ดร.ณัฏฐ์ ชี้กลไกรัฐธรรมนูญ 'ต่อลมหายใจ' รัฐบาลแพทองธาร ท่ามกลางศึกนอก-ศึกใน

“ดร.ณัฏฐ์” วิเคราะห์ศึกนอก-ศึกใน โจมตีรัฐบาลแพทองธารทั้งคลิปเสียงฮุน เซน ปมทักษิณ และการถอนตัวของภูมิใจไทย แต่กลไกรัฐธรรมนูญกลับเป็นเกราะยืดอายุรัฐบาล สุดท้ายเกมอำนาจอาจจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ

28 มิถุนายน 2568 - จากสถานการณ์ที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เผชิญแรงกดดันทั้งศึกนอกและศึกใน ตั้งแต่การเคลื่อนไหวของสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เผยข้อมูลโจมตีทักษิณและแพทองธาร ไปจนถึงพรรคภูมิใจไทยถอนตัวร่วมรัฐบาลประกาศยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะทันทีที่เปิดสมัยประชุมเดือนกรกฎาคม

ล่าสุด ดร.ณัฏฐ์ หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน แสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะว่า เกมแห่งอำนาจรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เจอศึกหนัก ภายหลังปล่อยคลิปเสียงการบันทึกการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร-นายฮุน เซน ส่งผลให้สั่นคลอนรัฐบาล เกิดกระแสเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุยสภาหรือลาออก แต่ผลทางรัฐธรรมนูญแตกต่างกัน หากยุบสภา คือ การคืนอำนาจให้แก่ประชาชน ส่วนการลาออก คือ การเปลี่ยนม้ากลางศึก จับขั้วรัฐบาลใหม่ รัฐบาลใหม่บริหารประเทศภายในกรอบเวลาที่สภาเหลืออยู่

ดร.ณัฏฐ์ กล่าวว่าการเปิดปมข้อมูลต่างๆของนายฮุนเซน อดีตผู้นำกัมพูชาและประธานพฤฒิสภา หากแปลเป็นภาษาไทย บางส่วนบางตอนที่เปิดเผย เป็นข้อมูลเก่า  ถือเป็นข้อข้อเท็จจริงที่รู้กันอยู่ทั่วไป ไม่ใช่ข้อเท็จจริงใหม่  แต่มีบางประเด็นคาบเกี่ยวในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาฯ  แต่ในมิติทางกฎหมาย ข้อมูลที่เปิดเผยผ่านโซเชี่ยล ไม่มีหลักฐานใดอ้างอิงสนับสนุนเพื่อนำไปสู่การพิสูจน์พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และเป็นพยานหลักฐานนอกสำนวน ถือเป็นเพียงพยานบอกเล่า น้ำหนักน้อย ไม่อาจรับฟังได้

แม้จะมีประเด็นที่ปั่นกระแส พาดพิงถึงอาการเจ็บป่วยของนายทักษิณ ชินวัตรเพื่อเป็นหมัดน็อกนางสาวแพทองธารฯ นายกรัฐมนตรี และนายทักษิณฯ ผู้เป็นบิดา เป้าหมายเพื่อสร้างกระแสความไม่พอใจและบีบให้เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงล้มนโยบายกาสิโน ที่พรรคเพื่อไทยหวังผลักดัน ร่าง พรบ.สถานบันเทิง หรือเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์และเปิดเป็นคู่แข่งกัมพูชา

