรภาคี หลังข้อตกลงหยุดยิง
'จีน-ไทย-เขมร' เปิดฉากไตรภาคี นานาชาติร่วมยินดีหยุดยิง
'จีน-ไทย- กัมพูชา' หารือไตรภาคี หลังหยุดยิง นานาชาติร่วมยินดีไทย กต. ยืนยันยังคงรวบรวมหลักฐานทุ่นระเบิด เสนอตามกรอบออตตาวา ในฐานะรัฐภาคีที่รับผิดชอบต่ออนุสัญญา
กองทัพยังไม่พบเหตุละเมิดหยุดยิง ยันห้ามเขมรกลับเข้า 'บ้านหนองจาน'
กองทัพยันยังไม่พบเหตุการณ์ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง 72 ชม. ไทยยึดเคร่งครัด แจงชาวกัมพูชากลับเข้า 'บ้านหนองจาน' ในเขตฝ่ายไทยไม่ได้

