'ศุภชัย' อัด 'ภูมิธรรม' ขู่เด้งอธิบดีกรมที่ดิน ใช้อำนาจเกินขอบเขต ทำลายระบบราชการ

"ศุภชัย" เตือน "ภูมิธรรม" ขู่ย้ายอธิบดีกรมที่ดิน ปมเขากระโดง ชี้ใช้อำนาจเกินขอบเขต ละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทำลายระบบราชการ

21 กรกฎาคม 2568 - นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะย้ายอธิบดีกรมที่ดิน และตั้งกรรมการสอบปมเขากระโดง ว่า ตั้งแต่นายภูมิธรรมเข้ารับตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย ได้มีการย้ายอธิบดีกรมการปกครอง และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งกล่าวกันว่าเพราะทั้ง 2 คนนี้ได้รับการแต่งตั้งจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเคยรับราชการในจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่นานก็เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วบอกว่าคนไหนไม่มาก็ขู่ย้ายและวันนี้ขู่ว่าจะย้ายอธิบดีกรมที่ดินอีกเป็นรายที่สาม ทั้งที่ไม่ได้กระทำผิดหรือปฏิบัติหน้าที่เสียหายในตำแหน่งหน้าที่

นายศุภชัย ตั้งคำถามถึงผลงานของนายภูมิธรรมในกระทรวงมหาดไทยว่า มีเพียงแค่การย้ายข้าราชการระดับสูง และสงสัยว่าการกระทำเหล่านี้เป็นไปเพื่อสนองความต้องการของใครที่ใหญ่กว่า นายภูมิธรรมหรือไม่

"สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ การปฎิบัติหน้าที่ทั้งข้าราชการการเมืองหรือฝ่ายประจำต้องยึดอยู่หลักนิติธรรม (Rule of Law) และต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ (Good Governance) อธิบดี 2 คนที่ถูกย้ายไปแล้วอยู่ภายใต้กฎ กพ. ผู้มีอำนาจออกคำสั่งโยกย้ายคือ ปลัดกระทรวง รัฐมนตรีมีอำนาจในการย้ายได้เพียงคนเดียวในกระทรวงคือ ปลัดกระทรวง แต่ท่านคงกดดันจนทำให้ปลัดกระทรวงต้องออกคำสั่งย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการ ถือเป็นการลดตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ของบุคคลเหล่านั้น แม้จะเป็นระดับซี 10 เท่ากัน ทราบว่าทั้ง 2 คนกำลังอยู่ในขั้นตอนการร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม และฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม"

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า การขู่ย้ายอธิบดีกรมที่ดินเรื่องเขากระโดง แสดงให้เห็นว่านายภูมิธรรมไม่เข้าใจข้อเท็จจริงของคดีนี้ ซึ่งอธิบดีคนปัจจุบันได้ดำเนินการไปตามกฎหมายและคำสั่งศาลปกครองที่ให้ตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 การใช้อำนาจลักษณะนี้อาจทำให้ นายภูมิธรรมเองถูกฟ้องร้องและดำเนินคดีได้ และที่สำคัญที่สุดคือจะทำให้ระบบราชการเสียหาย เป็นการข่มขู่ข้าราชการให้เกรงกลัวและอาจนำไปสู่การลุกฮือของข้าราชการจากการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมนั้น

"วันนี้การกระทำของท่านคือการทำลายระบบคุณธรรม ท่านกำลังทำผิดกฎหมาย ขอเตือนด้วยความระมัดระวังว่า ถ้าในที่สุดข้าราชการลุกฮือจากการใช้อํานาจที่ไม่เป็นธรรมของท่าน มันจะได้รับความเสียหายแก่ตัวและพรรคของท่านเอง ผมไม่รู้ทําไมท่านรีบอะไรนักหนา หรือท่านกลัวว่าวันนี้รัฐบาลท่านจะอยู่ได้ไม่นาน" ประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย กล่าว

นายศุภชัย ยังอ้างคำกล่าวของนักปรัชญา Lord Acton เคยพูดไว้ว่า "Power tends to corrupt, absolute power corrupts absolutely " ที่แปลว่า อำนาจมีแนวโน้มที่จะทำให้ฉ้อฉล อำนาจเบ็ดเสร็จก็ฉ้อฉลเบ็ดเสร็จ เพื่อเตือนว่าการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จนั้นเป็นการฉ้อฉล และในที่สุดการใช้อำนาจในลักษณะนี้ก็จะย้อนกลับไปถึงตัวผู้ใช้อำนาจเอง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต เป็นสไตล์ส่วนตัวไม่ชอบตอบโต้ ขอเอาเรื่องอธิปไตยให้จบก่อน

"อนุทิน" แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต ภารกิจแน่น มองเรื่องความมั่นคงสำคัญกว่า เอาเรื่องอธิปไตยก่อน ยอมรับพูดไม่เก่ง ไม่ชอบตอบโต้ พยายามหลีกเลี่ยงทะเลาะกัน เผยจุดอ่อนให้พูด 3 ชั่วโมง ทำได้ แต่ให้พูด 2 นาที ทำไม่ได้

'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง

โฆษกรัฐบาล ยัน 'ศุภจี' ไม่ขาดคุณสมบัติ ไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่ทำหนังสือแจ้งเหตุแล้ว

"สิริพงศ์" ระบุ "ศุภจี" มีเหตุไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่แจ้งเหตุแล้ว ยันไม่ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งการเมือง วอนอย่าสร้างความสับสน ให้คนทำงานเสียกำลังใจ

'เท้ง' ลั่นเลือกตั้งครั้งนี้ แข่งกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคประชาชนกับภูมิใจไทย

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในเมื่อคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชน

’อนุทิน‘ ชัด ไม่ร่วมรัฐบาลพรรคประชาชน ปมยังเดินหน้าแก้ ม.112

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจุดยืนชัด ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดีเบตไทยรัฐทีวี ย้ำต่างอุดมการณ์ แต่ยังทำงานร่วมกันได้ หากเป็นเรื่องแก้ปัญหาประชาชน