โดยอ้างในการกล่าวสุนทรพจน์ว่า ขณะที่นายฮุนเซน ไปพบนายทักษิณฯ ที่บ้านพักส่วนตัวในกรุงเทพฯ โดยระบุถึงพฤติกรรมที่พบเห็นว่า มีการนำอุปกรณ์เฝือกอ่อนมาสวมใส่ในขณะถ่ายรูป เพื่อให้สมจริง ตีเนียนว่า เจ็บป่วยจริง แต่ความจริงไม่เจ็บป่วย เพื่อหลอกลวงคนไทยทั้งประเทศนั้น   ในประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับการไต่สวนของศาลฎีกา เวชระเบียนของแพทย์ รพ.ตำรวจที่บันทึกข้อมูลอาการเจ็บป่วย เป็นข้อชี้ขาด เพราะนายฮุนเซนฯ ไม่ใช้แพทย์ ผู้ตรวจรักษา  โดยช่วงเวลาที่นายฮุนเซน มาพบนายทักษิณฯ เป็นระยะเวลานายทักษิณฯ พ้นจากการถูกคุมขังของกรมราชทัณฑ์แล้ว  อยู่ช่วงเวลาในการพักโทษระหว่างพักฟื้นร่างกายแล้ว ข้อกล่าวหา ในขณะมีสาเหตุโกรธเคืองกัน อาจเป็นการปั้นแต่งข้อเท็จจริงบิดเบือนข้อเท็จจริง ย่อมมีน้ำหนักน้อย

ดร.ณัฏฐ์ กล่าวว่า ในมิติทางการเมือง นายฮุน เซน กล่าวสุนทรพจน์และพาดพิงถึงบุคคลภายนอกประเทศ ไม่ได้กระทำในฐานะรัฐบาลกัมพูชา แม้จะกล่าวและไลฟ์สด เพื่อเป้าประสงค์ทางอ้อมให้เปลี่ยนแปนายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามที่ตนต้องการ  โดยอ้างอิงแนวทาง กล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณะ  โดนัล ทรัมป์ ปธน.สหรัฐอเมริกา  อาจกระทบภัยความมั่นคง  แต่ไม่กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลภายในประเทศ  เพราะนายฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชา ไม่อาจแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย แม้จะมีคลิปลับมาขู่จะเปิดเผยเพื่อสนับสนุนคำพูดของตนเอง ต่อสาธารณชนให้มีน้ำหนักความน่าเชื่อถือหรือไม่ก็ตาม 

เขา กล่าวว่า กรณีประกาศถอนตัวร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย ไปเป็นฝ่ายแค้น  ชิงธงนำมีมติยื่นญัตติขออภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151  เป็นกลไกรัฐธรรมนูญ สามารถตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลได้ เพราะคำว่า “ให้กระทำได้ปีละหนึ่งครั้ง”ตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญให้ถือตามวงรอบเวลาของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ถือตามรอบปีปฏิทิน โดยสามารถกระทำได้ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง แม้จะเคยยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรายบุคคล ในเดือนมีนาคม 2568 มาแล้วก็ตาม

นักกฎหมายมหาชน กล่าวต่อว่าในมิติด้านกฎหมาย จะต้องใช้เสียงจำนวน 1 ใน 5 ของ ส.ส.ที่มีอยู่ในสภา ปัจจุบัน 495 คน จะต้องใช้เสียงสนับสนุนและลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจำนวน  99 คน พรรคภูมิใจไทย มี ส.ส.69 คน ขาดไป 30 คน แม้พรรคพลังประชารัฐจะเติมเสียง ยังไม่ครบตามเงื่อนไข  หากเติมเสียงฝ่ายค้าน ครบเงื่อนไขตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ย่อมสามารถใช้ช่องทางนี้ ตรวจสอบคณะรัฐมนตรีทั้งคณะหรือรายบุคคล ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้งคณะหรือรายบุคคล มาตรา 151   เมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎรรับบรรจุตามข้อบังคับการประชุมแล้ว ผลทางกฎหมาย นางสาวแพทองธารฯ นายกรัฐมนตรี ไม่อาจยุบสภาได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 วรรคสอง

แต่ในมิติทางการเมือง  กลไกรัฐธรรมนูญห้ามนายกรัฐมนตรียุบสภา แม้ไม่ห้ามลาออก แต่เทคนิคช่องทางนี้ ส่งผลให้“ต่อลมหายใจฝ่ายรัฐบาล

