ดร.ณัฏฐ์ เผย ปมคลิปแพทองธาร- ฮุนเซน ทำลายความชอบธรรมรัฐบาล กลไกรัฐธรรมนูญ-ลาออก-ยุบสภา แม้ภูมิใจไทย ถอนตัวร่วมรัฐบาล ไม่พ้นคดีฮั้ว สว.
19 มิถุนายน 2568 - สืบเนื่องจากมีการปล่อยคลิปการเจรจาการพูดคุยระหว่างประเทศ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุนเซน ประธานพฤฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต่อมานางสาวแพทองธารฯได้แถลงโต้กลับ อ้างว่า เป็นเทคนิคการเจรจาในเชิงประนีประนอม รักษาผลประโยชน์ผลประโยชน์ของประเทศและยังไม่ได้ตกลงกับสมเด็จฮุนเซน โดยได้โทรศัพท์พูดคุยปรับความเข้าใจกับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 แล้ว ในช่วงค่ำวันเดียวกัน พรรคภูมิใจไทยได้ออกประกาศถอนตัวร่วมรัฐบาลและให้รัฐมนตรีของพรรคลาออกจากตำแหน่งรวมทั้งตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 2 โดยให้มีผลทันทีในวันนี้นััน
ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้ให้ความเห็นทางด้านกฎหมายมหาชนเพื่อประโยชน์สาธารณะ ว่า กลไกลรัฐธรรมนูญได้กำหนดวิธีกรณีนายกรัฐมนตรีลาออก- ยุบสภา เป็นไปหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่กรณีศึกนอก-ศึกในของรัฐบาลแพทองธาร ในปมร้อน ไม่ว่าจะยึดกระทรวงมหาดไทยคืน หรือกรณีปล่อยคลิปเสียงการพูดคุยทางลับระหว่างนางสาวแพทองธารฯกับสมเด็จฮุนเซนในปัญหาดินแดนพิพาท ทำให้กระแสการเมืองร้อนแรง มีผลต่อเสถียรภาพและความสั่นคลอนของรัฐบาล
หากวิเคราะห์เกมการเมือง หากรัฐบาลนางสาวแพทองธารฯ “อยู่ต่อ” ต้องดูท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล จะถอนตัวเพิ่มเติมหรือไม่ มีผลสถานะเสถียรภาพของรัฐบาลโดยตรง หากถอนตัวเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ไปเป็นฝ่ายค้าน ทำให้เสียงหายไป 69 เสียง (ในทางพฤตินัย 71 เสียง) รัฐบาลอาจปรับเกลี่ยโควต้ารัฐมนตรี ให้แก่กลุ่มก๊วนเสียงสนับสนุนต่างๆฝ่ายรัฐบาลได้ ในการปรับ ครม.แพทองธาร 2
หากวิเคราะห์สมการตัวเลข สส ส.ส.ในชุดปั มีทั้งหมด 495 เสียง หากพรรคภูมิใจไทยถอนตัว ทำให้รัฐบาลมีเสียงเหลือเพียง 261 เสียง ฝ่ายค้านเพิ่มเสียงเป็น 234 เสียง รัฐบาลยังไปต่อได้
ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า ส่วนหากนางสาวแพทองธารฯ ไม่ไปต่อ โดย“ลาออก” ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธารฯพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (2)ประกอบมาตรา 167 (1) แต่เนื่องจากวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังเหลืออยู่ ประมาณ 1 ปี กับ 11 เดือนเศษ สภาผู้แทนราษฎรยังคงมีอยู่ กลไกรัฐธรรมนูญ จะต้องให้ ส.ส เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159
การเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องหยิบในตระกล้าที่พรรคการเมืองต่างๆที่ยื่นไว้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 บุคคลที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องไม่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 และ พรรคการเมืองนั้นจะต้องมี สส.ไม่น้อยกว่า 5% จาก สส.500 คน หรือจำนวน 25 คน ซึ่ง นางสาวแพทองธารฯลาออกโดยไม่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการเป็นรัฐมนตรี ย่อมไม่ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 แกนนำพรรคเพื่อไทย หรือ ส.ส. สามารถเสนอรายชื่อนางสาวแพทองธารฯใหม่ได้ หรือ สส.จะไปเลือกจากพรรคการเมืองก็ได้
ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า เกมการเมืองกลไกรัฐธรรมนูญ หากนางสาวแพทองธารฯ“ยุบสภา” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 103 วรรคหนึ่ง ส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ทำให้สถานะความเป็นสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร-คณะรัฐมนตรีสิ้นลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(1) ประกอบมาตรา 167(2) แต่กลไกลรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้คณะรัฐมนตรีรักษาการต่อไปได้ แต่จะโยกย้ายข้าราชการประจำ-อนุมัติงบประมาณจะต้องขออนุมัติจาก กกต.