ในแง่สมการคณิตศาสตร์ทางการเมือง ฝ่ายรัฐบาลรวบรวมเสียงและคุมเสียงข้างมากเด็ดขาด แถมมีงูเห่าฝากเลี้ยง การใช่ช่องทางนี้ โอกาสล้มรัฐบาลในระดับน้อย เพราะเกมแห่งอำนาจ ใช้กลไกรัฐธรรมนูญ วัดกันที่เสียงฝ่ายค้าน ต้องใช้เสียงไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 วรรคสี่  ย่อมมีผลต่อการชุมนุมภาคประชาชน ที่ประเดิมการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันนี้  เพราะข้อเรียกร้องพุ่งเป้าไปที่นางสาวแพทองธารฯ นายกรัฐมนตรี หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ โดยให้ลาออก-ยุบสภา ทำให้โอกาสจุดติด ลุกลามไปทั่วภูมิภาคของประเทศในระดับน้อย

“เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ เพราะเกมของฝ่ายแค้นในสภา กับเกมการเรียกร้องของภาคประชาชนไม่ว่าจะใช้ชื่อกลุ่มอะไร เป็นความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ แม้ต่างฝ่ายอ้างว่า ไม่เกี่ยวข้องกันก็ตาม แต่เกมแห่งอำนาจ เข้าลักษณะ สุภาษิตไทยที่ว่าปากว่าตาขยิบ” ดร.ณัฏฐ์ กล่าวและว่าการต่อท่อลมหายใจให้รัฐบาล ของฝ่ายแค้น ส่งผลให้แกนนำชุมชนตั้งเป้าประสงค์ ใช้โมเดล ควักมือให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ ดั่งในปี 2549 และปี 2557 ย่อมไม่สัมพันธ์กันในเชิงอำนาจ และโอกาสจุดติดในระดับน้อย แม้นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตร และนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช.จะเปลี่ยนอุดมการณ์ชั่วคราวแล้วหันมาจับมือ ผนึกกำลังกันก็ตาม

แต่กลไกรัฐธรรมนูญสอดคล้อง โมเดลปรับ ครม.นายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นการสวมหมวก 2 ใบ ระหว่าง สถานะนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เป็นฝ่ายบริหาร และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน

เป็นเทคนิครองรับกลเกมนิติสงคราม เป็นกลเกมแห่งอำนาจ หากพลาดท่า ในประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568  นางสาวแพทองธารฯ อาจถูกศาลรัฐธรรมนูญรับคดีและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  แต่ยังสวมหมวกรัฐมนตรีอีกใบ แม้ศาลสั่งห้ามทำหน้าที่นายรัฐมนตรีเพียงชั่วคราว แต่รัฐธรรมนูญไม่ห้ามทำหน้าที่รัฐมนตรีที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่

เพราะเกินคำขอตามคำร้องของ สว.สีน้ำเงิน และที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา นำคำร้องของ สว.ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ แนวโน้ม ศาลรัฐธรรมนูญรับคดีไว้พิจารณา แต่อาจไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ได้ เป็นกลเกมแห่งอำนาจ อ่านเกมการเมืองขาด  เป็นเทคนิค”เกลือจิ้มเกลือ“ เกมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เคยใช้ ช่องทางกลไกรัฐธรรมนูญนี้

กลเกมแห่งอำนาจและกลไกรัฐธรรมนูญ เป็นช่องทางต่อท่อลมหายใจให้นางสาวแพทองธารฯ เพราะพรรคภูมิใจไทย อ่านเกมพลาด ชิงธงนำเพื่อบดขยี้ จนลืมไปว่า ตนเองเพิ่งบริหารกระทรวงหลายกระทรวงที่ผ่านมาทิ้งรอยบาดแผลให้ฝ่ายรัฐบาลบี้กลับได้ ดังจะเห็นจากนโยบายกัญชาเสรี

“กลเกมอำนาจการเมือง เป็นช่องทางยืดเวลาให้รัฐบาลยาวนานขึ้น เป็นผลดีมากกว่าผลเสียรัฐบาล แนวโน้ม โอกาสยุบสภาเป็นศูนย์ ส่วนการลาออก เปลี่ยนม้ากลางศึก คงไม่มี แนวโน้มสูง กลเกมแห่งอำนาจและกลไกรัฐธรรมนูญ  แนวทางแพทองธารฯ นายกรัฐมนตรี ใช้ทางเลือกสุดท้ายสู้สุดซอย  ต้องไปรอลุ้นคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โอกาสในช่วงนี้ ควักมือทหารมาให้ยึดอำนาจยังไม่เกิดแน่นอน”