ส่วน“การจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่” กรณียุบสภา รัฐธรรมนูญ นับแต่วันที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา กำหนดให้ กกต.ภายใน 5 วันให้กำหนดวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน นับแต่พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 103 วรรคสาม
ในขณะเดียวกัน ผู้สมัคร สส.รัฐธรรมนูญกำหนดจะต้องสังกัดพรรคการเมืองในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.โดยระยะเวลาในการสังกัดพรรคการเมือง จาก 90 วัน ลดลงเหลือ 30 วันนับถึงวันเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 97(3)
ที่ถามว่า กรณีพรรคภูมิใจไทยถอนตัวและลาออกจากตำแหน่งทางการเมือง ทำให้พ้นจากคดีฮั้ว สว.หรือไม่ ดร.ณัฏฐ์ อธิบายว่า การถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาลกับกรณีถูกคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต.ชุดที่ 26 แจ้งข้อกล่าวหาในคดีฮั้ว สว. เป็นคนละส่วนกัน ส่วนตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย บอกว่าเป็นคดีการเมือง คงไม่น่าจะใช่ คดีที่ถูกกล่าวหา ล้วนเป็นคดีทุจริตการเลือก สว.
การถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านคดีทุจริต ฮั้ว สว.ยังเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะถอนตัวร่วมรัฐบาลหรือกรณีนางสาวแพทองธารฯนายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจในทางการเมืองไม่ว่าในทางใดๆ แต่ตั้งข้อสังเกตว่า การถอนตัวร่วมรัฐบาลในจังหวะปมคลิปเสียงถูกปล่อยออกมา แม้จะถูกใจผู้สนับสนุนกลุ่มอนุรักษ์นิยมหรือผู้สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ดูเหมือนเป็น“พระเอก”โดยไม่รอให้ถูกปรับ ครม.ให้ออก เพราะถึงอย่างไรเล็งเห็นผล ย่อมเป็นฝ่ายค้าน โดยพิจารณาจากพฤติการณ์นายอนุทินฯ ขนของออกจากกระทรวง-อำลาข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ดังนั้น อาจเป็นผลทางด้านจิตวิทยา ปลุกเร้าชาตินิยม แต่ผลการเป็นฝ่ายค้านของพรรคภูมิใจไทย หากรัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ ย่อมทำให้คะแนนนิยมในการเลือกตั้งปี 2570 ของพรรคภูมิใจไทยลดลงเพราะไม่ได้คุมกระทรวงอำนาจ เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือ จัดวางเกมอำนาจใหม่ รัฐบาลไม่ยุบสภา-ลาออก ประกอบกับพรรคภูมิใจไทยออกแบบมาเป็นพรรคท้องถิ่น เน้นเป็นรัฐบาล ค้านไม่เป็น ห้อยเปลียเสียขา ทำให้ผลการเลือกตั้งตามคาดหวัง 120 ที่นั่งจะลดลงแถมเผชิญกับคดีฮั้ว สว.สีน้ำเงิน เพราะแกนนำพรรคภูมิใจไทยจะถูกคดีฟอกเงิน ยึดทรัพย์จากดีเอสไอ ตามมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
🛑LIVE ร้องข้ามกำแพงคุก!! | ห้องข่าวไทยโพสต์
ร้องข้ามกำแพงคุก!! ห้องข่าวไทยโพสต์ : ประจำวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘อนุทิน’ เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง ข้าราชการการเมือง 1 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๔๔๕/๒๕๖๘ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย


